“อนุทิน” ติดโควิด หลังกลับจากภารกิจต่างประเทศ

 ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมจัดประชุมและนิทรรศการ (ICEB) และผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี ครั้งที่ 170 ของสำนักงานองค์การนิทรรศการนานาชาติ (BIE 170th General Assembly) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2565 เพื่อร่วมนำเสนอความพร้อมของประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพการจัดงานเอ็กซ์โปรวาระพิเศษ ที่จังหวัดภูเก็ตในปี 2028 (Specialised Expo) เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเดินทางต่อพร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหาร UNAIDS ครั้งที่ 50 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 21 -24 มิถุนายน 2565 ต่อ

           ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2565 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีอาการปวดเมื่อย กล้ามเนื้อและระคายคอ ผลตรวจ ATK เป็นบวก ขณะนี้แพทย์สั่งแยกตัวเพื่อความปลอดภัย 1 สัปดาห์

             วันนี้ (28 มิถุนายน 2565) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หัวหน้าคณะผู้แทนไทยเดินทางกลับจากปฏิบัติราชการต่างประเทศมาถึงประเทศไทย มีอาการเล็กน้อย คือ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและระคายคอ ได้ตรวจ ATK พบผลบวก จากการสอบสวนโรคคาดว่า ได้รับเชื้อระหว่างการไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ เพราะต้องมีการพบปะ พูดคุย และสัมผัสมือกับผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามเกณฑ์ที่แนะนำก่อนการเดินทาง ทำให้ไม่มีอาการป่วย แพทย์สั่งแยกตัวเพื่อความปลอดภัย 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล สำหรับผู้ร่วมเดินทางหากเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา งดไปในพื้นที่สาธารณะที่มีผู้คนจำนวนมากและสังเกตอาการป่วย หากเริ่มมีอาการทางเดินหายใจให้ตรวจ ATK และดูแลสุขภาพตามคำแนะนำของแพทย์

             ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวจะไม่กระทบต่อนโยบายรัฐบาลที่กำลังเปิดประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากประชาชนในประเทศฉีดวัคซีนแล้วประมาณ ร้อยละ 80 มีระบบการเฝ้าระวังป้องกัน ทั้งในสถานพยาบาลและพื้นที่เสี่ยง แนะนำการสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในที่ผู้คนแออัดหรือเมื่อทำกิจกรรมเสี่ยง ทั้งนี้ ระบบการแพทย์และสาธารณสุขรองรับได้ปกติ เพราะมีเตียงพอ หมอพอ และยาพอ และเน้นย้ำให้ประชาชนเข้ารับวัคซีนป้องกันโควิด- 19 ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 % แต่ป้องกันการป่วยที่มีอาการหนักได้ 

ร่วมแสดงความคิดเห็น