81761

เมื่อตกอยู่ใน Friend Zone ควรทำอย่างไรดี?

Urban Dictionary ให้ความหมายสำหรับ Friend zone ว่า เป็นการที่เราสนใจคนๆ หนึ่งอยู่ แต่เขากลับคิดกับเราแค่เพื่อน เปรียบเหมือนว่า เราตกลงไปในหลุมดำ ดินแดนที่ดูจะสิ้นหวัง และไม่มีวี่แววว่าจะหลุดพ้นจากสถานะนี้ได้เลย แต่เราอยากจะบอกว่า… การเอาใจออกมาจากสถานะแอบรักเพื่อน มันมีวิธีรอดชีวิตอยู่นะ มาดูไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 1. คุณต้องรู้ตัวก่อนว่า ตัวคุณอยู่ในสถานะไหน ในการแอบรักเพื่อนจากงานวิจัย โดยถามถึงความรู้สึกที่ถูกใจของแต่ละฝ่ายที่มีต่อกัน พบว่า ผู้หญิงมักจะจำกัดความรู้สึกต่อเพื่อนผู้ชายเอาไว้ ในขณะที่เพื่อนชายมักจะแอบมีความรู้สึกให้เพื่อนตัวเองอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะตรงกับประสบการณ์ที่เรามักเจอว่า หนุ่ม ๆ มักเป็นฝ่ายแอบรักเพื่อนผู้หญิง ในขณะที่ผู้หญิงมีแนวโน้ม มองว่าเพื่อนชายคงไม่ได้ชอบ จึงจำกัดความรู้สึกไว้แค่ความเป็นเพื่อน ดังนั้น ส่วนหนึ่งของการตีกรอบความเป็น Friend zone ให้กันและกันแบบนี้ หมายความว่า ทั้งสองฝ่ายรักษาความสัมพันธ์แบบเพื่อนเอาไว้ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่รู้สึกปลอดภัยมากกว่า ฉะนั้น ต้องรู้ก่อนว่า เราอยู่ในสถานะแอบรักเพื่อนแบบไหน 2. จะออกจาก Friend zone มีอยู่สองทาง ทางแรก คือ หากรู้ว่าตัวเองเป็นมากกว่าเพื่อนแน่ ๆ แต่ยังไม่มีการถามอย่างจริงจังกับอีกฝ่าย ว่าเขารู้สึกแบบเดียวกับคุณหรือเปล่า เคสแบบนี้ ผลลัพธ์ 50/50 ประเด็นหลักเลยคือ คุณไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่นี่สิ […]

