‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่’ ทุ่มงบ 120 ล้านบาท ปรับโฉมใหม่ ในรอบ 19 ปี

‘บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์’ (ILM) ยกระดับการช้อปครั้งใหญ่ ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์สาขาเชียงใหม่’ รีโนเวทใหม่หมดจด ในรอบ   19 ปี มุ่งสู่ THE BEST AND BIGGEST RETAIL FURNITURE AND HOME DECOR STORE IN NORTHERN THAILAND ปั้นแลนด์มาร์ค Living Lifestyle Mall เพื่อคนรักบ้านตอบโจทย์ด้านสินค้าและบริการที่ดีที่สุด ครบที่สุดในภาคเหนือ โดยทุ่มงบ 120 ล้านบาท สร้าง ‘THE NEW LIFE EXPERIENCE’ รูปแบบ Digital Store ส่งต่อประสบการณ์ช้อปด้วยสินค้าและบริการเรื่องบ้านที่ครบครันรองรับการตลาด B2B เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าและการเติบโตของเมืองเชียงใหม่ บนพื้นที่กว่า 12,000    ตร.ม. พร้อมขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนครบทุกมิติ  ตั้งเป้าหมายดันรายได้ปี 2568 เติบโตอย่างต่อเนื่อง
.
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ภายในบ้าน และของตกแต่งบ้าน กล่าวว่า ‘อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่’ นับว่าเป็นสาขายุทธศาสตร์ที่สำคัญด้วยภูมิทัศน์ที่มีความสำคัญทางธุรกิจ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศอยู่ประมาณ 22,436 ตารางกิโลเมตร ส่งผลให้เป็นจังหวัดที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนือให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เกือบ 20 ปีที่ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ กลายเป็นศูนย์รวมสินค้า Living Lifestyle Mallเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน ‘มาที่เดียวครบจบทั้งบ้าน’ และเป็นเดสทิเนชันสำหรับทุกครอบครัวของคนภาคเหนือรวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอย่างยาวนาน  อีกทั้งการดำเนินธุรกิจดำเนินภายใต้กรอบ ESG การดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยได้สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับชุมชน
.
ล่าสุดบริษัทฯ ได้พลิกโฉม อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์ช้อปใหม่ให้ครบครันและครอบคลุมทุกชั้นทุกแผนก ทุ่มงบ 120 ล้านบาทกับ NEW LOOK ใหม่อย่างยิ่งใหญ่ในรอบ 19 ปี ภายใต้แนวคิด ‘THE NEW LIFE EXPERIENCE’ ชีวิตลงตัวได้ง่ายๆ ตอบทุกไลฟ์สไตล์คนเมืองมุ่งสู่ THE BEST AND BIGGEST RETAIL FURNITURE AND HOME DECOR STORE IN NORTHERN THAILAND  ตอบโจทย์ครบไลฟ์สไตล์เรื่องบ้าน เพราะด้วยศักยภาพของจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับปี 2568 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เดินหน้าสร้าง City Branding จัดอีเวนต์ 12 เดือน 12 ธีม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาอาศัยและท่องเที่ยวตลอด ทั้งปี ซึ่งการเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและนโยบายภาครัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯ เปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเช่าอสังหาฯ ในประเทศไทยระยะยาวส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์ในจ.เชียงใหม่ มีศักยภาพและโอกาสที่จะขยายตัวต่อได้ นอกจากนี้ไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง (Urbanlife) ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ ทำให้ผู้บริโภคมองหาสินค้าที่มีดีไซน์ทันสมัย ขนาดเหมาะสม คุณภาพดี และคุ้มค่าคุ้มราคา ซึ่งการปรับโฉมใหม่ของสาขาเชียงใหม่ได้ดีไซน์ในสไตล์ Modernism & Cozy ผสานความทันสมัยที่ดูผ่อนคลาย โดยได้นำกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นแบบล้านนามาผสานเพิ่มเสน่ห์ภายในร้านอย่างลงตัว โดยชู 3 ไฮไลท์ที่โดดเด่น ดังนี้
.

  • ‘Digital Store’ รองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคปัจจุบัน
    การใช้ Digital Signage :  จอ LED แจ้งข้อมูลประชาสัมพันธ์ต่างๆ สามารถคอนโทรลจากส่วนกลางแบบเรียลไทม์  เพื่อไม่พลาดการอัปเดตข่าวสาร แคมเปญโปรโมชันส่งเสริมการตลาด สินค้าใหม่และบริการต่างๆ  เพื่อสร้างประสบการณ์ช้อปด้วยภาพและเสียงให้ชวนติดตาม  อันจะนำไปสู่การกระตุ้นการรับรู้และการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการได้มากยิ่งขึ้น ด้วยการสื่อสาร 3 ภาษา ทั้ง ไทย อังกฤษ และจีน ทั้งนี้ยังช่วยลดการใช้สื่อฯ รูปแบบงานปริ้นท์อีกด้วย  รวมถึง Mobile Cashier : พนักงานสามารถรับชำระเงินแบบบัตรเครดิต หรือเงินโอน QR ผ่านเครื่องรูดบัตรที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทุกที่เพื่อรองรับสะดวกสบายให้กับลูกค้า  
    .
  • ‘The New Life Experience’ ยกระดับประสบการณ์ช้อปใหม่ บนพื้นที่กว่า 12,000 ตร.ม.
