11703

เตือน! รถบรรทุกขนหินดินทราย ต้องมีผ้าคุลม ฝ่าฝืนปรับ 5,000 บาท

ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งเตือนผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุก ให้กำชับพนักงานขับรถ ต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันมิให้สัตว์หรือสิ่งของที่บรรทุกตกหล่น สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ กำชับผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุก ให้พนักงานขับรถ หากใช้รถบรรทุก หิน ดิน ทราย หรือสิ่งของ ต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันมิให้สัตว์หรือสิ่งของที่บรรทุก ตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสงสะท้อน หรือปลิวไปจากรถ อันอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ซึ่งการฝ่าฝืนดังกล่าวจะมีการผิดตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนหรือผู้ใช้รถใช้ถนนได้พบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลทะเบียนรถ วัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ พร้อมภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอการกระทำผิด มายังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 1584 หรือทาง Facebook สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ โทร. 053 270411 ในวันและเวลาราชการ

เตือน! ต้มน้ำกระท่อมขาย ผิดกฎหมาย คุกหนัก-ปรับอ่วม

วันที่ 16 มกราคม 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 454 ออกตาม พ.ร.บ.อาหาร ปี 22 ว่าด้วย เรื่องกำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายที่ระบุบัญชีแนบท้ายไว้หลายรายการ และกระท่อมสารสกัดเป็นหนึ่งในบัญชีแนบท้ายรายการที่ 52 ยังถูกจำกัดห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย นั้น นายคารม ย้ำเตือน พ่อค้า แม่ค้า ที่ขายกระท่อมต้องรู้ว่า ใบกระท่อมขายได้เฉพาะใบสดเท่านั้น  แต่ถ้าต้มขาย ระวังโดนจับ ซึ่งการขายที่ไม่ผิดกฎหมาย มีดังนี้ ปลูก ซื้อ ขาย ต้นกระท่อม ขายใบสด ลำต้น เมล็ด เป็นต้น ส่วนการต้มน้ำกระท่อมดื่มเองหรือแจกจ่ายกันโดยไม่ได้ขายไม่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ จะต้องไม่มีส่วนผสมของยาแก้ไอ   “ต้มน้ำกระท่อมเพื่อขาย ผิดกฎหมาย มีโทษตามมาตรา 50 จำคุก 6 เดือน-2 ปี ปรับ […]

คิดใหม่! ทะเลาะวิวาทกันไม่ได้ปรับแค่ 500 บาท

กระทรวงยุติธรรม เผยว่าหากบุคคลเกิดเหตุการณ์ไม่พอใจกัน แล้วคิดว่าการทะเลาะและใช้กำลังทำร้ายกัน จะต้องจ่ายค่าปรับแค่ 500 บาทแล้วจะทำให้เรื่องจบนั้น ปัจจุบันอัตราโทษของการใช้กำลังมากกว่าสติ “สูงกว่าที่คิด” หากพลาดทำผิดไป มีกฎหมายรออยู่ ดังนี้: • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 ผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถาน หรือกระทำโดยประการอื่นใดให้เสียความสงบเรียบร้อยในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท • มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (อัตราโทษแก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ. 2558) ที่สำคัญ หาก “ถ่ายคลิปวิดีโอและนำไปเผยแพร่ (Facebook live)” หรือเผยแพร่ลงที่ใดก็ตาม “จะมีโทษเพิ่มด้วย” เนื่องจากเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 16 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า […]

ไขคำตอบ “ผ่อนรถไม่ไหว เอาไปคืนได้หรือไม่?

หากประสบกับปัญหาผ่อนค่างวดรถไม่ไหว เนื่องจากมีภาระทางการเงินต่อเดือนเยอะ และประเมินแล้วว่าไม่สามารถจะรับภาระการผ่อนค่างวดรถให้ครบสัญญาได้อีกต่อไป คำถามของผู้เช่าซื้อจำนวนมากคือ “เราจะคืนรถได้หรือไม่?” การคืนรถ ถือเป็นการใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาของผู้เช่าซื้อ ซึ่งสามารถทำได้ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 573 ผู้เช่าจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ด้วยส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง สิ่งที่ต้องย้ำสำหรับการคืนรถนั้น ผู้เช่าซื้อจะเจ็บตัวน้อยที่สุดในความรับผิดที่ต้องชำระให้กับทางผู้ใช้เช่าซื้อหลังคืนรถ ต้องทำให้ถูกต้องตามขั้นตอนด้วย วิธีการคืนรถ ผู้ให้เช่าซื้อต้องยังไม่บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ผู้เช่าซื้อคืนได้ความรับผิดน้อยหรือไม่ต้องรับผิด ดังกรณีตัวอย่างตามคำพิพากษา ต่อไปนี้ กรณีที่ 1 การที่โจทก์รับรถไว้โดยไม่โต้แย้งคัดค้าน ถือว่า โจทก์และจำเลยที่ 1 สมัครใจเลิกสัญญากันโดยปริยาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคา กรณีที่ 2 จำเลยเป็นฝ่ายเริ่มต้นติดต่อกับโจทก์เพื่อคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อ แสดงให้เห็นจุดประสงค์ของจำเลยที่ต้องการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อเท่านั้น เมื่อโจทก์ได้รับการติดต่อก็ตกลงและนัดหมายรับรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนโดยมอบหมายให้ ส. ตัวแทนโจทก์ การที่จำเลยส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อให้แก่ ส. จึงเป็นเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อด้วยการส่งมอบทรัพย์คืนแก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 573 สัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิกกันนับแต่วันดังกล่าวแล้ว แม้ต่อมาจำเลยจะตกลงขายสิทธิการเช่าซื้อให้ ส. ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากสัญญาเช่าซื้อเลิกกันแล้ว เมื่อจำเลยมิได้ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อและไม่ปรากฏว่าขณะเลิกสัญญาจำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดต่อโจทก์อย่างไร จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามฟ้อง กรณีที่ 3 โจทก์ไม่ได้มีหนังสือบอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระตั้งแต่ 3 งวด ติดต่อกันขึ้นไปเป็นเวลาอย่างน้อย 30 […]

ขับช้า-แช่ขวา ต่ำกว่า 90 ก.ม./ชม. จะโดนโทษปรับจริงไหม?

กรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในประเด็นที่ว่า ห้ามไม่ให้รถยนต์ที่ใช้ความเร็วต่ำกว่า 90 ก.ม./ชม. วิ่งในช่องทางขวาสุดหากฝ่าฝืนมีโทษปรับ ทางกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ไม่มีนโยบายการแจ้งจับผู้ขับขี่ขับต่ำกว่า 90 กม.ในเลนขวาแต่อย่างใด แต่เป็นการรณรงค์ของกรมทางหลวงให้ใช้ความเร็วที่เหมาะสมตามแต่ละช่องจราจร เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุ จากสถิติมีการชี้ให้เห็นว่าการใช้ความเร็วรถยนต์ที่ต่ำกว่า 90 กม./ชม. ในช่องทางขวาสุดของถนนทางหลวง 4 ช่องทาง เป็นสาเหตุสำคัญของอุบัติเหตุอันดับที่ 2 หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด รองจากการเสียหลักตกข้างทาง ซึ่งมีสัดส่วนที่ 45%  สำหรับการกำหนดความเร็วที่เหมาะสมสำหรับในแต่ละช่องจราจร มีการกำหนดไว้ว่า ช่องทางขวาสุดให้รถยนต์ใช้ความเร็วได้สูงสุด และให้รถยนต์ที่วิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 90 กม./ชม. อยู่ในช่องทางอื่น ๆ ใช้ความเร็วลดหลั่นลงมาตามลำดับ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้เกิดความแตกต่างของความเร็วในแต่ละช่องทางน้อยลง ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายจากความเร็วที่แตกต่าง และการเปลี่ยนช่องจราจร