ข้อดีข้อเสีย อยู่ก่อนแต่ง กับ แต่งก่อนอยู่

ปัญหาโลกแตกที่สุดแสนจะคลาสสิค กับคำถามที่ว่า “อยู่ก่อนแต่ง หรือ แต่งก่อนอยู่” ควรเลือกแบบไหนดี ในปัจจุบันการอยู่ก่อนแต่งเห็นได้ทั่วไป เนื่องจากเป็นสิ่งที่วัยรุ่นยุคนี้ให้ความสำคัญ ไม่เว้นแม้กระทั่งหนุ่มสาววัยทำงานก็ยังคงเลือกที่จะอยู่ก่อนแต่งก็มีให้เห็นได้เช่นกัน แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ใหญ่บางส่วนที่ยังคงไม่เห็นด้วย เพราะคิดว่าการอยู่ก่อนแต่งนั้นจะทำให้ฝ่ายหญิงนั้นเสียเปรียบ และอาจจะทำให้เกิดคำครหาได้ อยู่ก่อนแต่ง หรือ แต่งก่อนอยู่ ? ฟังเผิน ๆ ก็เหมือนจะคล้ายกัน แต่จริง ๆ มีความหมายและข้อดีข้อเสียที่ต่างกัน ข้อดีของการอยู่ก่อนแต่ง 1.ให้โอกาสตัวเองในการปรับตัว เพราะชีวิตคนเราพื้นฐานถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน โตมากับสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน การอยู่ก่อนแต่งจึงเรียกได้ว่า เป็นโอกาสให้เราได้ปรับตัวรู้นิสัยใจคอกันมากขึ้น 2.ไม่คลิกก็เลิกได้ เกิดอยู่กันไปแล้วทัศนคติไปกันไม่ได้ ถึงแม้จะพยายามปรับเข้าหากันแล้วแค่ไหนก็ตาม แต่สุดท้ายยังไงก็ไม่รอด ก็สามารถที่จะเลิกรากันได้ง่ายกว่าการที่แต่งงานกันไปแล้ว เพราะจะต้องถึงขั้นจดทะเบียนหย่า และอาจจะมีเรื่องใหญ่โตตามมาอีกก็เป็นได้ 3.ลดค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น เพราะการอยู่ก่อนแต่ง หมายความว่าคุณไม่ได้จัดงานแต่งงาน ก็เท่ากับว่าคุณสามารถเก็บเงินได้มากขึ้น หรือนำเงินที่ควรจะเป็นค่าจัดงานแต่งไปทำอย่างอื่นที่จำเป็นมากกว่าได้ ข้อเสียของการอยู่ก่อนแต่ง 1.เสียเปรียบ  ฝ่ายที่เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดคือ ฝ่ายหญิง เนื่องจากการอยู่ก่อนแต่งไม่มีหลักฐานการสมรสตามกฎหมาย หรือที่เราเรียกว่าทะเบียนสมรส หากคุณมีลูกคุณอาจจะต้องแบกภาระมากมาย สมมุติผู้ชายเลือกที่จะไม่รับผิดชอบ ก็ต้องขึ้นศาลเพื่อเรียกร้องกันยืดยาว 2.สังคมไม่เห็นด้วย ด้วยสังคมไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะจากฝั่งฝ่ายหญิง จะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่จะให้ลูกหลานของตัวเองไปอยู่ก่อนแต่ง เนื่องจากกลัวคำครหาของคนอื่น การแต่งก่อนอยู่ เป็นอีกวิถีที่ถือว่าเป็นการปฏิบัติทั่วไปที่สืบทอดกันมายาวนาน […]

วิธีรับมือกับความโสด แม้ใกล้ถึงวันแห่งความรัก!

ความโสด เป็นทั้งข้อดี และข้อเสียสำหรับคนเรา หลายคนดีใจที่โสด เพราะรักอิสระ และหลงไหลการอยู่คนเดียว มากกว่าต้องคอยรับผิดชอบชีวิตคนอื่นเพิ่ม ขณะที่บางคนนั้น มักกลัวความโสด ด้วยเพราะกลัวความเหงา โหยหาความรักและการมีชีวิตคู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากต้องโสดในช่วงเวลาที่เรียกว่า “วันแห่งความรัก” เนื่องจากต้องเจอภาพบาดตาบาดใจของคนอื่นที่เดินจูงมือ บอกรัก หรือมีของขวัญให้กันและกัน แต่หากเรารู้จักวิธีรับมือกับความโสดแล้วล่ะก็ ต่อให้ยังไม่มีแฟน หรือต้องโสดกระทันหันแล้วล่ะก็ รับรองว่าเราจะสตรองมากพอที่จะฉายเดี่ยวได้ทันที มาดู วิธีรับมือกับความโสด ที่จะทำให้เราฉายเดี่ยวได้แม้ไร้คู่ 1. ปรับความคิดและมุมมองต่อความโสดซะใหม่ “โสดแล้วไง อยู่ได้ไม่แย่” ความโสด ถือเป็นโอกาสให้เรานั้นมีอิสระในการใช้ชีวิต มากกว่าจะต้องพะวงกับคนข้างตัวหากมีคู่ อยากกินอะไร ไปเที่ยวที่ไหน อยากทำอะไร ไม่ต้องคอยเป็นห่วงความรู้สึกใคร ที่สำคัญทำให้เราได้มีเวลาให้กับตัวเองอย่างเต็มที่อีกด้วย ยิ่งใกล้วันวาเลนไทน์ คุณก็ไม่ต้องปวดหัวว่าจะซื้อดอกไม้ หรือช็อคโกแลตให้ใครอีกด้วย 2.ความโสดทำให้มีเวลาเพิ่มขึ้นกับชีวิตช่วงเวลาแห่งความโสด ทำให้เรามีเวลาหาความรู้ใหม่ๆ ประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองได้แบบไม่จำกัด เพราะไม่ต้องคอยส่งข้อความ หรือโทรหาใคร แถมมีเวลาดูแลใส่ใจสุขภาพของตัวเอง นั่นทำให้เรามีความสุขและมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นจากการดูแลตัวเองอีกด้วย 3.ความโสดทำให้เรามองเห็นข้อดีของการอยู่คนเดียวมากขึ้น การได้อยู่คนเดียว ทำให้เราได้มีเวลาทบทวนตัวเอง มีเวลาตั้งเป้าหมายอนาคตและสิ่งที่ชอบ เพื่อตนเองแบบเต็มที่ แน่นอนว่าความฝันจะไม่ถูกดึงรั้ง หรือถูกรบกวนจากคนอื่น 4.มีสุขภาพจิตที่ดีกว่า […]

ชีวิตคู่ กับวิธีรักษาความสัมพันธ์ให้มั่นคง

ชีวิตคู่ที่หวานชื่นและมั่นคงล้วนเป็นสิ่งที่คู่รักทุกคู่ปรารถนา ซึ่งการใช้ชีวิตร่วมกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คู่รักหลายคู่อาจประสบพบเจอปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้ความรักต้องสั่นคลอน หรืออาจต้องยุติความสัมพันธ์ด้วยการหย่าร้างในที่สุด ทว่าการศึกษาวิธีดูแลความสัมพันธ์และนำไปปรับใช้ประคับประคองชีวิตคู่นั้น อาจช่วยเสริมสร้างชีวิตรักให้แข็งแรงและมั่นคงยาวนานได้ ดูแลชีวิตคู่อย่างไร ให้ความรักยืนยาว ? วิธีต่อไปนี้ อาจช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ชีวิตคู่ให้มั่นคงแข็งแรงขึ้นได้ สื่อสารกัน การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญของการใช้ชีวิตคู่ คู่รักควรใช้เวลาในแต่ละวันถามไถ่สารทุกข์สุกดิบหรือเรื่องส่วนตัวของกันและกันบ้าง เพื่อให้เข้าใจความรู้สึกและรับรู้ความเป็นไปของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ปัญหาความขัดแย้งก็ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่การทะเลาะกันโดยใช้วาจาที่รุนแรง ตวาดใส่ หรือใช้คำพูดส่อเสียดอาจนำไปสู่เรื่องร้ายแรงจนทำให้ความสัมพันธ์ต้องจบลงได้ ดังนั้น เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ควรพยายามเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย เป็นผู้ฟังที่ดี และใช้คำพูดที่ช่วยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น หมั่นเติมความหวานให้แก่กัน ภาระหน้าที่การงานหรือการดูแลลูกน้อยอาจทำให้ความสัมพันธ์อันหวานชื่นลดน้อยลงได้ ดังนั้น อาจเติมความหวานให้แก่กันด้วยการทำกิจกรรมใหม่ ๆ ร่วมกัน เช่น เต้นรำ พักผ่อนในสวน หรือเข้าชั้นเรียนทำขนมด้วยกัน เป็นต้น นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ทางเพศก็เป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคู่เช่นกัน จึงควรจัดสรรเวลาเพื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังและเติมเต็มความรักให้แก่กันบ้าง เพื่อช่วยให้ความสัมพันธ์มีสีสันและมั่นคงยืนยาวยิ่งขึ้น ให้เกียรติกัน การเคารพและให้เกียรติกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แข็งแรง ไม่ต้องเห็นด้วยกับสิ่งที่คนรักคิดหรือพูดทั้งหมด แต่ควรยอมรับ ชื่นชม เป็นกำลังใจ และเชื่อใจกันเสมอ โดยระมัดระวังและไม่ข่มเหงกัน ไม่ว่าจะเป็นทางวาจา ร่างกาย หรือทางอารมณ์ เพราะล้วนแต่บั่นทอนความเคารพซึ่งกันและกันแทบทั้งสิ้น ร่วมมือกันจัดการความขัดแย้ง หากมีปัญหาใด ๆ สิ่งที่คู่รักควรทำ คือ ไม่กล่าวโทษกันไปมา และไม่โต้เถียงกัน […]

10 เหตุผล ที่บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ที่มี กำลังเป็นพิษ

ความสัมพันธ์ในชีวิตคนเรา เมื่อเป็นความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ จะช่วยส่งเสริมให้คนเรานั้นมีพลังใจ มีการพัฒนารอบด้าน เพราะดำรงอยู่ด้วยความเข้าอกเข้าใจ การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา มากกว่าการใช้อารมณ์ ที่จะแปรเปลี่ยนให้ความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะในครอบครัว เพื่อน สังคมที่ทำงาน หรือคนรักกัน เกิดเป็นพิษ หรือที่เราเรียกกันว่า ความสัมพันธ์แบบ Toxic relationship เราจะรู้ได้ว่าความสัมพันธ์ของเรามันเป็นพิษก็คือตอนที่เรารู้สึกว่าไม่มีความปลอดภัยให้ตัวเองเลย อย่างเช่น ถ้าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ก็ไม่กล้าจะไป เพราะกลัวว่าแฟนจะหวงจนตามไปถึงที่ร้านแล้วเกิดเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้น หรือถ้าอยากแต่งตัวสวยๆแบบที่ชอบ แบบที่ตัวเองมั่นใจ แต่ก็กลัวว่าเพื่อนจะมอง เพื่อนจะตำหนิ เพื่อนจะแขวะหรือล้อเลียนว่าแต่งตัวอะไรมาเนี่ย รสนิยมแย่มาก หรือแต่งตัวไม่เข้ากับตัวเราเลย เป็นต้น เรื่องแบบนี้มีอยู่จริง ๆ ดังนั้นถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่ปลอดภัยในความสัมพันธ์นี้ เราอาจจะต้องกลับมาทบทวนใหม่แล้วล่ะว่าเราจะเอายังไงต่อไป เชียงใหม่นิวส์ชวนมาดู 10 เหตุผล ที่จะบอกได้ว่า ความสัมพันธ์แต่ละรูปแบบที่คุณมีอยู่ในตอนนี้ กำลังเป็นพิษต่อคุณอยู่หรือไม่? 1.ทะเลาะกันบ่อยแม้แต่เรื่องเล็กน้อยการเป็นเพื่อน เป้นแฟน หรือแม้แต่คนในครอบครัวนั้น บางครั้งเรื่องเล็กน้อยเป้นเรื่องที่ควรปล่อยผ่านกันได้ แต่กลับเก้บมาทะเลาะ มางอน มาเป้นข้อโต้แย่ง หรือแม้แต่ความผิดพลาดในอดีตก็ขุดมาด่ากันตลอด มาตอกย้ำจนทำให้เรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่จะพูดคุย เพราะไม่อยากจะทะเลาะกัน เป็นสิ่งที่ต้องเก้บมาคิด เพราะหากรักและเข้าใจกันจริง เรื่องเล็กน้อยที่มองข้ามไปได้ ก็ควรจะหยวนๆกันบ้าง อะไรที่ตึงเกินไป […]

