790

ไขข้อสงสัย คอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม ?

3 เหตุผลวิทยาศาสตร์ที่จะตอบคำถามว่า คอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม             ‘คอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม’ เชื่อว่านี่น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตที่สาว ๆ หลายคนสงสัย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาด้านเส้นผม ที่กำลังมองหาตัวช่วยแก้ปัญหา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคอลลาเจน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าคอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม             บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยให้กระจ่าง ว่าจริง ๆ แล้วคอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม ด้วยเหตุผล 3 ข้อที่มีหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์รองรับ ติดตามได้เลย  คอลลาเจนกระตุ้นการสร้างกรดอะมิโน เส้นผมประกอบด้วยโปรตีนเคราตินเป็นหลัก โดยร่างกายของคุณใช้กรดอะมิโนหลายชนิดเพื่อสร้างเคราติน ซึ่งบางชนิดสามารถพบได้ในคอลลาเจน ดังนั้นเมื่อคุณกินคอลลาเจนและโปรตีนอื่นๆ ร่างกายของคุณจะแตกตัวเป็นกรดอะมิโน จากนั้นใช้เพื่อสร้างโปรตีนและสารประกอบใหม่  มีกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น 11 ชนิดที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้ และกรดจำเป็น 9 ชนิด ที่คุณจำเป็นต้องได้รับจากอาหารของคุณ คอลลาเจนประกอบด้วยกรดอะมิโนที่ไม่จำเป็น 3 ตัว ได้แก่ โพรลีน ไกลซีน และไฮดรอกซีโพรลีน โพรลีนยังเป็นส่วนประกอบหลักของเคราติน ดังนั้นการบริโภคคอลลาเจนที่อุดมด้วยโพรลีนจึงควรให้ร่างกายมีโครงสร้างที่จำเป็นในการสร้างเส้นผม จึงอาจที่จะพอสรุปได้ว่าคอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม คอลลาเจนช่วยต่อสู้กับความเสียหายต่อรูขุมขน สามารถตอบคำถามคอลลาเจนช่วยเรื่องผมไหม ด้วยคำอธิบายว่าคอลลาเจนสามารถทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและต่อสู้กับความเสียหาย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระอนุมูลอิสระ เป็นสารประกอบที่พัฒนาขึ้นในร่างกายของคุณอันเป็นผลมาจากความเครียด มลพิษทางอากาศ การสูบบุหรี่ การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ดี แอลกอฮอล์ และอิทธิพลของสิ่งแวดล้อมอื่นๆ […]

หาคำตอบ มนุษย์ต่างดาวมีจริงไหม ?

“เราอยู่ลำพังในจักรวาลหรือไม่?” หนึ่งในคำถามสำคัญที่ดาราศาสตร์อาจจะช่วยหาคำตอบให้เราได้ และความพยายามในการตอบคำถามนี้นี่เอง ที่นำเราไปสู่เทคโนโลยี ความก้าวหน้า และการค้นพบต่างๆ ตั้งแต่การส่งยานสำรวจอวกาศไปยังดาวเคราะห์และวัตถุในระบบสุริยะอื่นๆ การค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะอันห่างไกล และการพยายามค้นหาสัญญาณวิทยุ อันมีลักษณะแปลกไปจากที่จะสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติที่อาจจะมีที่มาจากสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากดาวดวงอื่น ผ่านโครงการที่มีชื่อว่า Search for ExtraTerrestrial Intelligence หรือ SETI โครงการ SETI ริเริ่มมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1900 โดยการดักฟังสัญญาณจากห้วงอวกาศที่อาจจะส่งมาจากสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากดาวดวงอื่น ด้วยจานรับสัญญาณวิทยุ เมื่อเวลาผ่านไปจึงมีการพัฒนาและปรับปรุงใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการค้นหาสัญญาณ ตั้งแต่การใช้เครื่อง Supercomputer ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมค้นหาสัญญาณด้วยคอมพิวเตอร์ของตนเองผ่านโครงการ SETI@home อย่างไรก็ตาม จนปัจจุบันเราก็ยังไม่เคยค้นพบหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากที่อื่นใดได้ และมนุษย์เรายังคงเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาลที่เรารู้จัก หนึ่งในความท้าทายของการค้นหาสัญญาณของสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาคือข้อจำกัดในการสังเกตการณ์ของเรา สัญญาณอันริบหรี่จากดวงดาวอันไกลโพ้นย่อมต้องใช้จานรับสัญญาณขนาดใหญ่ในการสังเกตการณ์ แต่นี่ก็ทำให้พื้นที่บนท้องฟ้าที่เราสามารถค้นหาได้นั้นแคบลง เช่น หากเราต้องการค้นหาสัญญาณด้วยจานขนาด 40 เมตรของหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์วิทยุแห่งชาติของ สดร. เราจำเป็นต้องทำการสำรวจทั้งหมดมากกว่า 500,000 ครั้ง จึงจะครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า ซึ่งหมายความว่าเวลาและรายละเอียดที่เราจะสามารถสังเกตการณ์ในแต่ละส่วนของท้องฟ้าก็จะสั้นลงไปอีก การพยายามค้นหาสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาโดยควานหาไปทั่วท้องฟ้า อาจเปรียบได้กับการพยายามก้มหาคอนแทคเลนส์ที่ไม่ทราบว่าตกอยู่บริเวณใด ทำให้เรามองข้ามไปได้โดยง่าย แต่หากเราสามารถจำกัดบริเวณที่น่าจะพบให้แคบลง เราก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาได้ดีขึ้น แนวคิดหนึ่งในการค้นหาสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญา จึงเน้นไปที่การค้นหาเฉพาะในทิศทางบนท้องฟ้าที่คาดว่ามีความน่าจะเป็นที่อาจจะมีสัญญาณส่งมามากที่สุด เช่น ทิศทางอันเป็นที่ตั้งของกระจุกดาวซึ่งเต็มไปด้วยดาวฤกษ์จำนวนมาก […]