ทนายเตือน! สงกรานต์สาดน้ำใส่คนไม่เล่น ผิดกฎหมาย

“ทนายรัชพล ศิริสาคร” ทนายความชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ ระบุ ถึงแม้จะเป็นเทศกาลสาดน้ำที่มีมานานแล้ว แต่กฎหมายก็ไม่ได้จะยกเว้นโทษให้ กรณีที่มีการทำความผิด การสาดน้ำใส่คนที่เค้าไม่เล่นสงกรานต์ เช่น งานบางอย่างเค้าไม่ได้หยุด แล้วพนักงานกำลังไปทำงาน แต่โดนสาดน้ำใส่จนได้รับความเสียหาย กรณีนี้ ผู้เสียหายอาจดำเนินคดีผู้ที่สาดน้ำใส่ได้ การสาดน้ำใส่คนอื่น อาจโดนได้หลายข้อหาเลย เช่น ทำร้ายร่างกาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เคยมีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9244/2553 พิพากษาทำนองว่า สาดเหล้าใส่หน้าคนอื่น มีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย หรือสาดน้ำใส่คนอื่น ทำให้ทรัพย์สินเค้าเสียหาย ยิ่งยุคนี้ใช้ไอโฟนกัน โดนน้ำนิดเดียวก็เสียหายได้ หากทำทรัพย์สินของคนอื่นเสียหาย ก็อาจเจอข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นต้น นอกจากนั้น อาจมีข้อหาอื่นๆ อีกซึ่งคงต้องดูเป็นกรณีไป ดังนั้น ก่อนจะสาดใคร ดูให้ดีก่อนว่าเค้าเล่นด้วยรึเปล่า ไม่ใช่จะเอามันส์อย่างเดียว ถ้าผู้เสียหายเค้าเอาเรื่อง เราอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาได้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา […]

เตือน! จอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านคนอื่น ผิดกฎหมาย

ปัญหาการจอดรถกีดขวาง หรือการจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นถือเป็นปัญหาที่พบกันได้บ่อยครั้ง สำหรับบางท่านอาจเห็นว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยที่สามารถเจรจาตกลงกันได้ แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่คู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้จนเกิดเป็นเหตุบานปลาย มีการทำลายทรัพย์สิน หรือถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันตามที่เป็นข่าวกันก็มีมาแล้ว ซึ่งตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 ได้ระบุพื้นที่ห้ามจอดไว้ ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นได้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวผู้ใช้รถเอง รวมถึงผู้อื่นที่ใช้ถนน หรือทางร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้หากผู้ใช้รถได้จอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านของผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๗ ฐานก่อความเดือนร้อนรำคาญ ที่มีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน ๑ เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้เสียหายยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งได้อีกด้วย ดังนั้น การจอดรถผู้ขับขี่ พึงทำตามข้อกำหนดที่กฎหมายได้วางไว้ เพื่อไม่ให้รบกวนสิทธิของผู้อื่น ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีทั้งในทางคดีอาญา และทางแพ่งอีกด้วย ข้อมูลอ้างอิง : กรมขนส่งทางบก

ราชกิจจาฯประกาศ ลูกจ้าง WFH ได้ ไม่รับสายหลังเลิกงานได้

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2566  ในราชกิจจานุเบกษา  เล่ม 140 ตอนที่ 20 ก ลงวันที่ 19  มีนาคม 2566 เพื่อขยายการคุ้มครองกลุ่มแรงงานรับงานไปทำที่บ้าน โดยเพิ่มเติมในมาตรา 23 ของพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน  มาตรา 23/1 เพื่อประโยชน์ในการประกอบกิจการของนายจ้าง และเป็นการส่งเสริม คุณภาพชีวิตและการทํางานของลูกจ้าง หรือในกรณีมีความจําเป็น นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงให้ลูกจ้าง นํางานในทางการที่จ้างหรือที่ตกลงไว้กับนายจ้างซึ่งมีลักษณะหรือสภาพของงานที่ลูกจ้างสามารถปฏิบัติงานนอกสถานประกอบกิจการ หรือนอกสํานักงานของนายจ้างได้โดยสะดวก ให้ลูกจ้างทํางานดังกล่าวไปทําที่บ้านหรือที่พักอาศัยของลูกจ้าง หรือตกลงให้ลูกจ้างทํางานผ่านการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศในสถานที่ใด ๆ ได้การตกลงตามวรรคหนึ่ง ให้นายจ้างจัดทําเป็นหนังสือหรือข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึง และนํากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง โดยอาจตกลงให้มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้(1) ช่วงระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดการตกลง (2) วัน เวลาทํางานปกติ เวลาพัก และการทํางานล่วงเวลา (3) หลักเกณฑ์การทํางานล่วงเวลาและการทํางานในวันหยุด รวมทั้งการลาประเภทต่าง ๆ (4) ขอบเขตหน้าที่การทํางานของลูกจ้างและการควบคุมหรือกํากับการทํางานของนายจ้าง (5) ภาระหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหาเครื่องมือหรืออุปกรณ์การทํางาน รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ […]

จอดรถขวางบ้านผู้อื่น มีความผิดทางกฎหมาย!

