72757

สสส. จับมือ ม.รังสิต, บริษัทเทลสกอร์ ร่วมพัฒนาหลักสูตร Young Influencer for Social Change

เวลา 10.00 น. วันที่ 29 สิงหาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยารังสิต และบริษัท เทลสกอร์ จำกัด จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) เดินหน้าพัฒนาหลักสูตรวิชาอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม ผ่านการอบรมภายใต้โครงการ Young Influencer for Social Change หวังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ตื่นตัวใช้พลังโซเชียลขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ นางญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. กล่าวว่า สสส. มุ่งส่งเสริมให้เกิดนิเวศสื่อสุขภาวะ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนทุกวัยมีขีดความสามารถและสร้างสรรค์ระบบสื่อ ด้วยการมีความรู้เท่าทันสื่อ มีทักษะในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม ควบคู่ไปกับการมีสุขภาวะทางปัญญา ที่ผ่านมา สสส. ทำงานเชิงรุกกับกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์บนสื่อดิจิทัลในทุกระดับและหลากหลายช่องทาง และมีการอบรมอินฟลูเอนเซอร์ระดับมืออาชีพเพื่อนำไปสู่การสร้างเครือข่ายผู้ร่วมขับเคลื่อน และขยายแนวคิดการสร้างระบบนิเวศสื่อสุขภาวะไปสู่สังคม “สสส. มองเห็นพลังของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ที่มีความฝันอยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ในอนาคต จึงร่วมกับ ม.รังสิต และและ บริษัท เทลสกอร์ จำกัด พัฒนาหลักสูตรวิชาอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม (Influencer for Social Change) […]

‘เยาวชน-ผู้หญิง’ ขึ้นแท่นเป้าหมายหลักของการโฆษณาเหล้า-เบียร์ยุคใหม่ 

จากข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มของพฤติกรรมการดื่มทั่วโลกพบว่า คนยุคใหม่มีแนวโน้มที่จะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลง แต่ถ้าดูข้อมูลที่วิจัยกับกลุ่มเป้าหมายเฉพาะในประเทศไทยจะพบข้อมูลที่น่าเป็นห่วง นั่นคือ การเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนและผู้หญิงเพิ่มขึ้น ซึ่งเยาวชนจัดเป็นกลุ่มเปราะบาง เพราะเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบทั้งจากการดื่มเองและจากความรุนแรงในครอบครัวที่เป็นผลมาจากการดื่มเหล้าของพ่อหรือแม่ นอกจากนี้ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเยาวชนยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้วิธีการโฆษณาโดยตรง เพราะตัวเลขจากบริษัทวิจัยในอเมริการะบุว่า จากการวิเคราะห์งานเทศกาลดนตรีกว่า 600 งาน สินค้าที่จ่ายเงินเป็นค่าโฆษณามากที่สุด คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกว่าครึ่งของจำนวนนี้ยังเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของงาน เห็นได้จากการตั้งชื่อเวทีตามชื่อแบรนด์แอลกอฮอล์ที่เป็นสปอนเซอร์หลัก ย้อนไปตอนฟุตบอลโลก ปี 2018 สองโฆษณาที่มีคนเห็นมากที่สุดในช่วงนั้นก็คือ ฟาสต์ฟู้ดและแอลกอฮอล์ ส่วนในวงการหนัง การศึกษาข้อมูลจากหนังราว 2,000 เรื่อง พบว่ามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในหนังมากถึง 80% ‘ดนตรี-กีฬา-หนัง’ จึงเป็นสามช่องทางที่มีการโฆษณาเหล้า-เบียร์สูง ทั้งทางตรงและทางอ้อมในรูปแบบของกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่างๆ  ทางออกทางหนึ่งของปัญหานี้ในขณะที่กฎหมายยังทำหน้าที่ได้ไม่ 100% น่าจะเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้เด็กและเยาวชนรู้สึกว่า แอลกอฮอล์ไม่ใช่เครื่องตัดสินความมีตัวตนเพียงอย่างเดียว และทำความเข้าใจที่มาที่ไปของปัญหา นำเสนอทางออกด้วยท่าทีที่เป็นมิตร และใช้ความเมตตาในการทำงานกับเด็กและเยาวชน นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าส่วนหนึ่งจากงานเสวนาสาธารณะ ตอน เล่าเรื่องเหล้า: อยากให้เรื่องเหล้า ไม่มีเรื่องร้าย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Thai Health Watch Series 2024 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ (สสส.) […]

