75564

รับแจ้งความแล้วกว่า 60 ราย กรณีผูกบัญชีกับแอปพลิเคชัน

ตำรวจไซเบอร์รับแจ้งความแล้วกว่า 60 ราย กรณีผู้เสียหายผูกบัญชีธนาคารไว้กับแอปพลิเคชัน ชอปปิ้งออนไลน์ แต่ถูกหักเงินชำระค่าสินค้าโดยไม่ทราบสาเหตุ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์ความคืบหน้ากรณีผู้เสียหายหลายรายผูกบัญชีธนาคาร หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้ากับแอปพลิเคชันซื้อขายของออนไลน์ ต่อมาพบว่าถูกหักเงินในบัญชีชำระค่าสินค้าโดยไม่ทราบสาเหตุ จากกรณีเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.65 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ประชาสัมพันธ์เตือนภัยเกี่ยวกับการผูกบัญชีธนาคาร หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้าออนไลน์นั้น ปัจจุบันพบว่าได้มีผู้เสียหายกว่า 60 ราย ความเสียหายรวมกว่า 1 ล้านบาท โดยผู้เสียหายได้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนยังสถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุทั่วประเทศ และแจ้งผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com เพื่อให้สืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะนี้ทางคดียังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเชื่อมโยงต่างๆ รวมถึงประสานงานไปยังบริษัทแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ดังกล่าวเพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง และเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่าอาจจะเกิดจากการที่ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้เข้าไปกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอม แล้วนำข้อมูลที่ได้ไปใช้แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ทั้งนี้ได้รับรายงานว่าแอปพลิเคชัน ชอปปิ้งออนไลน์ดังกล่าวได้ประกาศปิดช่องทางการชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารเพื่อตรวจสอบและป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ […]

เตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ชำระค่าสินค้า

ตำรวจไซเบอร์ ฝากเตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้ากับแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงระมัดระวังการกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอมจากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับมีผู้เสียหายผูกบัญชีธนาคารไว้กับแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ ต่อมาทราบว่าเงินในบัญชีถูกนำไปชำระค่าสินค้าหลายรายการ ความเสียหายกว่า 50,000 บาท โดยไม่ทราบสาเหตุนั้น กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และการซื้อขายของออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการ ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ “โดยทุจริต […]

ตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ห้วง 10-25 ต.ค.65 จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 500 ราย และตรวจยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอเรียนชี้แจงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย เกี่ยวกับอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และการรับจ้างเปิดบัญชีม้า ในห้วงวันที่ 10 – 25 ต.ค.65 ดังต่อไปนี้ ตามโยบายของรัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด อาวุธปืน และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยกำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งออกมาตรการควบคุม และปราบปรามอย่างต่อเนื่องให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม รวมถึงแก้ไขปัญหาการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้มิจฉาชีพนำไปกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเร่งดำเนินการปรามปรามจับกุมผู้กระทำผิดในทุกมิติ รวมถึงขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด อาวุธปืน บัญชีม้า และสิ่งของผิดกฎหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ […]

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ชี้เเจงผลการปฏิบัติงาน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอเรียนชี้เเจงผลการปฏิบัติงาน ดังต่อไปนี้ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาการหลอกลวงการลงทุนออนไลน์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการระดมทุนที่ผิดกฎหมายนั้น กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้ขับเคลื่อนตามโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการป้องกันและปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง มาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของภัยการหลอกลวงลงทุนออนไลน์ตามข้อสั่งการ แต่ในปัจจุบันยังคงพบว่ามีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจากภัยออนไลน์ด้านการหลอกลงทุนเป็นวงกว้าง โดยจากสถิติการรับเเจ้งความออนไลน์ ตั้งเเต่วันที่ 1 มี.ค.65-30 ก.ย.65 พบว่า การหลอกลงทุนในรูปแบบต่างๆ มีการรับเเจ้งความ จำนวน 9,915 เรื่อง หรือคิดเป็น 10.37% จากจำนวนเรื่องรับเเจ้งความออนไลน์ทั้งหมด มีความเสียหายกว่า 5,145 ล้านบาท และสูงเป็นอับดับที่ 1 จากมูลค่าความเสียหายทั้งหมด ผบช.สอท. จึงได้กำชับสั่งการทุกกองบังคับการในสังกัด เร่งดำเนินการสืบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างจริงจัง ให้มีผลการปฏิบัติเป็นรูปธรรม รวมถึงสร้างการรับรู้ สร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โฆษก บช.สอท. เรียนประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน […]