72826

“อาคารใหม่ โรงพยาบาลรามาธิบดี” เพิ่มพื้นที่ ให้ความหวัง

เนื่องด้วยอาคารเดิมของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีที่เปิดให้บริการทางการแพทย์และเป็นที่บ่มเพาะบุคลากรการแพทย์ในฐานะโรงเรียนแพทย์ได้ใช้งานมามากกว่า 50 ปีนั้นมีสภาพทรุดโทรมและแออัด โครงสร้างเดิมของอาคารและระบบสาธารณูปโภคเสื่อมสภาพและมีข้อจำกัดด้านการปรับปรุงซ่อมแซม ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการบริการทางการแพทย์ต่อผู้ป่วยนอกที่มาใช้บริการทุกอาคาร  คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงได้ริเริ่ม “โครงการอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรรมโยธี” โดยวางเป้าหมายเน้นการเพิ่มศักยภาพ และคุณภาพของการให้บริการทางการแพทย์เพื่อให้มีมาตรฐานทางการแพทย์ให้พร้อมรองรับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของโรคในปัจจุบัน และในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาโรคที่ซับซ้อนเป็นต้นแบบของการรักษา อาคารแห่งใหม่นี้สามารถรองรับผู้ป่วยได้เต็มศักยภาพของอาคารเดิม แต่มีประสิทธิภาพมากกว่า อีกทั้งให้ความสำคัญกับแนวคิดการทำงานแบบบูรณาการสหสาขาวิชาชีพของทุกภาควิชา และการคิดถึงใจผู้ป่วยว่าต้องการอะไร ตามแนวคิด “เข้าใจเขา เข้าใจเรา เข้าใจทุก(ข์)คน” เพื่อให้บริการทางการแพทย์ที่ดีที่สุด คาดว่าจะเพิ่มการดูแลผู้ป่วยนอกได้เพิ่มขึ้นจากปีละ 2.4 ล้านคน เป็น 2.5 ล้านคน และดูแลผู้ป่วยในได้จากปีละ 44,000 คน เป็น 55,000 คน ขณะเดียวกันเพื่อยกระดับคุณภาพการบริการด้านสาธารณสุขและสุขภาพให้เข้าสู่ระดับสากล แข่งขันได้และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) ด้วยแนวคิดพัฒนาการบริการและนวัตกรรมทางการแพทย์สู่อุตสาหกรรมและบริการแห่งอนาคต รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น จึงเกิดแนวทางการบูรณาการความร่วมมือระหว่างองค์กร “ย่านนวัตกรรมโยธี (Yothi Medical Innovation District) หรือ YMID” เชื่อมโยงสถาบันทางการแพทย์เป็นเครือข่ายเพื่อใช้ทรัพยากรร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีแห่งใหม่ สูง 25 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ส่วนหนึ่งของด้านหน้าองค์การเภสัชกรรม ขนาด 15 ไร่ 2 งาน 24 ตารางวา มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 278,000 ตารางเมตร ซึ่งมากกว่าพื้นที่ใช้สอยอาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เกือบ […]

แพทย์รามาฯ แสดงจุดยืนปิดสุญญากาศ​กัญชาเสรี

24 ก.ค. 65 พทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด อาจารย์แพทย์ และศิษย์เก่าแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 851 รายชื่อ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องให้ปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที  โดยระบุว่า เนื่องจากประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ.2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมาได้กำหนดให้พืชกัญชาไม่เป็นยาเสพติด แต่ไม่มีนโยบายควบคุมการใช้กัญชาอย่างครอบคลุมและปลอดภัยจึงทำให้มีการใช้กัญชาอย่างเสรีในเชิงนันทนาการอย่างแพร่หลาย นำไปสู่การเข้าถึงการใช้กัญชาของเด็กและเยาวชน ซึ่งผิดจากเหตุผลของการออกนโยบายกัญชาเสรีที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องเคยกล่าวอ้างว่าต้องการให้ประชาชนได้เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์มากขึ้น นอกจากนี้การใช้กัญชาอย่างเสรีโดยปราศจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์นั้นมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนมากมายว่าส่งผลกระทบต่อร่างกายและการเจริญเติบโตของสมองในเด็กและวัยรุ่นอย่างมาก สถานการณ์ในปัจจุบันนี้จึงนับว่าเป็นภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุขและสุขภาพของประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแท้จริง แพทย์ประจำบ้าน แพทย์ประจำบ้านต่อยอด อาจารย์แพทย์และศิษย์เก่าแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตามรายชื่อแนบ 851 รายชื่อ ในฐานะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศไทย เล็งเห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปิดใช้กัญชาเสรีโดยไม่มีการกำกับควบคุมอย่างเหมาะสมในขณะนี้ จึงขอแสดงจุดยืนสนับสนุน จดหมายเปิดผนึกฉบับที่สองของเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด ที่ขอให้ออกมาตรการ “ปิดสภาวะกัญชาเสรีในสภาวะสุญญากาศทันที” และ “จัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านเพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายกัญชาแห่งประเทศไทย” และ แคมเปญ “ชะลอกัญชาเสรี ขอออกกฎหมายคุ้มครองไม่ให้เด็กใช้กัญชาออกมาก่อน” บนช่องทาง change.org ( change.org/DelayCannabisLaw ) ของภาคประชาชน ซึ่งมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า […]

รพ.รามาฯ เตือนภัยฉีดฟิลเลอร์ พบเคส “มีอาการตามัว ขาอ่อนแรง”

รพ.รามาฯ เตือนภัยฉีดฟิลเลอร์ พบเคส “มีอาการตามัว ขาอ่อนแรงทันที” หลังฉีด วันที่ 6 ก.ค. 65 เพจเฟซบุ๊ก Ramadermatology โพสต์ข้อความเตือนภัยถึงการฉีดฟิลเลอร์ ระบุว่า ขอนำเสนอเคสที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการฉีด HA filler เคสผู้ป่วยหญิงอายุ 39 ปี ได้รับการฉีด HA filler บริเวณ glabella (แสกหน้า) บริเวณระหว่างคิ้ว และเหนือจมูก ส่วนนี้จะเป็นสันนูนเล็กน้อยเชื่อมระหว่างสันคิ้ว ภายหลังฉีดมีอาการตามัว ปวดตาข้างซ้าย ซึมลง ร่วมกับมีอาการขาอ่อนแรงทันที ในผู้ป่วยรายนี้ ได้รับการรักษาด้วย methylprednisolone ฉีด อย่างไรก็ตามในเคสนี้ไม่ได้ทำการฉีดสลายด้วย hyaluronidase ติดตามภายหลังการรักษา 2 สัปดาห์ พบว่าอาการอ่อนแรงเริ่มดีขึ้น แต่ผู้ป่วยยังมองไม่เห็นเหมือนเดิม สำหรับแพทย์ : สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์คือการมีความรู้เรื่อง anatomy อย่างแม่นยำ ฉีดด้วยความระมัดระวัง Early detection กรณีมี complications สำหรับประชาชน : ตรวจสอบแพทย์ว่าเป็นแพทย์จริงๆ เลือกใช้บริการกับแพทย์ และสถานพยาบาลที่ไว้ใจได้