สสส.ชี้ ภาคอีสาน ดื่มแอลกอฮอล์ สูงอันดับ 2 ของประเทศ รองจากภาคเหนือ

เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2567 ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่ถอดบทเรียนความสำเร็จและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “พลังหมออนามัย ชวนคนลด ละ เลิกเหล้า Checkตับ ยืดชีวิต” จัดการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเอนไซม์ตับ ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายหมออนามัยเพื่อพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพในผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในชุมชนโดยมีการเจาะเลือดตรวจหาค่าเอนไซม์ตับจากกลุ่มผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นครั้งที่ 2 ภายหลังเข้าร่วมโครงการฯ ครบ 6 เดือน พร้อมการตรวจเยี่ยมบ้านผู้เข้าร่วมโครงการฯ โดย นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุด ปี 2564 พบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอัตราการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้อยละ 32.2 สูงเป็นอันดับ 2 รองจากภาคเหนือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักของภาระโรคของคนไทย รองจากบุหรี่ และยังเป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ ไขมันแทรกในตับ ตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับ คนไทยมีพฤติกรรมดื่มสุราแบบหนักในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาจำนวน 5.73 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 10.05 การดื่มหนักจะส่งผลให้ตับอักเสบ และตรวจพบเอนไซม์ตับรั่วออกมาในกระแสเลือดในปริมาณสูงได้  สสส. จึงได้บูรณาการองค์ความรู้ด้านปัจจัยเสี่ยงหลัก […]

พชภ.จับมือ ม.มหิดล ร่วมหาทางออก เด็กไทยขาดการออกกำลังกาย

พชภ.จับมือ ม.มหิดล ร่วมหาทางออก ผลการสำรวจพบเด็กไทยตกอยู่ในสภาพเนือยนิ่ง ขาดการออกกำลังกาย สาเหตุจากสภาพสังคมเปลี่ยน วันที่ 7 มิถุนายน 2567 ห้องประชุมโรงแรมเอ็มบูติค จ.เชียงราย มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.) โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้มีการประชุมโครงการสร้างเสริมสุขภาวะทางกายเด็กและเยาวชนชุมชนชาติพันธุ์เขตพื้นที่ต้นน้ำจังหวัดเชียงราย โดยคณาจารย์จากโรงเรียนต่างๆที่ร่วมโครงการ เจ้าหน้าที่ สพฐ. รพสต. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. กว่า 50 คน รวมทั้งนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. และนางจุฑามาศ ราชประสิทธิ์ ผู้จัดการโครงการเพื่อส่งคืนรายงานผลการสำรวจสถานการณ์กิจกรรมทางกาย (Physical Activity) ในเด็กและเยาวชนชาติพันธุ์ นางจุฑามาศ กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2566 ทางโครงการได้คัดเลือก “นักสืบกายดี” จากนักเรียนแกนนำทำหน้าที่เป็นผู้เก็บข้อมูล โรงเรียน 9 แห่ง โดยนักสืบกายดีที่คัดมาจะได้รับการอบรมวิธีการเก็บข้อมูลเพื่อนๆ เรื่องสุขภาพของเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน จำนวน​ 50 คน รวมทั้งหมด 450 คน […]

สสส.เปิดเวทีระดมความคิด สานพลัง ร่วมสร้าง “ระบบนิเวศสื่อเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุ”