ปัญหาการจอดรถกีดขวาง หรือการจอดรถในที่ห้ามจอดเป็นถือเป็นปัญหาที่พบกันได้บ่อยครั้ง สำหรับบางท่านอาจเห็นว่าเป็นปัญหาเล็กน้อยที่สามารถเจรจาตกลงกันได้ แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่คู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้จนเกิดเป็นเหตุบานปลาย มีการทำลายทรัพย์สิน หรือถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันตามที่เป็นข่าวกันก็มีมาแล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งอาจเกิดมาจากปริมาณรถที่มากเกินไปบนท้องถนน ตามข้อมูลของกรมการขนส่ง วันที่ 30 มิ.ย.62 พบว่า มีการจดทะเบียนทั้งรถจักรยานยนต์ รวมถึงรถยนต์ มีจำนวนสะสมสูงถึง 40 ล้านคันทั่วประเทศ โดยในพื้นที่ กทม. เอง มีปริมาณรถมากกว่า 10 ล้านคันเลยทีเดียว ซึ่งตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 55 ได้ระบุพื้นที่ห้ามจอดไว้ ซึ่งเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นได้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวผู้ใช้รถเอง รวมถึงผู้อื่นที่ใช้ถนน หรือทางร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้หากผู้ใช้รถได้จอดรถขวางทางเข้า-ออกบ้านของผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ฐานก่อความเดือนร้อนรำคาญ ที่มีอัตราโทษ จำคุก ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และผู้เสียหายยังสามารถเรียกร้องค่าเสียหายในทางแพ่งได้อีกด้วย ดังนั้น การจอดรถผู้ขับขี่ พึงทำตามข้อกำหนดที่กฎหมายได้วางไว้ เพื่อไม่ให้รบกวนสิทธิของผู้อื่น ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีทั้งในทางคดีอาญา และทางแพ่งอีกด้วย ข้อมูลอ้างอิง : กรมขนส่งทางบก

