2641

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ ชี้ปี 68 เศรษฐกิจไทยปั่นป่วน โตช้า ธุรกิจส่อเจ๊ง

10 ม.ค.68 รายงานจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ปี 2568 เศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะเติบโตช้าลงกว่าปี 2567 เล็กน้อย ตามแรงหนุนท่องเที่ยว ส่งออกที่ลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามการค้า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และภาคการผลิตไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว สงครามการค้ารอบใหม่คาดว่าจะส่งผลสุทธิเป็นลบต่อเศรษฐกิจไทย และเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มการส่งออกในปี 2568 โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 15 ประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าด้วยสูงสุด ทำให้มีความเสี่ยงจะโดนมาตรการการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งทางตรงจากการส่งออกสินค้าไปตลาดสหรัฐฯ ลดลง และทางอ้อมจากการแข่งขันที่สูงขึ้นกับสินค้าจีนทั้งตลาดในประเทศและตลาดส่งออก   ปี 2568 จะยังเป็นปีที่ปั่นป่วนสำหรับภาคธุรกิจ นอกจากผลของสงครามการค้า มาตรการรัฐบางเรื่องอาจกระทบต้นทุน และประเด็นเชิงโครงสร้างสะสม ทำให้สถานการณ์โดยรวมคงไม่ดีขึ้นได้มากนักจากปีก่อน โดยอุตสาหกรรมไทยจะยังฟื้นตัวต่างกัน และมีความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการขนาดกลางลงล่างในภาคการผลิตจะลดจำนวนลงอีก นอกจากนี้ จะยังคงเห็นสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทยเติบโตอย่างช้าๆ และอยู่ในระดับต่ำในปี 2568 สอดคล้องกับหลายปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในภาพรวม เศรษฐกิจไทยปี 2568        เศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่า จะเติบโตช้าลงกว่าปี 2567 เล็กน้อย ตามแรงหนุนท่องเที่ยว ส่งออกที่ลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามการค้า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และภาคการผลิตไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวแรงส่งจากท่องเที่ยวต่อ GDP เริ่มลดลงหลังจำนวนเข้าใกล้ระดับก่อนโควิด โมเมนตัมการเติบโตของการท่องเที่ยวปี 2568 […]

คาดปี 66 ชาวจีนเที่ยวไทยมากกว่า 1 ล้านคน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดปี 66 ชาวจีนเที่ยวไทยมากกว่า 1 ล้านคน ชี้ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี เป้าหมายใหญ่นิยมไป หลังจากที่ทางการจีนได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ภายในประเทศ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 ล่าสุดทางการจีนประกาศผ่อนคลายเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศจีน ตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาด ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้น ที่ทางการจีนจะอนุญาตให้ชาวจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้เป็นปกติภายในครึ่งแรกปี 2566 บนเงื่อนไขสำคัญที่การระบาดของโควิดระลอกใหม่นี้ไม่ได้ลุกลาม จนสร้างความกังวลต่อระบบสาธารณสุข        ภายใต้การคาดการณ์ที่ยังระมัดระวัง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2566 อาจเพิ่มกว่า 3-4 เท่าตัวจากปี 2565 หรือขยับขึ้นเป็นมากกว่า 1 ล้านคน และตัวเลขอาจจะมากกว่านี้ได้ หากเงื่อนไขต่างๆ เอื้อต่อการเดินทางมากขึ้น ทั้งนี้ แม้การผ่อนคลายเงื่อนไขต่างๆ ของทางการจีน จะเป็นสัญญาณบวกต่อภาพการฟื้นตัว ของตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ตาม การกลับมาของชาวจีนเที่ยวไทย ยังต้องใช้เวลาเช่นกันกว่าจะกลับไปสู่ระดับก่อนโควิด ภายใต้การคาดการณ์ที่ยังระมัดระวัง ตลาดนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทยในปี 2566 อาจเพิ่มกว่า 3-4 เท่าตัวจากปี 2565 หรือขยับขึ้นเป็นมากกว่า 1 […]

เศรษฐกิจไทยปี 2566 พร้อมจับตาจีนคลายล็อกดาวน์

เศรษฐกิจไทยปี 2566 ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกถดถอย พร้อมจับตาจีนคลายล็อกดาวน์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับตัวเลขประมาณการจีดีพีปี 2566 มาที่ร้อยละ 3.2 จากเดิมที่อยู่ในกรอบร้อยละ 3.2-4.2 แม้ว่าจะปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีสำหรับทั้งปี 2565 จากร้อยละ 2.9 มาที่ร้อยละ 3.2 ก็ตามนางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในปี 2566 ซึ่งจะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยูโรโซนมีแนวโน้มที่จะไม่เติบโต เป็นผลจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากวิกฤตพลังงานในยุโรปด้วย ในขณะที่ แนวโน้มที่จีนจะเปิดประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2566 มีมากขึ้น แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ในจีนหลังจากนี้ ทั้งจำนวนผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต และความเพียงพอของระบบสาธารณสุข เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ที่จีนจะเผชิญการแพร่ระบาดระลอกใหม่ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อเนื่องมายังกิจกรรมทางเศรษฐกิจจีน ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อสถานการณ์การเปิดประเทศของจีนดังกล่าว โดยยังคงจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 22 ล้านคน และการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ไว้ที่ร้อยละ 3.2ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยนั้น มองว่าเฟดคงจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 ไปแตะระดับร้อยละ 5.0 […]

