8693

อย่าหลงกล ตำรวจปลอม สังเกตและป้องกันก่อนตกเป็นเหยื่อ

ปัจจุบันมิจฉาชีพใช้ช่องทางออนไลน์หลอกลวงมากขึ้น เช่น การปลอมแปลงเป็นตำรวจ ติดต่อผ่านแอปพลิเคชันไลน์ วิดีโอคอล หรือแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อหลอกลวงเงิน โปรดระมัดระวังทุกครั้งที่มีการติดต่อจากบุคคลที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่. วิธีสังเกตตำรวจปลอม1.มีพฤติกรรมไม่น่าเชื่อถือ : ตำรวจปลอมจะทำการติดต่อผู้เสียหายผ่านช่องทางแชต ไลน์ หรือทำการวิดีโอคอล ขอข้อมูลส่วนตัว หรือหลอกให้โอนเงิน2.มีการส่งเอกสารปลอม : ตำรวจปลอมมักจะส่งเอกสารราชการผ่านทางไลน์ เช่น หมายเรียก หมายจับ ข้อมูลการฟอกเงิน3.เครื่องแบบไม่ถูกต้อง : ควรตรวจสอบเครื่องแบบตำรวจ เช่น เข็มประจำตำแหน่ง, เครื่องหมายยศ หรือการแต่งตัวที่ถูกต้องตามระเบียบ4.สถานที่ทำงาน : ตำรวจจริงจะปฏิบัติหน้าที่ในสถานีตำรวจหรือในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ไม่ใช่จากสถานที่ส่วนตัวหรือผ่านทางช่องทางออนไลน์. วิธีป้องกัน1.อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลบัญชีธนาคาร หรือข้อมูลสำคัญใดๆ ผ่านทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์2.อย่าหลงเชื่อการเรียกรับเงิน ตำรวจจริงไม่มีการเรียกรับเงินผ่านบัญชีส่วนตัว3.หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงกับสถานีตำรวจในพื้นที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง.ตำรวจไซเบอร์พึ่งพาได้ ลดภัยอาชญากรรมออนไลน์ สร้างความอุ่นใจให้ประชาชน.  แจ้งความออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่สายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง

จ.แพร่ให้เฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติกรรมหลอกลวงประชาชน

ภายหลังได้รับเบาะแสแจ้งความเคลื่อนไหวของบุคคล และกลุ่มบุคคล โดยตั้งกลุ่มไลน์ Open Chat เพื่อใช้ชักชวนประชาชนเข้าร่วมเป็นสมาชิก อ้างว่าจะมีเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศให้กับสมาชิกรายละ 2 ล้านบาท ถึง 400 ล้านบาท ตามจำนวนเงินที่สมาชิกโอนให้กับแกนนำของกลุ่มผ่านบัญชีธนาคาร จำนวนเงินตั้งแต่ 20 – 300 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเชื่อมสัญญาณ Link รองรับการโอนเงินจากต่างประเทศหรือบุคคลระดับสูง ไม่บอกแหล่งที่มาของเงินอย่างชัดเจน โดยมีการจูงใจ ชักชวนสมาชิกด้วยข้อความ จ่าย 100 ได้ 1 ล้าน และอ้างเป็นการทำความดีช่วยเหลือ ผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส และเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะเดียวกันยังพบบุคคลและกลุ่มบุคคล เรียกรับเงินจากชาวบ้าน อ้างว่าจะวิ่งเต้น ติดต่อกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งมีพฤติการณ์ข่มขู่ รีดไถ เรียกรับเงินจากหัวหน้าส่วนราชการบางแห่ง เพื่อเป็นการติดตามและเฝ้าระวัง รวมถึงป้องกันความเสียหายต่อประชาชนจากพฤติกรรมแอบอ้างดังกล่าวจังหวัดแพร่ได้ขอให้ทุกส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่เร่งสร้างความเข้าใจ สร้างการรับรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชน ในพื้นที่ เพื่อป้องกันประชาชนถูกชักจูงหรือหลอกลวงจากผู้แอบอ้างและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จังหวัดแพร่จึงมอบหมายฝ่ายปกครอง ตรวจตรา สอดส่องและดูแลพื้นที่ เพื่อหาข่าวสารและติดตาม ความเคลื่อนไหว กรณีตรวจพบบุคคลหรือกลุ่มบุคคลซึ่งกระทำในลักษณะแอบอ้างดังกล่าว […]

จับยกแก๊ง! ขบวนการหลอกให้รัก ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 5 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ. ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก. ป.,พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป., ตำรวจภูธรภาค 4 โดย พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง, พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์ และพ.ต.ท.อภิมัณฑ์ บานชื่น รอง ผกก.3 บก.ป. ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาจำนวน 4 ราย ดังนี้1. นายธนนันท์ฯ อายุ 25 ปี […]

จับโป๊ะ! มิจฉาชีพใช้บ้านเลขที่คนอื่นหลอกขายเครื่องใช้ไฟฟ้า

จากกรณีมีคนโดนหลอกโอนเงินซื้อสินค้าในกลุ่ม “แม่แฝกใหม่เฮาฮักกัน” โดยได้มีการพบโพสเตือนภัยว่า เฟสบุ๊กหนึ่งโกง หลอกโอนเงิน โดยจะโพสต์ขายของพวกอุปกรณ์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แบบราคาถูกหั่นราคาแบบครึ่งต่อครึ่ง โดยโพสนี้ถูกโพสต์ในกลุ่ม “เเม่เเฝกใหม่เฮาฮักกั๋น”นี้ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมาโดยมีใจความว่า “ขออนุญาตแอดมิน” พรุ่งนี้ ขายของใช้มือสองในบ้านทาวน์#หมู่บ้าน……. ดอนเจดีย์แม่ครัวโทร.0971592…. กิติพงษ์#จะขายบ้านหลังนี้ไม่ค่อยได้มาพัก#เปิดบ้านขายของเวลา 7:00น. ถึงเวลา 21:00น.#บ้านเลขที่…. โดยมีคนแคปโพสที่มิจฉาชีพโพสขายของ บ้านหมู่ 14 บ้านเจดีย์เจริญ ต.เเม่เเฝกใหม่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ไปให้เจ้าของบ้านตัวจริง คุณเฉลิมพล เจ้าของบ้านเห็นจึง รีบโทรกลับไปหา เพื่อลองสอบถามรายละเอียดว่าคุณ ลงบ้านเลขที่ถูกไหม ทางชายชื่อ กิติพงษ์ มิจฉาชีพคนดังกล่าว ก็ตอบกลับมาอธิบายว่าอยู่ตรงนั้นตรงนี้อธิบายรายละเอียดบ้านได้ครบหมดเลยเหมือนเป็นบ้านของตัวเองซึ่งมีต้นไม้อยู่หน้ารั้วบ้าน หลังจากนั้น คุณเฉลิมพล ก็แสดงตัวว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านของตน ทางปลายสายก็เลยตัดโทรศัพท์ทิ้งและบล็อคการโทรไว้หมด คุณเฉลิมพลยังได้เปิดใจว่า จากตนที่ตนได้พูดคุยกับมิจฉาชีพคนดังกล่าว ก็ทราบว่าน่าจะเคยมาที่บ้านของตน หรืออาจเห็นตนโพสต์ขายสินค้าในกลุ่ม หรือมีอีกอย่างก็คือการดู Google GPS street view […]

หนุ่มถูกนายหน้าขายฝันหลอกส่งไปทำงานที่แคนาดา เสียเงินฟรีแสนสอง อึ้งผู้เสียหายโผล่กว่า 50 ราย

ฝันสลายกลายเป็นหนี้ หนุ่มฟรีแลนซ์ถูกนายหน้าขายฝันหลอกส่งไปทำฟาร์มเห็ดที่แคนาดา เสียเงินฟรีแสนสอง อึ้งผู้เสียหายโผล่กว่า 50 ราย ทยอยแจ้งความ ปคม. เชื่อทำเป็นขบวนการข้ามชาติ วันที่ 6 ส.ค.67 นายโย ( นามสมมุติ ) อายุ 30 ปี นำหลักฐานร้องเรียนกับสื่อมวลชนที่จังหวัดเชียงใหม่ แฉพฤติกรรมนายหน้าหลอกลวงอ้างพาคนไปทำงานที่ประเทศแคนาดา สุดท้ายถูกหลอกเสียเงินไป 1.2 แสนบาท เผยมีผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 50 คน บางส่วนทยอยแจ้งความกองปราบปรามแล้ว ขณะเดียวกันมีเหยื่อถูกหลอกจนหมดตัวจนตัดสินใจจบชีวิตแล้วหนึ่งราย วอนตำรวจเร่งตามจับมาดำเนินคดีหลังพบยังมีเหยื่อเพิ่มอีก นายโย ให้ข้อมูลว่า กลางปี 2565 ตัดสินใจเดินทางไปทำงานฟาร์มเห็ดที่แคนาดาตามคำชักชวนของลุงที่ไปทำก่อนหน้านี้ ต่อมาไปเจอเฟซบุ๊กนางชนิตา ( ขอสงวนนามสกุล ) อายุประมาณ 45 ปี บอกว่าเป็นนายหน้ารับเดินเรื่องส่งคนไปทำงานที่แคนาดา โดยบอกว่าเคยเดินเรื่องพาไปได้แล้วหลายราย จึงติดต่อพร้อมกับโอนเงินค่าดำเนินการทั้งหมด 1.2 แสนบาทไปให้กับนางชนิตาเมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 โดยนางชนิตาแจ้งว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการหนึ่งปีแปดเดือนถึงสองปี เนื่องจากขั้นตอนเปลี่ยนแปลงหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิด 19 ระบาด ระหว่างรอได้มีญาติของตนเองใช้บริการกับนายหน้าคนนี้อีกเกือบสิบคน ทุกคนโอนเงินสดเต็มจำนวนให้คนละไม่ต่ำกว่า 1.2 […]

เตือนระวัง! “เพจปลอม” รับแจ้งความขอเงินคืนจากคดีออนไลน์ ปปง.ย้ำ อย่าหลงเชื่อ

“คารม” ยืนยัน เพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อว่า “ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์” ไม่ใช่ของ ปปง. ย้ำเตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม “คารม” ยืนยัน เพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อว่า “ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์” ไม่ใช่ของ ปปง. ย้ำเตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม วันนี้ (25 กรกฎาคม 2567) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความที่มีการส่งต่อทางสื่อสังคมออนไลน์ แอบอ้างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเพจแจ้งความออนไลน์ชื่อว่า “ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์” นั้น นายคารม กล่าวว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจและคลิปสั้นที่มีการโพสต์ดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งมิจฉาชีพได้ตัดต่อคลิปจากข่าวที่สื่อมวลชนเผยแพร่แล้ว นำมาเพิ่มเติมข้อความเพื่อหลอกผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงให้หลงเชื่อส่งข้อมูลและโอนเงินให้ตามที่อ้างว่า จะดำเนินเรื่องช่วยเหลือ นอกจากนี้ สำนักงาน ปปง. ไม่เคยมีการเปิดให้ผู้เสียหายทุกรายคดียื่นคำร้องผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทางแต่อย่างใด สำหรับการเปิดรับคำร้องขอคุ้มครองสิทธิฯ สำนักงาน ปปง. กำหนดช่องทางการยื่นคำร้อง ดังนี้1. ยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงาน ปปง. หรือสถานที่อื่นที่พนักงานเจ้าหน้าที่กำหนด2. ยื่นทางไปรษณีย์ลงทะเบียน […]

แม่ค้าโวย! มิจฉาชีพมาในคราบนักบุญ ยืนกดดันยื่นซองผ้าป่าเรี่ยไรเงิน

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567 แม่ค้าข้าวสารตามตลาดนัด ชาว อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน เปิดเผยว่าได้ไปขายข้าวสารที่ตลาดนัดบ้านป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ขณะนั้นได้มีรถกระบะสีบรอนเงิน มีโครงหลังคา ติดป้ายไวนิลทอดผ้าป่าสมทบทุนสร้างศาลาเอนกประสงค์ วัดเทวาแสงธรรม จ.ชัยภูมิ เข้ามาจอดบริเวณตลาด มีชายฉกรรจ์ 2-3 คน เดินลงมายื่นซองผ้าป่าให้พ่อค้าแม่ค้า และยื่นกดดันรอรับซองผ้าป่าใส่เงินคืน ทางเธอกำลังสาละวนกับการขายข้าวสารให้ลูกค้าอยู่ เมื่อถูกชายดังกล่าวยืนกดดันอยู่จึงใส่เงินในซองผ้าป่าไป 20 บาท จากนั้นกลุ่มชายดังกล่าวก็รีบพากันขึ้นรถออกจากตลาด แม่ค้าขายข้าวสาร จึงเอะใจขี้นมาได้โทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าคณะจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีวัดเทวาแสงธรรม ใน จ.ชัยภูมิหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าใน จ.ชัยภูมิ ไม่มีวัดชื่อนี้ และมักได้รับการร้องเรียนเสมอว่ามีบุคคลกลุ่มดังกล่าวออกเรี่ยไรเงินตามต่างจังหวัดมานานแล้ว ดังนั้นเธอได้รีบแจ้งให้ตำรวจ สภ.ลี้ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกลุ่มเรี่ยไรดังกล่าวทราบว่ามุ่งหน้าไปยังตลาดนัดบ้านวังดิน อ.ลี้ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นรถกระบะคันดังกล่าวพร้อมกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ออกเรี่ยไรแจกซองผ้าป่าหลายพื้นที่ใน อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แล้วข้ามฝั่งไปยัง อ.เวียงหนองล่อง อ.บ้านโฮ่ง แล้วไปโผล่ที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน ดังกล่าว

เตือนภัย! สั่งซื้อทุเรียนทางออนไลน์ โอนเงินให้ถูกเบี้ยว

วันที่ 19 มิ.ย.2567 ทาง น.ส.สุชาดา อายุ 50 ปี อยู่บ้านหมู่ 5 ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.67 ที่ผ่านมาพบเพจเฟซบุ๊ก เพจหนึ่งทางออนไลน์ มีการโฆษณาขายทุเรียนหมอนทอง มีโปรโมชั่น กิโลละ 95 บาท ซื้อ 10 โลยกเซ็ต 950 บาท ส่งฟรี ซื้อ 15 โล 1,425 บาท ส่งฟรี ซื้อ 20 โล ยกเซ็ต 1,900 บาท ส่งฟรี ซึ่งเธอมีความเชื่อถือว่าเป็นเพจจริง จึงสนใจสั่งซื้อทุเรียนหมอนทอง 10 โล ยกเซ็ต 950 บาท และได้เซทติดต่อไปจ่ายเงินปลายทางเมื่อรับของแล้ว แต่ทางนั้นตอบว่า ต้องการจ่ายสดให้โอนเงินมาให้ก่อน เนื่องจากเป็นผลไม้ ทางเธอหลงเชื่อจึงโอนเงิน 950 […]

เปิดบูธทดสอบความรู้ กลโกงออนไลน์เสริมภูมิความรู้ สู้ขบวนการมิจฉาชีพ

ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ (CMPD) บูรณาการ ร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่และฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ เปิดบูธทดสอบความรู้ กลโกงออนไลน์เสริมภูมิความรู้ สู้ขบวนการมิจฉาชีพที่มีวิธีการที่แนบเนียนขึ้น ณ บริเวณหน้า สภ.เมืองเชียงใหม่ ในถนนคนเดินทุกวันอาทิตย์ จึงขอเชิญประชาชนชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยว ร่วมทำแบบทดสอบ ซึ่งผู้ที่ทำแบบสอบถาม หากผ่านเกณฑ์ก็จะได้รับใบประกาศนียบัตร และผู้ที่ได้รับคะแนนเต็ม ก็ได้รางวัลพิเศษอีกด้วย โดยกิจกรรมดังกล่าวจะเริ่มในวันอาทิตย์ ที่ 9 มิถุนายน 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป คาดว่าจะสร้างความสนใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะได้ทั้งความรู้และยังได้ใบประกาศนียบัตรเป็นที่ระลึกและยังเป็นเครือข่ายในการขยายความรู้ให้กับบุคคลในครอบครัว เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อ มิจฉาชีพทางออนไลน์ โดย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่าจังหวัดเชียงใหม่มีสถิติการแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนกว่า 19,810 คดี ส่วนใหญ่เป็นกรณีกลลวงซื้อของทางออนไลน์ ที่มีผู้ซื้อของทางออนไลน์แต่ยังไม่ได้รับสินค้า ในขณะคดีที่มีความเสียหายมูลค่าสูง จะเป็นเรื่องของการหลอกร่วมลงทุนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และหลอกให้โอนเงินทำให้เสียทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง พร้อมฝากเตือนภัย ให้กับประชาชน 3 ส่วน คือ 1. อย่าทำตัวให้ตกเป็นเหยื่อ อย่าหลงเชื่อเวลามีคนโทรมาชวนเล่นแอปพลิเคชั่นในลักษณะให้โอนเงินก่อนเพื่อแลกผลตอบแทน หรืออะไรที่ไม่รู้จัก ต้องตั้งสติ […]

คดี “ไกรสร” ถูกโกง ตำรวจไซเบอร์แจงแก๊งนี้ใช้ระบบ เปิดบริษัทม้า

จากรณี นายไกรสร แสงอนันต์ หรือลีละเมฆินทร์ อายุ 67 ปี อดีตนักแสดงคนดัง ถูกหลอกร่วมลงทุนในระบบออนไลน์ กับบริษัท สูญเงินเกือบ 7 ล้านบาท เข้าแจ้งความขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับ บริษัทดังกล่าวที่หลอกประชาชนไปทั่วทางโซเชียล ในระบบออนไลน์ โดยมีประชาชนหลายรายถูกหลอกในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก มูลค่าเกือบพันล้านบาท โดยได้เข้าแจ้งความขอให้ดำเนินคดีกับกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” เหตุเกิดช่วงปลายปี 66 และได้เข้าแจ้งความเมื่อเดือนมกราคา 67 ที่ผ่านมา ข่าวคืบหน้าเมื่อเวลา 09.40 น วันที่ 30 พ.ค.67 นายไกรสร แสงอนันต์ หรือลีละเมฆินทร์ อายุ 67 ปี อดีตนักแสดงดัง ได้เดินทางไปยังกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางงเทคโนโลยี 4 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี ซึ่งทาง พ.ต.ต.รุ่ง รักสำรวจ สารวัตร กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลให้ ทราบว่า คดีที่นายไกรสร ถูกแก๊งมิจฉาชีพ หลอกทางออนไลน์ นั้น […]

หนุ่มเตือนภัย มิจฉาชีพหลอกขายสินค้า ก่อนแอบเปลี่ยนสินค้า รับเงินแล้วชิ่งหนี

หนุ่มดอยเต่าโพสเตือนภัยมิจฉาชีพหลอกขายสินค้าเหยื่อหลงเชื่อแอบเปลี่ยนสินค้าแล้วรีบรับเงินหลบหนีทันที โชคดีมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 18 พ.ค.67 ร.ต.อ.สง่า ยานะโส รองสารวัตรสอบสวน สภ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งความจาก นาย เอ นามสมมุติ อายุ 32 ปีเจ้าร้านมินิมาร์ท ตั้งอยู่พื้นที่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางเข้าแจ้งความและโพสต์เตือนภัยว่าระวังแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงให้ซื้อสินค้า ราคาถูกกว่าท้องตลาดพอเราตกลงที่จะซื้อมีการแอบเปลี่ยนบิลและสินค้าราคาแพงกว่าท้องตลาดให้โดยที่เจ้าของยังไม่ได้ตรวจสินค้า แต่เมื่อเปิดดูปรากฎว่าของบางอย่างเช่น สบู่ราคาแพงกว่าท้องตลาดอีก จึงมั่นใจว่าโดนหลอกจึงเปิดดูกล้องวงจรปิด จากการตรวจสอบคนร้ายมากันเป็นรถตู้ทึบสีขาวและสีดำยี่ห้อฟอร์ดจำทะเบียนหมวดอักษรไม่ได้แต่หมวดจังหวัดเป็นจังหวัดยโสธรเห็นเป็นรถสีขาวป้าย ยโสธร ผู้เสียหายบอกอีกว่าคนร้าย 3 คน อายุประมาณ 40 กว่า 1 คน 30 กว่า 1 คน และ 20 กว่า รูปร่างอ้วน 1 คน แอบอ้างว่ามาจากบริษัทแห่งหนึ่ง มีทั้งขนม น้ำอัดลม ผงซักฟอก ปรับผ้านุ่ม ฯลฯ มีหนังสือแคตตาล็อคให้เราเลือกของ มีบิลให้เราสั่งของ […]

สพป.แพร่ เขต 1 เตือนภัยมิจฉาชีพ พบผู้เสียหายหลายรายแล้ว

ในวันนี้ (6 พฤษภาคม 2567) ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ มีข้าราชการบำนาญ เข้ามาติดต่อที่ สพป.แพร่ เขต 1 โดยมุ่งหน้าเข้าไปยังอาคารสำนักงาน ชั้น 2 เนื่องจาก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของ สพป.แพร่ เขต 1 ติดต่อไปว่าจะให้ปรับปรุงข้อมูลของข้าราชการบำนาญในระบบของกรมบัญชีกลาง พฤติกรรมของมิจฉาชีพที่พบ คือ 1. โทรไปหลอกข้าราชการบำนาญว่าจะต้องปรับปรุงข้อมูลของข้าราชการบำนาญในระบบของกรมบัญชีกลาง โดยใช้ภาษาถิ่น (อู้กำเมือง)2. สอบถามข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก หมายเลขโทรศัพท์ วันเดือนปีเกิด ฯลฯ เป็นต้น3. ขอให้แอดไลน์ ชื่อ “สพป.แพร่ เขต 1”4. ขอให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ซึ่งเป็นแอปฯ ปลอม เช่น Digital PENSION ที่มิจฉาชีพทำเลียนแบบของกรมบัญชีกลาง เป็นต้น ซึ่งในทันทีที่ติดตั้งแอปฯ ดังกล่าวสำเร็จ จะทำให้มิจฉาชีพเข้าควบคุมอุปกรณ์มือถือของเหยื่อได้ทันที5. จากนั้น มิจฉาชีพจะพยายามเปลี่ยนรหัสผ่านแอปฯ ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ในอุปกรณ์มือถือของเหยื่อ […]

1 2 3 7