​จากข้อมูลของกรมกิจการผู้สูงอายุ พบว่ามีจำนวนประชากรผู้สูงอายุคิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด บ่งชี้ได้ว่าสังคมไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ หน่วยงานหลายภาคส่วนเล็งเห็นถึงความสำคัญของการรับมือกับสังคมผู้สูงวัยในทุกมิติ อีกทั้งมุ่งทำงานขับเคลื่อนในเรื่องของการพัฒนาผู้สูงวัยให้สามารถอยู่ท่ามกลางโลกแห่งเทคโนโลยีได้อย่างรู้เท่าทัน สามารถก้าวไปข้างหน้าได้พร้อมๆ กับประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยกลุ่มคนตัว D ที่ทำงานขับเคลื่อนเรื่องผู้สูงวัยมาอย่างต่อเนื่อง ได้จัดทำ “โครงการพัฒนาศักยภาพนักกระบวนกรสื่อสารสุขภาวะและขับเคลื่อนกลไกสูงวัยรู้ทันสื่อระดับจังหวัด” ภายใต้การสนับสนุนจากสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา (สำนัก 11) สสส. ได้จัดเวทีสื่อสาธารณะออนไลน์ ในหัวข้อ “ร่วมสร้างระบบนิเวศสื่อ เพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้สูงอายุ” เพื่อระดมความคิด สานพลังกลุ่มคนทำงานด้านสื่อและผู้สูงวัย เพื่อหาแนวทางเตรียมรับมือสถานการณ์สังคมผู้สูงวัย พลิกวิกฤติเป็นโอกาส เปลี่ยนผู้สูงวัยให้กลายเป็นพลัง ดึงพลเมืองทุกช่วงวัยเข้ามาโอบอุ้มขับเคลื่อนนิเวศสุขภาวะไปด้วยกัน โดยมีตัวแทนจากหลายหน่วยงานหลายภาคส่วนเข้าร่วมการเสวนาในครั้งนี้ด้วย โดย “มัทนา ถนอมพันธุ์ หอมลออ” ประธานกรรมการกำกับทิศทางแผนระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา (สำนัก11) สสส. กล่าวถึงมุมมองของสังคมไทยที่มีต่อผู้สูงอายุว่า “จริงๆ แล้วผู้สูงอายุหลายคนยังมีศักยภาพ เราจะเห็นในวงการออกกำลังกาย ที่พวกท่านยังคงพึ่งพาตัวเองได้แม้จะอยู่ลำพังก็ตาม แต่ในคนส่วนใหญ่ในเมืองไทยเรายังมองผู้สูงอายุว่าเป็นกลุ่มที่อ่อนแอ ถือไม้เท้า ไร้ศักยภาพ จึงอยากชี้ให้มองอีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มที่สามารถเป็นเพื่อนและพึ่งพาได้ โดยการสำรวจของมหิดล พบว่า “วัยเพิ่มขึ้นแต่หัวใจยังสดใสเสมอ” ทีนี้เวลาเรามองโครงสร้างของสื่อ คือมันไม่ได้อยู่โดดๆ แต่ระบบนิเวศสื่อมันเกี่ยวโยงกับความเหลื่อมล้ำที่มาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งความคิด ทัศนคติ มุมมอง […]