ฝันร้าย Food Delivery ปี 66 ไรเดอร์อาจงานหด ลูกค้าลด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยรายงานเรื่อง ธุรกิจจัดส่งอาหาร ปี 2566 ในระยะข้างหน้า เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนได้ตามปกติ และผู้บริโภคมีการปรับพฤติกรรมมาใช้ชีวิตนอกบ้านมากยิ่งขึ้น โดยผู้บริโภคกลับมานั่งทานอาหารในร้าน และซื้อกลับมาทานด้วยตนเองมากขึ้น ส่งผลให้บทบาทของธุรกิจจัดส่งอาหารไปยังที่พัก (Food Delivery) ปรับลดลง โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่ามูลค่าตลาดในระยะข้างหน้าจะทรงตัวถึงหดตัวเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปี 2565 ผ่านปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ การใช้บริการ Food Delivery ยังมีอยู่แต่น่าจะอยู่ในระดับที่ชะลอลง สะท้อนให้เห็นจากผลสำรวจที่พบว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงปัจจุบันกลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 37 ปรับลดความถี่ในการใช้บริการลงหลังจากที่สถานการณ์โควิดดีขึ้น อาหารในหมวดพื้นฐานและอาหารจานด่วน น่าจะเป็นกลุ่มที่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้บริโภค ขณะที่กลุ่มประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่คาดว่าจะมีการชะลอตัวของคำสั่งซื้อลง ได้แก่ เครื่องดื่มและเบเกอร์รี่ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ผู้บริโภคสามารถซื้อได้สะดวกเมื่อกลับไปทำงานตามปกติ ระดับราคาเฉลี่ยต่อออเดอร์มีแนวโน้มทรงตัวหรือสูงขึ้น โดยเป็นผลจากการปรับขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหาร และราคาพลังงานที่ยังทรงตัวสูง ส่งผลให้ราคาอาหารเฉลี่ยต่อหน่วยและค่าบริการจัดส่งอาหารอาจมีการปรับเพิ่มขึ้น     อย่างไรก็ดี พฤติกรรมความเคยชินของผู้บริโภคบางกลุ่มและการทำตลาดอย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการแพลตฟอร์มจัดส่งอาหาร จะช่วยให้ในระยะข้างหน้าการใช้งานยังคงมีต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับฐานที่สูงในปี 2563-2565 ส่งผลให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจัดส่งอาหารต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานตลาดไปยังต่างจังหวัด การดึงกลุ่มลูกค้าเก่าให้ใช้งานต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอแพคเกจรายเดือน และการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มที่เกี่ยวเนื่อง เช่น บริการฝากซื้อสินค้าจากซูเปอร์มาร์เก็ต/ร้านสะดวกซื้อ(Mart) เป็นต้น ขณะเดียวกัน ก็มีการกระจายฐานธุรกิจไปอย่างหลากหลาย […]

มั่นใจไทยไม่ซ้ำรอย วิกฤติต้มยำกุ้งปี 40

นายเชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันพื้นฐานเศรษฐกิจไทยค่อนข้างแตกต่างจากช่วงปี 2540 ที่เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ในช่วงนั้นมีปัญหาเงินบาทไม่ยืดหยุ่นเพราะผูกไว้กับเงินดอลลาร์ ทุนสำรองระหว่างประเทศไม่มี จึงต้องกู้หนี้ต่างประเทศ ทำให้หนี้ต่างประเทศสูงมาก และยังมีปัญหาฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ตอนนี้หนี้ต่างประเทศต่ำแค่ 7 หมื่นล้านดอลลาร์ น้อยกว่าทุนสำรองมาก ซึ่งทุนสำรองระหว่างประเทศปัจจุบันมีมากถึง 2.4 แสนล้านดอลลาร์ และสภาพคล่องในประเทศมีสูงกว่า 4-5 ล้านล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรับมือวิกฤติและความเสี่ยงต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ความเสี่ยงที่ประเทศไทยต้องเจอหลังจากนี้ คงจะเป็นเรื่องปัญหาเชิงโครงสร้างมากกว่า เนื่องจากต้องเจอทั้งสังคมผู้สูงวัย ทำให้ความสามารถทางการแข่งขันไทยอาจจะลดลง เพราะคนทำงานในอนาคตน้อยลง และทำให้กำลังซื้อลดลงตาม จึงจะเป็นปัญหาให้ประเทศไทยในระยะปานกลางจนถึงระยะยาว หากไม่ได้มีการปรับแก้ไข แต่ยืนยันว่าในระยะสั้นประเทศไทยไม่มีปัญหาและไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ แม้ไทยจะเจอวิกฤติซ้อนวิกฤติทั้งโควิด-19 และสงครามรัสเซียกับยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันแพง ค่าครองชีพสูงก็ตาม สำหรับวิกฤติโควิดที่ไทยต้องเจอคือ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลต่อเนื่องมา 2 ปี แต่ไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงอะไร เพราะมีสภาพคล่องที่สูงต่างจากปี 2540 ที่ต้องกู้หนี้ตลอด และวิกฤติที่ไทยเจอมาจากภายนอกประเทศเป็นหลักไม่ได้มาจากเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น สงครามรัสเซียและยูเครน ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่ยืดเยื้อมากนัก เพราะทรัพยากรการทำสงครามของ 2 ประเทศเริ่มลดลง […]