รู้จัก Toxic People และวิธีการรับมือ

การรับมือกับคนที่เป็นพิษ ไม่สามารถเป็นความสามารถพิเศษของใครได้ เพราะในชีวิตของใครหลายคนก็เจอเรื่องที่เป็นพิษมามากพอสมควรแล้ว แต่เราทุกคนมักมีบุคคลที่เป็นพิษอยู่รอบตัวเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะเจออะไรเหล่านี้ได้ บุคคลประเภท Toxic People ถือเป็นความเฉพาะตัวของบุคคลนั้นที่มันสามารถทำให้ชีวิตคนเราหม่นหมองได้ ยิ่งเป็นคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็น คนในครอบครัว คนรัก เพื่อน พี่น้อง รวมไปถึงเพื่อนร่วมงานหรือบุคคลที่ต้องเจอทุกวัน Toxic People คือคนแบบไหน ? บุคคลที่เป็นพิษทั้งภายนอกและภายใน ทั้งความคิด ทัศนคติ หรือจะเป็นพฤติกรรมการกระทำต่างๆ คนประเภทนี้มักเป็นคนที่ชอบขัดแย้งกับผู้อื่น ไม่สนับสนุนใครนอกจากตัวเอง ในทางจิตวิทยากล่าวว่า ลักษณะพฤติกรรมเหล่านี้อาจจะเป็นผลที่บุคคลนั้นๆ ได้พบเจอเรื่องที่เลวร้ายในช่วงวัยเด็ก หรือช่วงเวลาที่ผ่านมา สะสมสิ่งเหล่านั้นจนทำให้เกิดเป็นปมในชีวิตปัจจุบัน และยังไม่สามารถที่จะจัดการกับความเจ็บปวดนี้ หรือ ขัดเกลาความคิดตัวเองให้เป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีหรือเป็นคนที่สังคมต้องการได้ บุคคลเหล่านี้จึงเป็นพวกที่หลงตัวเอง ต้องการที่จะมีตัวตน เขาจะทำพฤติกรรมแย่ๆ แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เสียสุขภาพจิตต่อตนเองและผู้อื่นก็ตาม ประเภทของ Toxic People 1.โอ้อวดตัวเอง ชอบโอ้อวดตัวเอง อวยตัวเอง ไม่ฟังความคิดเห็นจากผู้อื่น เอาตัวเองเป็นศูนยย์กลางของโลก 2.ชอบควบคุม ต้องการที่จะควบคุมทุกคนรอบข้าง เอาตัวเองเป็นที่ 1 ไม่หยุดที่จะพยายามพูดโน้มน้าวให้คนอื่นเห็นด้วยกับตัวเอง จะจู้จี้จนกว่าจะยอมเป็นพวกเดียวกัน 3.คนขี้เศร้า เป็นคนที่มักจะมองโลกในแง่ลบเสมอ ดูดพลังบวกจากคนรอบข้าง […]

