41859

สตช.ชี้แจง ขั้นตอนออกใบสั่ง 3 รูปแบบ

วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงขั้นตอนการออกใบสั่งและชำระค่าปรับจราจรกับบีบีซีไทยว่า หากตำรวจพบผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นการพบการกระทำความผิดซึ่งหน้า หรือความผิดที่ตรวจพบโดยกล้องตรวจจับต่าง ๆ ตำรวจจะออกใบสั่งด้วยวิธีการ 3 รูปแบบ การเขียนใบสั่งเล่ม (การกระทำผิดแบบซึ่งหน้า) ใบสั่งจากภาพกล้องวงจรปิดส่งไปทางไปรษณีย์ ใบสั่งจากเครื่อง E – TICKET (ใบสั่งออนไลน์)ผู้กระทำผิดจำเป็นจะต้องมาชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด เพราะหากเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบสั่งแต่ละประเภท เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหนังสือแจ้งเตือนการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับภายใน 15 วัน นับแต่วันครบกำหนดชำระค่าปรับในใบสั่งโดยให้ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ได้รับแจ้งเมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับแต่วันส่ง และต้องชำระค่าปรับภายใน 15 วัน นับแต่วันรับที่ได้รับแจ้งกรณีเมื่อพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในใบเตือน และผู้กระทำความผิดยังไม่มาชำระค่าปรับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งข้อมูลไปยังกรมขนส่งทางบก เพื่อดำเนินการตามมาตรการงดออกเครื่องหมายเสียภาษีประจำปี และพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อให้มาชำระค่าปรับ หากไม่มาพบตามหมายเรียก 2 ครั้ง ก็จะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขออนุมัติออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไปทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงช่องทางชำระค่าปรับได้หลายช่องทาง คือ ทางธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ได้ทุกธนาคาร และตู้บุญเติม จุดบริการชำระเงินอื่น ๆ […]

ราชกิจจาฯ ประกาศ ส่ง “ใบสั่งทางไปรษณีย์”

ราชกิจจาฯ ประกาศ ส่ง “ใบสั่งทางไปรษณีย์” หากพ้น 15 วัน ถือว่าได้รับแล้ว ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศ ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุให้ “การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์”ให้พนักงานจราจรส่งใบสั่งลงทะเบียน พร้อมพยานหลักฐานภายใน 30 วัน หากพ้น 15 วัน ถือว่าเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถได้รับใบสั่งแล้ว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 ก.ค. 2565 เป็นต้นไป วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ “ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565” ลงนามโดย พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่มาตรา 14 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้กรณีเจ้าพนักงานจราจรที่ออกใบสั่ง […]

ตร.ยัน!! ไม่มีโทรให้จ่ายค่าปรับ-ขู่ออกหมายจับ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล ชี้ไม่มีการปฏิบัติโดยวิธีการโทรศัพท์ไปทวงให้ชำระค่าปรับ และโอนเงินเพื่อชำระค่าปรับอย่างแน่นอน หลังมีผู้แอบอ้างเป็นตำรวจจราจร โทรศัพท์ถึงประชาชน ทวงเงินค่าปรับใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ  หากมีการกระทำผิดกฎหมายจราจร กรณีถูกกล้องตรวจจับ เจ้าพนักงาน จะนำส่งใบสั่งจราจรตามข้อหาที่กระทำความผิด ไปให้ทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ  ชำระค่าปรับได้หลายช่องทาง เช่น ธนาคาร ตู้บุญเติมไปรษณีย์ทุกสาขา หรือ สามารถเดินทางไปชำระได้ที่สถานีตำรวจทุกสถานี  ผู้ที่ยังไม่ได้ชำระ ค่าปรับภายในเวลาที่กำหนด ตำรวจจะออกใบเตือนส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับเช่นเดียวกัน เพื่อแจ้งเตือนให้ชำระค่าปรับ ไม่มีวิธีการให้เจ้าหน้าที่โทรไปแจ้งให้ชำระค่าปรับและโอนเงินมาให้โดยตรง  หากมีการออกหมายเรียก จะดำเนินการเน้นหนักไปที่ผู้กระทำความผิดซ้ำซาก และเป็นข้อหาที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ส่วนการออกหมายจับ จะดำเนินการหลังจากมีการออกหมายเรียกไม่น้อยกว่า 2 ครั้งและผู้กระทำผิดไม่มาพบพนักงานสอบสวน จากนั้น จึงจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ

ไม่ชำระค่าปรับใบสั่ง มีหมายเรียก 2 ครั้ง ก่อนหมายจับ

ตำรวจแจงบังคับใช้กฎหมายจราจร ไม่ชำระค่าปรับใบสั่ง มีหมายเรียก 2 ครั้ง ก่อนหมายจับ มุ่งสร้างวินัยจราจร-ลดอุบัติเหตุ แก้ทำผิดซ้ำซาก‼ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงเพิ่มเติมแนวทางบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายจราจร และไม่มาชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด ย้ำว่า มุ่งหวังลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุทางถนน และปัญหาการจราจร ที่มีต้นเหตุมาจากการไม่เคารพกฎหมายจราจร และความไม่มีวินัยจราจรของผู้ใช้รถ ที่กระทำผิดกฎหมายจราจรซ้ำซาก “การบังคับใช้กฎหมาย ในขั้นตอนดำเนินคดี จนนำไปสู่การออกหมายเรียก และขอศาลอนุมัติออกหมายนั้น จะเน้นไปที่ผู้มีเจตนาทำผิดซ้ำซาก และเป็นข้อหาที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ หลังออกใบสั่ง และส่งใบแจ้งเตือนให้มาชำระค่าปรับ จนครบตามกำหนดเวลาแล้ว เจ้าพนักงานจราจร ถึงจะออกหมายเรียก อย่างน้อย 2 ครั้ง หากไม่มาพบโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานว่า มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี จะออกหมายจับต่อไป” รอง ผบช.น. ระบุ ทั้งนี้ หากสงสัยว่า มีใบสั่งค้างชำระหรือไม่สามารถตรวจสอบได้ผ่านช่องทางใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน https://ptm.police.go.th/eTicket/