73486

คนร้ายขึงสายเคเบิ้ลขวางถนน ทำคนสัญจรได้รับบาดเจ็บ

สาวโพสต์เตือนภัย คนร้ายขึงสายเคเบิ้ลขวางถนน ทำคนสัญจรได้รับบาดเจ็บ โดนรัดคอจนมีรอยซ้ำ! วันที่ 29 ก.ย. 66 ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์เตือนภัยเนื่องจากน้องสาวได้รับบาดเจ็บจากการที่มีบุคคลปริศนา ได้นำเอาเชือกหรือวัสดุบางอย่างไปขึงขวางถนน ที่บริเวณปากทางเข้าบ้านทุ่งอ่าง ม.6 ต.สถาน อ.เชียงของ จ.เชียงราย จนทำให้น้องสาวซึ่งสัญจรผ่านถนนในช่วงที่มีการขึงเชือกไว้ ต้องได้รับบาดเจ็บ มีรอยซ้ำแดงจากการโดนเชือกรัดคอเป็นทางยาว ล่าสุดยังมีอาการปวดซ้ำแดงบริเวณที่โดนรัดอยู่ โชคดีที่ไม่ใช่สายสลิงหรือวัตถุที่มีความคมกว่านี้ก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต หลังเกิดเหตุจึงไปแจ้งความไว้แล้ว และนำเรื่องราวที่พบเจอไปโพสต์ในกลุ่มข่าวของ อ.เชียงของ มีใจความว่า… “ใครเอาเชือกเอาสายอะไรไปขึงไว้ที่ถนนปากทางเข้าบ้านทุ่งอ่างก็มารับผิดชอบตวยเน้อจ้าวกล้าทำก็กล้ารับเนาะลูกมีป่อมีแม่คอปุ๊ดมายะจะไดสมองมีถ้าโตพอที่จะมีความคิดก็รับผิดชอบนะคะ #ใครมีกล้องวงจรแถวนั้นทักมาหาหน่อยนะคะ🙏🏻🙏🏻” ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะประนามคนที่ก่อเหตุ และต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนและติดตามคนที่ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เพราะหวั่นว่าจะก่อเหตุซ้ำหรือมีพฤติกรรมเลียนแบบ และอาจเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน จากการสอบถามทราบว่า ภายหลังจากได้โพสต์เหตุการณ์ดังกล่าวไปแล้ว ในช่วงเวลากลางวันของวันนี้ (29 ก.ย.) ทางญาติและผู้ประสบเหตุได้กลับไปดูที่เกิดเหตุเพื่อหาร่องรอย ก็ไปพบว่ามีสายเคเบิ้ลสีดำมัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้าข้างถนน โดยมัดสูงจากระดับพื้นประมาณ 80-100 ซม. และที่เสาไฟส่องสว่างตรงบริเวณเกาะกลางถนนซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน ก็มีสายเคเบิ้ลลักษณะเดียวกันมัดอยู่ในระดับเดียวกัน แต่สายทั้งสองฝั่งขาดออกจากกัน จึงคาดว่าคนร้ายได้นำสายเคเบิ้ลดังกล่าวมาขึงไว้เพื่อก่อความไม่สงบในพื้นที่โดยไม่เจาะจงตัว และเมื่อมีคนเคราะห์ร้ายมาประสบเหตุแล้วจึงกลับมาตัดสายเคเบิ้ลหรือสายอาจจะขาดออกจากกันตอนที่รัดคอผู้เคราะห์ร้ายก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทางญาติได้วอนขอผู้ที่อยู่อาศัยใกล้กับที่จุดเกิดเหตุ และอาจมีกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพขณะคนร้ายกำลังก่อเหตุเอาไว้ได้ หรือผ่านไปพบเห็นคนต้องสงสัย ช่วยแจ้งเบาะแสไปที่ สภ.เชียงของ เพื่อจะได้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

บ.สายเคเบิลเกี่ยวคอ ยอมรับผิดดูแลคนเจ็บแล้ว

เจ้าของ บ.สายเคเบิลเกี่ยวคอพ่อค้าหมูปิ้งโผล่ออกยอมรับผิดจะชดใช้ค่าเสียหายให้คนเจ็บทั้ง 2 แล้ว เขตเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวคืบหน้า กรณีพ่อค้าหมูปิ้งพาภรรยานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ทุกสายเคเบิลผ้ากลางถนนเกี่ยวคอเกือบขาดได้รับบาดเจ็บในท้องที่สภ. เมืองเชียงใหม่ (ตามข่าวที่ส่งไปและก่อนหน้านั้นแล้ว) ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันนี้( 11 สิงหาคม) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่) ได้มีตัวแทนบริษัท ผู้ประกอบการสื่อสารรายหนึ่งได้เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อขอตรวจสอบว่าสายเคเบิลที่พาดผ่านลงมาเกี่ยวคอ พ่อค้าหมูปิ้งและภรรยาได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นของ ผู้ประกอบการรายใด ตัวแทนฯกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าสายที่หย่อนลงมาเกี่ยวคอสองผัวเมียได้รับบาดเจ็บนั้นยังไม่ทราบว่าเป็นของเจ้าไหนเนื่องจากว่าในโซนนั้นมีสายเคเบิลผู้ประกอบการ 3-4 ราย พาดผ่านบริเวณนั้นวันนี้จึงมาขอดูหลักฐานจากรูปถ่ายของพนักงานสอบสวนแต่ก็ยังไม่สามารถจะยืนยันได้ชัดเจน ถ้าหากเป็นสายเคเบิ้ลของบริษัทจริงก็พร้อมที่จะจ่ายเงินเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้บาดเจ็บ ต่อมาตามทางพนักงานสอบสวนจะได้พาผู้เสียหายพร้อมกับพยานไปพิสูจน์สายเคเบิลที่ตกลงมากองอยู่ริมโคเสาไฟฟ้า ถนนทิพย์เนตร ขาออกเมืองท้องที่ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่โดยทางพยานซึ่งเป็นคนมาช่วยม้วนเก็บสายเคเบิลมากองไว้ที่ริมถนนข้างทางยืนยันว่าเป็นสายเส้นขนาดเล็กที่ห้อยหย่อนลงมากลางถนน คาดว่าจะถูกรถบรรทุกสิบล้อเกี่ยวสาย จึงหล่นลงมาจังหวะที่คนเจ็บทั้ง2ขี่รถผ่านมาพอดีจึงเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวคอพอดีพยาน จึงเรียกรถกู้ภัยพา ไปส่งโรงพยาบาลแล้ว แล้วก็ได้ม้วนเก็บสายมากกองไว้ริมถนน เพื่อไม่ให้บุคคลอื่นมาเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ทางตัวแทน บริษัทสื่อสาร ฯกล่าวว่าเมื่อมีพยานยืนยันชัดเจนแบบนี้ทางบริษัทก็ยอมรับผิดชอบ ว่าเป็นสายเคเบิลของบริษัทจริงแต่เป็นสายรุ่นเก่าที่เลิกใช้ไปแล้วคาดว่าจะถูกรถบรรทุกเกี่ยวลงมาตามที่พยานบอกไว้ในส่วนค่าเสียหายในเบื้องต้นทางตนก็จะนำเรื่องนี้เข้าเสนอ บริษัทแม่ที่ส่วนกลาง เพื่อมาเยียวยา ให้กับทางผู้เสียหายทั้ง 2 คนอีกครั้ง ซึ่งหากมีหนังสือตอบอุมัติกลับมาก็จะได้นัดให้ผู้เสียหายทั้ง 2 คนมา พบที่โรงพักเพื่อรับเงินเยียวยา และลงบันทึกประจำวันไว้ เป็นหลักฐานต่อไป

พ่อค้าหมูปิ้งโอดครวญหลังถูกสายเคเบิลเกี่ยวคอหวิดดับ

กรณีนายสมชาย ชนะเสือ อายุ 50 ปีและนางสาวยวลี ท้าวยศ อายุ 49 ปี 2 สามีภรรยามีอาชีพขายหมูปิ้งอยู่ริมถนนย่านถนนวัวลายในตัวเมืองเชียงใหม่ ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านจะมาขายหมูปิ้ง ขณะที่ขี่มาตามถนนทิพเนตร(ขาเข้าเมืองเชียงใหม่) ท้องที่ตำบลหายยาในตัวเมืองเชียงใหม่เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา แล้วถูกสายเคเบิ้ลหรือสายโทรศัพท์พาดผ่านกลางถนนห้อยหย่อนลงมา คนขี่ทั้งสองมองไม่เห็นเนื่องจากเป็นช่วงเช้ามืด ทำให้สายเกี่ยวคอผู้บาดเจ็บทั้งสอง ชนรถล้มลงหลังจากเกิดเหตุนายสมชายฯคนขี่ได้สลบคาที่ส่วนแฟนสาวที่ซ้อนท้ายมาด้วยได้รับบาดเจ็บ( ตามข่าวที่ส่งไปก่อนหน้านั้นแล้วที่ สายเคเบิลเกี่ยว 2 ผัวเมีย หวิดคอขาด!! https://www.chiangmainews.co.th/news/2246276/) ล่าสุดเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันนี้( 11 สิงหาคม) ทางผู้เสียหาย นายสมชายฯและนางสาวยวลี ได้เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตอนนี้ ตนทั้ง 2 ลำบากมากเพราะไม่สามารถออกบ้านไปทำมาค้าขายได้ต้องไปล้างแผลทุกวันอยากจะให้เจ้าของสายสื่อสาร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมารับผิดชอบเยียวยาค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาลค่าซ่อมรถ ให้ตนทั้งสองด้วยเนื่องจากว่าขณะนี้เดือดร้อนเป็นอย่างมากส่วนจะให้ตนไปฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลนั้น ก็ไม่อยากจะทำเพราะว่าไม่มีเวลาก็ต้องทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง อย่างไรก็ตามทางยุติธรรมจังหวัดเชียงใหม่ได้ประสานมายังทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่เพื่อจะเข้ามาช่วยเหลือผู้เสียหายทั้งสองแล้ว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวจังหวัดเชียงใหม่ได้สอบถามไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์เทศบาลนครเชียงใหม่ทราบว่าสายสื่อสารดังกล่าวไม่ใช่ของทางเทศบาลนครเชียงใหม่แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นสายของหน่วยงานใด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ชาวเชียงใหม่หลายคนเป็นห่วงว่าหากหน่วยงานที่ดูแลสายโทรศัพท์สายเคเบิลหรือสายไฟฟ้าไม่มีการดูแลจัดเก็บแบบนี้อาจจะสร้าง ความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ต่อผู้ใช้รถใช้ถนนโดยเฉพาะ หากเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ ในระดับประเทศ จะทำให้ชื่อเสียงของจังหวัดเสียหายไปด้วย