ไฟเขียวร่างกฎหมายใหม่ สินค้าชำรุดภายใน 2 ปี คนขายต้องรับผิดชอบ 

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องครม. อนุมัติร่างกฎหมายใหม่ สินค้าชำรุดภายใน 2 ปี คนขายต้องรับผิดชอบ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยกรมประชาสัมพันธ์ สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง .คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดความรับผิดของผู้ประกอบการธุรกิจในความชำรุดบกพร่องของสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล รวมถึงสินค้าอื่นที่อาจกำหนดตามพระราชกฤษฎีกา.โดยกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้าอันเป็นเหตุให้เสื่อมราคาหรือเสื่อมความเหมาะสมภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันส่งมอบสินค้า ไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจจะรู้ถึงความชำรุดบกพร่องของสินค้าหรือไม่ก็ตาม โดยในกรณีที่สินค้าชำรุดบกพร่องภายใน 1 ปี นับแต่วันส่งมอบสินค้า ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าสินค้านั้นชำรุดบกพร่องในเวลาส่งมอบสินค้า.นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจยังต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ติดตั้งหรือประกอบสินค้านั้น หรือในกรณีที่ผู้บริโภคประกอบสินค้าหรือติดตั้งตามคู่มือที่ผู้ประกอบธุรกิจจัดให้ แต่คู่มือนั้นกำหนดวิธีติดตั้งหรือประกอบสินค้าโดยไม่ถูกต้องหรือครบถ้วน ซึ่งได้กำหนดสิทธิของผู้บริโภคต่อผู้ประกอบธุรกิจที่ต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องไว้ดังนี้คือผู้บริโภคสามารถเรียกให้ผู้ประกอบธุรกิจซ่อมแซมสินค้า, เรียกให้ผู้ประกอบธุรกิจเปลี่ยนสินค้า, ขอลดราคาสินค้า หรือเลิกสัญญา โดยการใช้สิทธิดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิในการเรียกค่าเสียหายอื่นจากผู้ประกอบธุรกิจ และกรณีที่มีการทำข้อตกลงที่ทำไว้ล่วงหน้าซึ่งแตกต่างจากที่ พ.ร.บ.นี้กำหนด และเป็นผลเสียต่อผู้บริโภคให้ถือว่าเป็นโมฆะ.อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดข้อยกเว้นให้ผู้ประกอบธุรกิจไม่ต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในกรณีดังต่อไปนี้คือผู้บริโภคได้รู้อยู่แล้วในเวลาซื้อขายว่าสินค้านั้นมีความชำรุดบกพร่อง, ผู้บริโภคได้ดัดแปลงสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ประกอบธุรกิจจนเป็นเหตุให้เกิดความชำรุดบกพร่อง, ผู้บริโภคไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่จำเป็นและสมควรเพื่อการบำรุงรักษาสินค้าที่ระบุในคู่มือการใช้งาน.ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเพิ่มการคุ้มครองสิทธิของประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภค เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้าซึ่งซื้อขายกันทั่วไปเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และวิธีพิจารณาความแพ่งที่เป็นไปตามหลักผู้ใดกล่าวอ้างผู้นั้นต้องพิสูจน์ ซึ่งมีความเหมาะสมกับสินค้าที่ไม่มีความซับซ้อน แต่ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการกระบวนการผลิตสินค้าหลายชนิด ซึ่งทำให้สินค้ามีลักษณะหรือกลไกที่ซับซ้อน ผู้บริโภคไม่อาจพบเห็นความชำรุดบกพร่องของสินค้าได้ในเวลาซื้อขายหรือส่งมอบ จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะเพื่อคุ้มครองสิทธิประชาชนที่สอดคล้องกับสภาพปัญหาในปัจจุบัน.อย่างไรก็ตาม จะมีสัญญาที่ไม่อยู่ภายใต้พ.ร.บ.ความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องของสินค้าฯ ได้แก่ สัญญาที่เกิดขึ้นก่อนที่กฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับ สัญญาการขายหรือเช่าซื้อสินค้าใช้แล้ว การขายหรือเช่าซื้อสินค้าตามสภาพ และการขยายทอดตลาด.ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมประชาสัมพันธ์ […]

โพสต์ตั้งค่าหัวตามล่าแฟน – ชู้ ผิดกฎหมาย!

สายบู๊ต้องระวัง เพราะการโพสต์ตั้งค่าหัวตามล่าหาตัวแฟน หรือชู้ ถือว่าเป็นการโพสต์ประจาน เข้าข่ายหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ส่วนคำพูดที่ใช้ เช่น ไม่ตายดีแน่ อย่าโผล่มาให้เจอหน้า หรือ ได้ไปอยู่ด้วยกันในนรกแน่ ทั้งหมดนี้เป็นคำพูดลักษณะข่มขู่ ทำให้กลัวโดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ผู้เสียยังหายสามารถเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้อีกด้วย (ข้อมูลจากมาตรา 328 และมาตรา 392 ตามประมวลกฎหมายอาญา)

ราชกิจจาฯ ประกาศ กม.ป้องกันทำผิดซ้ำเกี่ยวกับเพศ

ประกาศในราชกิจจาฯ แล้ว! กฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำคดีเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง มีผล 90 วัน นับแต่วันที่ประกาศ วันที่ 26 ตุลาคม 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ.2565 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อป้องกันและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมและสร้างความปลอดภัยให้สังคม รวมถึงแก้ปัญหาและลดอัตราการกระทำความผิดซ้ำ จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรม พบว่า ผู้กระทำผิดอุกฉกรรจ์ที่ใช้ความรุนแรง เมื่อพ้นโทษแล้ว จะกระทำความผิดซ้ำในระยะเวลา 3 ปี มากกว่าร้อยละ 50 จึงมีความจำเป็นต้องออกกฎหมายฉบับนี้ขึ้น  กฎหมายฉบับนี้ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง อาทิ 1กำหนดให้มีคณะกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ มีหน้าที่ เช่น กำหนดนโยบายและแผนการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำของผู้กระทำความผิด ให้คำปรึกษาแลข้อเสนอแนะ และคณะกรรมการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ มีหน้าที่ เช่น กำหนดมาตรการเฝ้าระวังนักโทษเด็ดขาดภายหลังพ้นโทษ มาตรการคุมขังภายหลังพ้นโทษ […]

1 2 3 4