เจ้าหน้าที่วิสามัญพ่อค้ายาบ้ารายย่อย บนดอยตับเต่าใกล้กับภูชี้ฟ้า ดับ 1 ราย หลบหนีไปได้ 1 ราย
เมื่อเวลาประมาณ 17.20 น. วันที่ 9 ส.ค. 65 ร.ต.อ.เชียน กันใจยา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เทิง จ.เชียงราย รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกวิสามัญเสียชีวิต ในสวนยางพาราพื้นที่บ้านแผ่นดินทอง ม.12 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย จึงแจ้งผู้บังคับบัญชาก่อนออกตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์นิติเวช รพ.เทิง ทหารพราน ทพ.3105 ฝ่ายปกครอง สมาคมแสงธรรมสาธารณกุศลจุดอำเภอเทิง
ที่เกิดเหตุเป็นสวนยางพาราท้ายหมู่บ้าน ห่างจากโรงเรียนบ้านแผ่นดินทอง ประมาณ 500 เมตร พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อภายหลังคือ นายนพดล อายุ 46 ปี บ้านแผ่นดินทอง ม.12 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย สวมเสื้อแขนยาวสีแดงกางเกงวอร์มสีดำแถบแดง สวมรองเท้าบู้ทยาวถึงเข่า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ลูกกระสุนถูกเข้าที่บริเวณศรีษะและหน้าอกซ้าย รวม 2 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่แพทย์ชันสูตรเบื้องต้น ก่อนให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตส่งนิติเวช รพ.เทิง
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายมีประวัติพัวพันกับการเสพและจำหน่ายยาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเคยมาติดตามจับกุมหลายครั้ง แต่ด้วยความที่เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ เมื่อเกิดมีการปะทะมือเปล่ากับเจ้าหน้าที่ก็จะสามารถสลัดหลุดและอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ทุกครั้ง และได้เคยหลบหนีข้ามไปอยู่ฝั่ง สปป.ลาว มานานนับปี แต่ได้ลักลอบกลับเข้ามาฝั่งไทยเมื่อไหร่ไม่แน่ชัด
ผู้ตายเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด จำนวน 2 คดี ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดเทิง ที่ จ.6/2555 ลงวันที่ 26 ม.ค.55 ความผิดฐาน มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย และหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ที่ จ.54/2557 ลงวันที่ 3 ต.ค.2557 โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีประวัติครอบครองอาวุธสงคราม (ปืนอาก้า) มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ให้กับกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ยังไม่ถูกจับดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ แจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อทราบ แล้ววางแผนจับกุมผู้ต้องหารายนี้โดยวิธีการล่อซื้อยาเสพติด
ภายใต้การอำนวยการโดย พ.ต.อ.ณัฏฐวุฒิ ยุววรรณ ผกก.สภ.เทิง, พ.ต.ท.ภิรมย์ สุทา รอง ผกก.สส. สั่งการให้ พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ศรีโท สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.จรัญภณ กำจัดภัยพาล รอง สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.เสรี ธิโนชัย รอง สว.สสฯ,ร.ต.ท.เกษม ธิสอน รอง สว.(ป.)ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จำนวน 10 นาย
ทำการวางแผนล่อซื้อยาบ้าจากผู้ต้องหา จำนวน 200 เม็ด ในราคา 2,000 บาท โดยนัดส่งมอบกันที่บริเวณสวนยางพาราข้างทางซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน ขณะส่งมอบของกลางและเงินล่อซื้อ เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเพื่อขอจับกุม แต่ผู้ร่วมขบวนการของผู้ต้องหา อายุประมาณ 40-45 ปี ที่ซุ่มอยู่ที่ท้ายสวนยางพาราได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้น 1 นัด และวิ่งหลบหนีไปด้านท้ายสวน หลบหนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ ด้านนายนพดลที่ได้ยินเสียงปืนของผู้ร่วมขบวนการจึงชักอาวุธปืนพกสั้นยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงยิงตอบโต้ กระสุนไปโดนจุดสำคัญของผู้ต้องหา เสียชีวิตคาที่
จากการค้นตัวผู้เสียชีวิต พบของกลางยาบ้าประทับอักษร wy บรรจุถุงพลาสติกทึบแสงสีน้ำเงิน ชนิดรู้ปิด-เปิด มียาบ้าเม็ดสีส้มแดง 198 เม็ด และเม็ดสีเขียว 2 เม็ด รวม 200 เม็ด ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกในพันด้วยเทปกาวสีดำ ซึ่งเป็นห่อที่ผู้เสียชีวิตนำมาส่งมอบให้ผู้ล่อซื้อ และยังพบยาบ้าจำนวน 322 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าแบบสะพายสีดำที่นายนพดลสะพายขณะเกิดเหตุ รวมยาบ้าทั้งหมด 522 เม็ด โดยพบอาวุธปืนสั้น (ลูกซองสั้น) แบบไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืนลูกซอง ขนาด เบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก (พบอยู่ในลำกล้อง) ตกอยู่บริเวณข้างลำตัวของนายนพดล อาวุธปืนยาว (ปืนแก๊ป) แบบไทยประดิษฐ์ ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พบตกอยู่บริเวณในสวนยางพารา ห่างจากนายนพดล ประมาณ 3 เมตร กระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าแบบสะพาย สีดำ ที่นายนพดล สะพายอยู่ขณะเกิดเหตุ และกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 3 นัด พบซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าแบบสะพาย สีดำ ที่นายนพดลฯ สะพายอยู่ขณะเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยแจ้งตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย อันมีลักษณะเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน อันเป็นความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำของกลาง นำส่ง พงส.สภ.เทิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น