    สร้างอินสไปร์ในบรรยากาศการช้อปสไตล์ Modernism & Cozy ที่ทันสมัยของวัสดุอะคริลิค กระจก การใช้ไลท์ติ้งเสมือนแสงจากธรรมชาติเข้ามาเพิ่มให้รู้สึกโปร่ง สบายตา ขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายด้วยโทนสีธรรมชาติ และวัสดุไม้ ทั้งยังนำ     ร่มบ่อสร้าง, ดอกทองกวาว สัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่มาสร้าง ELEMENT ภายในสโตร์  รวมถึงการวางเลย์เอ้าท์ให้มีความยืดหยุ่นในการจัดวางสินค้า  โดยใช้ผนังโปร่งด้วยไม้ระแนงและม่านโปร่งมาคั่นเฟอร์นิเจอร์แต่ละเซ็ตให้รู้สึกโปร่งโล่งเบาตา  เชื่อมโยงการ    ช้อปสินค้าได้อย่างลงตัว  และอลังการสินค้านับ 10,000 ไอเทม ครบทุกฟังก์ชันทั้งกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว กลุ่มเอ้าท์ดอร์ ที่นอน รวมถึงหมวดของตกแต่งบ้านและของใช้ภายในบ้าน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม อาทิ เฟอร์นิเจอร์ระดับลักชูรีจากแบรนด์ Younique (Built-in Solutions & Made to order), Tranddesign (เฟอร์นิเจอร์นำเข้าดีไซน์ Modern Elegance), Index Furniture, Logica (เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน) และเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความคุ้มค่าคุ้มราคา เจาะกลุ่มแมสจากแบรนด์ Winner, Furinboxนอกจากนี้ยังดับเบิ้ลความเป็นที่สุดของ Living Lifestyle Mall แห่งภาคเหนือกับ New Zone พบกับ โซน BUSINESS TO BUSINESS CENTER (B2B) ศูนย์บริการธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ ด้วยทีมงานช่วยดูแลด้านงานดีไซน์-การตกแต่งภายใน คอนโทรลค่าใช้จ่ายภายใต้งบที่จำกัด ทั้งธุรกิจ SME, งานโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบ, โรงแรม, โรงพยาบาล สามารถปิดจบครบทุกโซลูชันและความต้องการ, โซน DESIGN STUDIOดีไซน์เนอร์ฮับที่คอยให้คำแนะนำและออกแบบห้องเสมือนจริงด้วยโปรแกรมทันสมัย,   โซน VIP LOUNGE มุมรับรองลูกค้าระหว่างเลือกสินค้าและรับบริการ, โซน WINECORNER สนุกกับการดื่มด่ำไวน์ได้เต็มพิกัดด้วยอุปกรณ์พรีเมียมแบบล้ำๆ  
    .
  • ‘Sustainability’ สร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
    เพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนภายใน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ ด้วย กลุ่มสินค้า Eco Product     ในหมวดสินค้าของใช้ภายในบ้าน และของแต่งบ้าน ที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเปิดตัวเฟอร์นิเจอร์ซีรีส์ใหม่ ‘เคียงตั๋ว’ เฟอร์นิเจอร์ไม้จริงที่พัฒนาร่วมกับชุมชนบ้านกิ่วแลน้อย อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ นำหัตถศิลป์งานแกะสลักไม้สักสไตล์ล้านนาเชื่อมโยงเข้ากับเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นในปัจจุบันให้ออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงรูปแบบใหม่ โดยนำไม้สักเก่าเหลือใช้จากชุมชนและไม้ยางพาราที่ไม่ผลิตน้ำยางแล้ว  มาสร้างสรรค์สู่ Lannavian Style Furniture ทั้งนี้ยังป็นการสร้างรายได้และยกระดับงานคราฟท์จากกลุ่มชุมชนบ้านกิ่วแลน้อยให้เป็นชิ้นงาน ART PIECE อีกด้วย นอกจากนี้ยังส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop(พลังงานแสงอาทิตย์) ด้วยแผงโซลาร์เซลล์กำลังการผลิต 520 kWp ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ราว 264,589.93 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (kgCO2eq) สามารถเซฟค่าไฟเฉลี่ย 3 ล้านบาทต่อปีนอกจากนี้บริษัทฯ ยังลดการผลิตสื่อฯ แบบปริ้นท์ รวมถึงเพิ่มสัดส่วนกระดาษที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นางสาวกฤษชนก กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับรีโนเวท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ สาขาเชียงใหม่ครั้งนี้ ถือเป็นการอัปลุคให้โมเดิร์นทันสมัย และตอบโจทย์ความครบครันด้านสินค้าและบริการที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุดบนพื้นที่ภาคเหนือ โดยรองรับความต้องการทุกกลุ่มทั้งระดับแมสและระดับลักชูรี รวมถึงบริการเกี่ยวกับบ้านแบบครบวงจร  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังขยายรูปแบบธุรกิจ B2B รองรับธุรกิจ SME, งานโครงการที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบ, โรงแรม เป็นต้น ซึ่งจะมีทีมฝ่ายขายและทีมดีไซน์เนอร์ให้บริการจบครบลูพในที่เดียว ทั้งนี้เพื่อรองรับการเติบโตในทุกด้านของเมืองเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงในโซนภาคเหนือ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการให้   เช่าพื้นที่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าปัจจุบัน  และช่วยเพิ่มทราฟฟิกให้สโตร์คึกคักมากยิ่งขึ้น อาทิ Jetts Fitness (ฟิตเนส 24 ชั่วโมง), ร้าน K N P เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงร้านคาเฟ่ ที่เตรียมเปิดให้บริการเร็วๆ นี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น