ครูแดนปรี่เข้ากราบเท้าแม่ หลังเจอหน้ากันครั้งแรก ยืนยันถูกหลอกไปเมืองว้า ปฏิเสธไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 9 ส.ค. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวครูแดนหรือนายระม้าย โมริพันธ์ ผู้กำกับคิวบู๊และครูสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับดารานักแสดงชาวไทย ที่ถูกกำลังพลกองทัพสหรัฐว้าหรือว้าแดง พาตัวไปใช้แรงงานที่เมืองโต๋น รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 150 กม. และได้มีการประสานเพื่อขอให้ช่วยปล่อยตัวกลับประเทศเมื่อประมาณเวลา 10.00 น. ของวันที่ 9 ส.ค. ผ่านมาตามเส้นทางจุดผ่านแดนถาวรไทย-เมียนมา สะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
หลังจากถูกส่งตัวข้ามมาฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้พาตัวครูแดนไปทำการสอบสวนที่ ค่ายเม็งรายมหาราช มทบ.37 และพาตัวไปทำบัตรประชาชนที่ที่ทำการอำเภอเมืองเชียงราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวครูแดน มาที่ ภ.จว.เชียงราย เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติม
ทันที่ที่ลงจากรถ ครูแดนได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่า ฝากขอบพระคุณผู้ใหญ่ทางประเทศไทยที่ช่วยเหลือให้ตนมีชีวิตรอดกลับมา และขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งทางว้าและเมียนมา ที่ให้ความคุ้มครองความปลอดภัยและดูแลตนอย่างดี
หลังจากพูดกับผู้สื่อข่าวแล้วก็ได้เข้าไปในกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และได้พบการนางคำ โมริพันธ์ มารดาของครูแดนเป็นครั้งแรก หลังจากทั้งคู่พบหน้ากัน ครูแดนได้ปรี่เข้าไปกราบเท้าแม่ โดยผู้เป็นแม่ก็โอบกอดลูกชายและร่ำไห้ตลอดเวลา และพูดขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่พาลูกชายกลับมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวครูแดนไปทำการสอบสวนเพิ่มเติม
นางคำ โมริพันธ์ แม่ของครูแดน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ลูกมีชีวิตรอดกลับมา เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หลังต้องทนลำบากอยู่ฝั่งนั้นเกือบค่อนปีแล้ว ขอของคุณ ผบ.ตร. บิ๊กโจ๊ก และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ช่วยพาตัวลูกชายกลับมา โดยพรุ่งนี้จะเข้าไปกราบขอบคุณ ผบ.ตร. เป็นอันดับแรก และจะทยอยเข้าไปของคุณทุกภาคส่วนในภายหลัง และหากเสร็จสิ้นเรื่องทุกอย่างแล้วก็จะพาลูกชายไปกราบหลวงปู่โชค ที่ได้ทักตนมาตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกว่าลูกชายยังมีชีวิตและจะได้กลับมาบ้านอย่างแน่นอน
“หลังจากนี้ลูกชายจะทำอะไรต่อก็ต้องแล้วแต่ลูกชาย เพราะเขารักในอาชีพนี้มาก ตอนนี้ก็เหมือนได้เกิดใหม่แล้ว สิ่งไหนดีๆก็อยากให้คิดทำเอาเอง เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาก็สอนให้รู้แล้วว่าเป็นอย่างไร อยากให้ลูกคิดดีทำดี” แม่ครูแดน กล่าว
หลังจากให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็ได้พาครูแดนไปตรวจร่างกายที่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ และระหว่างที่กลับมาที่ ภ.จว.เชียงราย ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ได้เดินทางไปเมืองว้า
โดยครูแดนให้ข้อมูลว่า การที่ตนเดินทางข้ามไปเมียนมา มีการชักชวนผ่านเพื่อนในฝั่งไทยที่ชื่อ “มานนท์” ให้ไปถ่ายทำหนังในฝั่งเมียนมา ตนจึงได้นั่งเครื่องมาจากขอนแก่นมาลงที่ดอนเมือง และต่อเครื่องบินมาลงที่สนามบินแม่ฟ้าหลวง โดยจะมีคนมารับที่สนามบินพาไปที่บ้านผาฮี้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อถึงผาฮี้จะมีคนขับมอเตอร์ไซค์พาขี่ผ่านสวนกาแฟลัดเลาะไปจนถึงท่าขี้เหล็ก เมื่อไปถึงเมียนมาก็ได้ไปพบกับคนชื่อชัย แรกๆก็ดูแลตนดี พากินพาเที่ยว ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจก็ได้ติดตามเขาเข้าไปลึกในเมืองพม่าเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็อยู่ในเขตว้าแล้ว ถอนตัวก็ไม่ได้ หลังไปอยู่ที่เมืองโต๋น คนทางฝั่งนั้นรู้ว่าตนโดนหลอกไปเขาก็เอ็นดูตน ดูแลอย่างดี ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ใส่ มีข้าวกิน 3 มื้อ ส่วนกับข้าวก็หาทำกินกันเอง
ตนยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะผ่านการตรวจสอบทั้งทางฝั่งเมียนมา ว้า และฝั่งไทยหมดแล้ว ตนยืนยันว่าตนถูกหลอกไป ถ้าไม่เชื่อก็เอาคนที่หลอกตนไปมานั่งถามตอบกันก็ได้ ถ้าตนโกหกก็ให้ยิงตนทิ้งได้เลย
“สำหรับประเด็นข่าวที่ว่า ตนเดินทางไปบำบัดยาที่เมืองว้า ก็เป็นข้อหาที่เขาพยายามยัดเยียดให้ตน เพราะเมื่อเขาเอาเราไปเป็นตัวตายตัวแทนทางฝั่งเขาแล้ว เขาก้ต้องมีข้อหาในการจับตัวเราไป ทีแรกเขาจะตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมือง แต่ไปๆมาๆกลับตั้งข้อหาเสพยาเลยพาตัวไปบำบัด คนที่ไปอยู่ที่นั่นจะโทษไม่ค่อยหนัก ถ้าโทษหนักจะถูกพาไปอยู่อีกที่หนึ่ง ขึ้นอยู่กับเจตนาของการติดยา บางคนตั้งใจเสพเอง บางคนก็มีเหตุให้ติดยา ก็จะอยู่ 6 เดือนบ้าง 1 ปีบ้าง หรือ 3 ปีก็มี” ครูแดน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรถึงคนชื่อชัยที่หลอกไปบ้างหรือเปล่า ครูแดนก็บอกว่า ให้เป็นไปตามกรรม ใครทำอะไรไว้ก็จะได้รับผลกรรมในที่สุด ฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามที่เขาเคยทำความผิดไว้
หลังจากให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาตัวครูแดนไปที่บ้านผาฮี้ ต.แม่สาย อ.แม่สาย เพื่อให้ไปชี้จุดที่ลักลอบผ่านแดน และจากนั้นจะเดินทางที่ สภ.แม่สาย เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ส่วนวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค. 65) จะพาตัวครูแดนและครอบครัวเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อไปพบกับ ผบ.ตร. โดยจะมีการแถลงข่าวขึ้นอีกครั้งในช่วงบ่าย
ร่วมแสดงความคิดเห็น