ไฟไม่ลน สมองไม่เดิน ทำไมคนชอบทำงานเดดไลน์

Deadline หลายคนคงเคยได้ยินคำนี้บ่อยๆ หรือไม่ก็เป็นคนประสบพบเจอเหตุการณ์นี้มันเสียเอง เพราะตั้งแต่เด็กจนโต เราทุกคนถูกปลูกฝังให้มีความรับผิดชอบต่องานที่คุณครูให้ ต้องส่งการบ้าน ส่งรายงาน ให้ทันเวลา แต่สำหรับบางคน ใกล้เดดไลน์ทีไร สมองมันจะแล่นเร็วปรื๋อยิ่งกว่าความไวของแสงเสียอีก และรู้จักใช้ประโยชน์จากเดดไลน์นั้น โดยการปล่อยให้ความกดดันนั้นสร้างสรรค์งานออกมาได้ในที่สุด เรียกได้ว่า ไม่เดดไลน์ ไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ ทำไมคนถึงชอบ Deadline กันนัก Kristen Berman ได้สร้างห้องทดลองด้านการศึกษาพฤติกรรม ร่วมกับระบบการกู้ยืมสำหรับธุรกิจขนาดย่อมโดยปราศจากดอกเบี้ย โดยปกติแล้วเจ้าของธุรกิจจะต้องกรอกแบบฟอร์มระบุรายละเอียดของธุรกิจของตนโดยละเอียด และแบบฟอร์มนี้ีก็มีความยาวถึง 8 หน้า ทำให้มีคนที่กรอกแบบฟอร์มนี้เพียง 20% ของผู้สมัครทั้งหมดเท่านั้น ดังนั้น Kristen Berman จึงใส่ ‘เดดไลน์’ ลงไปในเมลที่ส่งให้เจ้าของธุรกิจกรอกแบบฟอร์ม เพื่อดูว่าผลจะเป็นอย่างไร จากเดิมที่เมลดังกล่าวไม่ได้กำหนดวันหมดเขต ตอนนี้ เมลก็ได้กำหนดเวลาขึ้น “คุณมีเวลาถึงวันที่ 20 ตุลาคมเท่านั้น ในการส่งแบบฟอร์มนี้” เมื่อเจ้าของธุรกิจได้เมลแบบหลัง ผลปรากฏว่า มีผู้กรอกใบสมัครจนเสร็จเพิ่มขึ้นถึง 24% ด้วยการเพิ่มประโยคเดดไลน์ลงไปเพียงประโยคเดียว . นอกจากนี้ ไนรา ไลเบอร์แมน (Nira Liberman) […]

ลองออกนอกกรอบบ้าง อย่ามัวใช้ชีวิตอยู่ในกรอบที่คนอื่นเขียนขึ้นมา

การใช้ชีวิตอยู่ในกรอบที่คนอื่นสร้างขึ้นมา ตามใจ คนอื่นอยู่ตลอดเวลา หลายคนอาจจะรู้สึกว่าสบายดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่ทำตามที่คนอื่นเขาวางแผน ตีกรอบมาก็เพียงพอแล้ว ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ แสดงว่าคุณคือหนึ่งในคนที่โชคดีมากๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนอีกหลายคน ที่ต้องทนทุกข์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่น่าอึดอัด ถูกบีบบังคับ ตีกรอบโดยคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ลองมองย้อนกลับมาที่ตัวเรา แล้วถามใจตัวเองดูว่า “เราจะปล่อยให้ตัวเองใช้ชีวิตอยู่ในกรอบที่คนอื่นเขียนขึ้นมาจริงๆ เหรอ?” และ “เมื่อไหร่เราจึงควรออกจากกรอบนี้เสียที?” เรามีแนวคิดดี ๆ มาฝากทุกคนกันค่ะ ::: การที่เราต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ไม่ได้แปลว่าเรากับเขาจะเป็น “เพื่อนที่ดีต่อเราเสมอไป” ::: ในชีวิตของเรา มีหลายครั้งหลายหนที่เราต้องอยู่ร่วมกับคนอื่น ไม่ว่าจะอยู่ร่วมห้องกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย อยู่ออฟฟิศเดียวกับเพื่อนๆ ที่ทำงาน แต่การที่เราอยู่รวมกัน ในสถานที่ และสิ่งแวดล้อมเดียวกันนั้น ไม่ได้แปลว่า เราและเขาจะเป็น “เพื่อน” กันจริงๆ เสมอไป เพราะในความเป็นจริง มีโอกาสน้อยมากที่คนในสังคมที่บังเอิญเจอกัน หรือ รวมตัวกันจะกลายเป็นกลุ่มเพื่อนที่มี “นิสัย” และ “ความคิด” ที่เข้ากันได้ ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมห้องที่โรงเรียน ก็คือคนวัยเดียวกัน หรือ […]