ร้อนนี้อยากดำน้ำต้องระวัง แรงดันอากาศเสี่ยงทำปอดแตกถึงตาย

มนุษย์เป็นสัตว์บกที่อยู่บนบกมานานแสนนาน ร่างกายจึงวิวัฒนาการจนเหมาะที่จะอยู่บนบกมากกว่าในน้ำ แต่บางครั้งที่เกิดความรู้สึกอยากเปลี่ยนไปดูโลกใต้น้ำ ชมปะการัง ดูหอยดูปลา แต่ครั้นจะกระโดดพรวดลงน้ำไปดื้อๆ ก็คงอยู่ในน้ำได้ไม่นาน ก็ต้องรีบโผล่หน้าขึ้นมาหายใจ เพราะคนเราไม่สามารถกลั้นหายใจได้นานๆ และเราก็ไม่สามารถหายใจในน้ำได้อย่างปลาด้วย แต่ความที่อยากอยู่ในน้ำให้ได้นานๆ นี่เอง ทำให้มนุษย์ พยายามค้นคิดอุปกรณ์ขึ้นมา เพื่อให้สามารถหายใจได้ ขณะที่อยู่ในน้ำ ซึ่งเจ้าอุปกรณ์ที่ว่านี้เขาเรียกว่า เครื่องดำน้ำ แม้จะมีอุปกรณ์ช่วยหายใจที่ทำให้คนเราแหวกว่าย อยู่ในน้ำได้นานแล้วก็ตาม แต่มนุษย์ก็ไม่ใช่กุ้ง หอย ปู ปลา ดังนั้นปัญหาทางด้านสุขภาพจึงเกิดขึ้นบ่อยๆ เนื่องมาจากการปรับตัวไม่ทัน จากการ ดำน้ำที่ลึกไปกว่า 60 ฟุต หรือแม้แต่การดำน้ำตื้นๆ ก็ประมาทไม่ได้ ที่ระดับน้ำทะเลแรงกดของอากาศต่อตัวเรามีประมาณ 14.7 ปอนด์ต่อ 1 ตารางนิ้ว ซึ่งแรงกด ขนาดนี้ถูกกำหนดไว้ว่าเป็นแรงกด 1 บรรยากาศ เมื่อเราขึ้นไปอยู่ในที่สูง แรงกดจะค่อยๆ ลดลงตรงกันข้าม ถ้าเราลงไปในน้ำ แรงกดจากน้ำจะเติม เข้ามาด้วย เพราะน้ำมีความหนาแน่นมากกว่าอากาศมากมาย ฉะนั้น เพียงดำน้ำลงไปแค่ 33 ฟุตในน้ำทะเล หรือ 34 ฟุต ในน้ำจืด […]

อ.กัลยาณิวัฒนา สร้างภูมิคุ้มกัน เด็กนักเรียน

อ.กัลยาณิวัฒนา บูรณาการทุกภาคส่วน สร้างภูมิคุ้มกันเด็กนักเรียน วันที่ 21 ธันวาคม 2565 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปกครองนักเรียน ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมฝึกอบรม”เรื่องเพศยิ่งคุยยิ่งฟังยิ่งเข้าใจยิ่งปลอดภัย”ดำเนินการฝึกอบรมโดยวิทยากรกระบวนการจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) และส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ณ โรงเรียนบ้านวัดจันทร์ ตำบลบ้านจันทร์ อำเภอกัลยาณิวัฒนา มีผู้เข้าร่วมอบรมประกอบด้วย นักเรียนชั้นมัธยมต้น(ม.1-3) โรงเรียนบ้านวัดจันทร์จำนวน 50 คน ทั้งนี้เป้าหมายการฝึกอบรมทั้งสิ้น 15 โรงเรียน จำนวนนักเรียน 1,029 คน

อ.กัลยาณิวัฒนา ฝึกอบรมครู ป้องกันความผิดเกี่ยวกับเพศในนักเรียน

อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) และผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ ฝึกอบรมครู เข้าใจเรื่องเพศ เป็นพี่เลี้ยงนักเรียน ป้องกันความผิดเกี่ยวกับเพศ ในกลุ่มนักเรียน วันที่ 20 ธันวาคม 2565 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมครู “เรื่องเพศ ยิ่งคุย ยิ่งฟัง ยิ่งเข้าใจ ยิ่งปลอดภัย” ณ หอประชุมโรงเรียนมัธยมกัลยาณิวัฒนาเฉลิมพระเกียรติ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย บุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา จำนวน 15 แห่งๆละ 2 คน รวม 30 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บุคลากรหรือครูในโรงเรียนมีความรู้เข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศ ความผิดเกี่ยวกับเพศตามกฏหมาย สามารถให้คำปรึกษาหรือแนะนำเรื่องเพศ ให้แก่นักเรียนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับวัย ตลอดจนเป็นที่พึ่งให้กับนักเรียนได้ให้สามารถป้องกันตนเองไม่มห้ถูกล่อลวงไปในทางผิดศีลธรรมและกฎหมาย นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ อำเภอกัลยาณิวัฒนาได้ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ทุกแห่ง โดยได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) นำทีมวิทยากรกระบวนการที่มีประสบการณ์การฝึกอบรมให้ความรู้แก่ครู และนักเรียน ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเพศ และการป้องกันตนเอง สำหรับการจัดฝึกอบรมลักษณะนี้ ถือเป็นการอบรมครั้งแรกในพื้นที่ ครอบคลุมโรงเรียนทุกแห่ง […]

(มีคลิป) อ.กัลยาณิวัฒนา ”ติวเข้มครู”

อ.กัลยาณิวัฒนา”ติวเข้มครู” ทุกโรงเรียน เป็นพี่เลี้ยงลดเสี่ยง ป้องกันความผิดเกี่ยวกับเพศ ในเด็กนักเรียน อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมมือกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) และผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ ฝึกอบรมครู เข้าใจเรื่องเพศ เป็นพี่เลี้ยงนักเรียน ป้องกันความผิดเกี่ยวกับเพศ ในกลุ่มนักเรียน นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมครู “เรื่องเพศ ยิ่งคุย ยิ่งฟัง ยิ่งเข้าใจ ยิ่งปลอดภัย” ณ หอประชุมโรงเรียนมัธยมกัลยาณิวัฒนาเฉลิมพระเกียรติ ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย บุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่อำเภอกัลยาณิวัฒนา จำนวน 15 แห่งๆละ 2 คน รวม 30 คน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บุคลากรหรือครูในโรงเรียน มีความรู้เข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศ ความผิดเกี่ยวกับเพศตามกฏหมาย สามารถให้คำปรึกษาหรือแนะนำเรื่องเพศ ให้แก่นักเรียนได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับวัย ตลอดจนเป็นที่พึ่งให้กับนักเรียนได้ ให้สามารถป้องกันตนเองไม่ให้ถูกล่อลวงไปในทางผิดศีลธรรมและกฎหมาย นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอกัลยาณิวัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่าการจัดการฝึกอบรมครั้งนี้ อำเภอกัลยาณิวัฒนาได้ร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาในพื้นที่ทุกแห่ง โดยได้รับความอนุเคราะห์จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) นำทีมวิทยากรกระบวนการที่มีประสบการณ์การฝึกอบรมให้ความรู้แก่ครู และนักเรียน […]

ยกระดับ ซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่ารับหลัก BCG

กรมควบคุมมลพิษ – สสส. สานพลังสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า เร่งยกระดับ สมรรถนะซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่ารับหลักการ BCG วันที่ 8 ธันวาคม 2565 กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จัดฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ภายใต้กิจกรรมการพัฒนาศักยภาพซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า โครงการพัฒนาและบริหารจัดการการคัดแยกและนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ โดยกระบวนการมีส่วนร่วมของซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า และเพจลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป ร่วมสนับสนุน โดยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ มอบหมาย นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ รองอธิบดี คพ. เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ รองอธิบดี คพ. กล่าวว่า แนวทางการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางโดยมีซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่าเข้ามาร่วมเป็นกลไกในการทำให้เศษพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ จากบ้านเรือน อาคาร สำนักงาน และแหล่งกำเนิดต่างๆ ถูกนำกลับไปใช้ประโยชน์เป็นวัตถุดิบในภาคอุตสาหกรรมเพื่อทำให้ “ขยะ” ต้องไม่ใช่ “ขยะ” แต่ “ขยะ” คือ “ทรัพยากร” ที่ต้องนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน สอดคล้องกับนโยบาย BCG โมเดลตามที่รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ […]

เชียงใหม่ เสี่ยงอันดับ 1 สารเคมีตกค้างในเลือดสูงสุด

ภาคเหนืออ่วม พบสารเคมีในผักสูงสุด เชียงใหม่ เสี่ยงอันดับ 1 ตกค้างกว่า 70%   เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2565 ที่กาดต่อนยอน ชุมชนโหล่งฮิมคาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ นางประภาศรี บุญวิเศษ กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเท่าเทียม สานพลังภาคีเครือข่ายดำเนินการพัฒนาองค์ความรู้ ฐานข้อมูล กระบวนการพัฒนาต้นแบบพื้นที่อาหารปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่อง เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่พบสารเคมีตกค้างในเลือดสูงเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ จึงต้องเร่งดำเนินโครงการฯ เพื่อสร้างความรอบรู้ด้านอาหาร ให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชผลอินทรีย์ร่วมมือกับร้านอาหาร ตลาด โรงแรม โรงเรียน พัฒนาแหล่งอาหารปลอดภัยในชุมชน ช่วยผู้บริโภคเลือกซื้ออาหารที่มีโภชนาการที่เหมาะสม นำไปสู่เป้าหมายการพึ่งพาตนเอง สร้างอาหารจากการปลูกผักที่ปลอดภัยด้วยตนเองได้   รศ.ดร.วินิตา บุณโยดม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า ภาคเหนือ เป็นภาคที่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายประชาชนระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยสูงสุดมากว่า 10 ปี ในปี 2565 มีสารเคมีตกค้าง 70.3% ภาคใต้ 58.65% ภาคกลางและภาคตะวันออก 41.19% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 37.14% มช. สานพลัง สสส. และภาคีเครือข่าย ริเริ่มโครงการสร้างเสริมสุขภาพจากเกษตรกรสู่ผู้บริโภคและกลุ่มผู้เปราะบาง ในช่วงภาวะวิกฤติ พร้อมทั้งผลักดันระบบห่วงโซ่อาหารอย่างครบวงจรเข้าสู่ภารกิจของหน่วยงานในพื้นที่เชียงใหม่ เร่งขับเคลื่อนการทำงานด้านอาหารปลอดภัย สร้างความรอบรู้ด้านอาหารแก่ผู้บริโภค ลดการตกค้างของสารเคมีทั้งในผักที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มุ่งเป้าให้เชียงใหม่เป็นเมืองอาหารปลอดภัยอย่างแท้จริง ศ.ดร.พวงรัตน์ ขจิตวิชยานุกูล อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มช. และผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า พืชผักในเชียงใหม่ที่มีการตกค้างของสารเคมี 5 อันดับแรก คือ คะน้า ผักกาดขาว มะเขือเทศ […]

หารือแนวทางการขับเคลื่อนโครงการสร้างและพัฒนาการดำเนินการ “บวร”

คณะทำงานจุดจัดการจังหวัดเชียงใหม่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ (สสส.) นำโดยนางสุพิมพ์ ค้าขาย ประธานจุดจัดการ ฯ และคณะ พร้อมด้วยนางภักดิ์ศรินญา คมน์สุทธิแสน ผู้อำนวยการโรงเรียนหางดงรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ เลขานุการยุทธศาสตร์ที่ 5 การขับเคลื่อนโครงการสร้างและพัฒนาการดำเนินการ “บวร” ปลอดบุหรี่ ระยะที่ 2 และนางสาวณัฎฐิณี ปินตา ตัวแทนผู้บริหารโรงเรียนหางดงรัฐราษฎร์อุปปถัมภ์ เข้าพบ ดร.สุชน วิเชียรสรรค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงใหม่ เวลา 10.30 – 11.30 น. วันที่ 19 ตุลาคมๆ 2565 เพื่อหารือแนวทางการขับเคลื่อนโครงการ ฯ ให้แก่โรงเรียนในสังกัด โดยทางโครงการจะมีการขับเคลื่อนต่อไป พร้อมทั้งได้วางแผนการดำเนินการ อาทิ การส่งเอกสารของโรงเรียนในสังกัด การทำข้อตกลง (MOU) กับภาคีเครือข่าย การอบรมนักเรียนแกนนำ Gen Z และการประเมินโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนปลอดบุหรี่และแอลกอฮอล์ และศูนย์การเรียนรู้พื่อโรงเรียนปลอดบุหรี่

1 2