โดย คุณต้น ธรรมรัตน์ หลำพรม เจ้าของร้านกาแฟ Mix Kaffee ผู้ที่เป็นคนรังสรรค์กาแฟแก้วนี้ขึ้นมาได้ให้สัมภาษณ์กับทาง “เชียงใหม่นิวส์” ว่า ตนอยากทำกาแฟที่พิเศษแก้วนี้ขึ้นมาให้กับนายกฯโดยเฉพาะเป็นกาแฟอเมริกาโน่เย็นที่ไม่ใส่นม เพราะได้ทราบมาว่าท่านนายกฯทำงานหนักมาก ตนเลยอยากให้ท่านได้ดื่มกาแฟที่พิเศษที่สุด โดยทางคุณต้นได้ดีไซน์เมล็ดกาแฟชนิดนี้ ( Lica Estate กัลยานิวัฒนา) ขึ้นมา เพื่องานนี้โดยเฉพาะและด้วยกระบวนการทำที่ซับซ้อนจึงทำให้มีราคาที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากทาง คุณต้น ได้เป็นคน Made Typ เมล็ดกาแฟชนิดนี้จากฟาร์มโดยตรงซึ่งเป็นฟาร์มที่ได้แชมป์ COE อันดับ 6 ของประเทศ โดยการเอาเมล็ดกาแฟของทางฟาร์มไป Process ใหม่ และใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบในการหมักก่อนจะนำมาตากแห้งและเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการคั่ว ดังนั้นจึงทำให้รสชาติออกมาเหมือนกับน้ำผลไม้ และจะได้กลิ่นของการหมักที่ชัดเจน
และยังได้เล่าอีกว่าวันนั้นท่านนายกฯได้มาซื้อกาแฟของตนเพิ่มอีก 2 แก้ว รวมเป็นทั้งหมด 3 แก้ว และหลังจากวันนั้นก็มีคนให้ความสนใจกับกาแฟของตนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคนทั่วไปอยากทราบว่ากาแฟที่มีราคาถึง 1,000 บาท นั้นมีรสชาติเป็นอย่างไร แต่ไม่กล้าสู้เรื่องของราคา ตนจึงบอกว่าที่ร้านมีกาแฟตั้งแต่ราคา 170 บาทไปจนถึงราคา 4,000 บาท
โดยคุณต้นได้นำเอาวัฒนธรรมการชงกาแฟของญี่ปุ่น Kissaten ที่ได้เรียนรู้มาจากคุณยายของภรรยา ที่สืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่นมากกว่าร้อยปี มาเปิดร้านที่เชียงใหม่ โดยเล่าว่า “ ผมมีภรรยาเป็นญี่ปุ่น แล้วได้ไปเจอกับที่บ้านของภรรยาเขาก็ชงกาแฟให้กิน แต่ผมไม่ใช่คนกินกาแฟ ใช้คำว่าไม่กินเลยครับ ไปกินครั้งแรกเขาใช้น้ำราดบนกาแฟที่เราเคยเห็น Pullover นั้นแหละครับเรากินแล้วรู้สึกกาแฟญี่ปุ่นมันหอมมันไม่เข้มครับกินแล้วเหมือนกินน้ำผลไม้ ถ้าเอากาแฟแบบนี้ไปขายที่ไทยคงจะรวย” จากนั้นทางบ้านของภรรยา ก็เริ่มสอนความรู้ของ Kissaten ให้กับคุณต้นโดยเป็นการทำกาแฟแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ไม่ใช้เครื่องเลย และตอนนี้การชงกาแฟแบบนี้ก็เริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆเนื่องจากผู้ที่มีความรู้ในการทำกาแฟแบบ Kissaten มีอายุที่มาขึ้นเรื่อยๆและไม่มีผู้สืบทอดต่อ โดยคุณต้นได้เล่าอีกว่า “พอเราทำเราก็เริ่มเห็นว่ามันกลายเป็น Traditional แล้วครับ เขาไม่ได้อยากให้เราเปิดร้านกาแฟแล้ว เขาอยากให้เราเหมือนกับสืบทอด วัฒนธรรมนี้ให้มันอยู่ต่อ”
และยังได้บอกเล่าเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจกาแฟในเชียงใหม่อีกว่า ธุรกิจกาแฟในเชียงใหม่แข็งแรงมากแม้จะมีธุรกิจกาแฟจะมีการแข่งขันที่สูง แต่สำหรับธุรกิจกาแฟในเชียงใหม่ จะต้องมีไอเดียในการนำเสนอหรือสไตล์ที่แตกต่างออกไป สร้างความแตกต่างให้กับกาแฟของเรา โดยบอกว่า “ถ้าทำแบบนี้ในอนาคตกาแฟเชียงใหม่ก็จะสามารถพัฒนาไปได้เรื่อยๆ ทุกคนเหมือนไม่ได้แข่งกันเลยครับ ต่อให้มีร้านเยอะแค่ไหนเราก็ยังเป็นพี่น้องกันอยู่ เราก็ยังสนุกกันอยู่ แล้วผมว่าคนกินก็จะรู้สึกว่า เขาได้กินกาแฟที่ มีความหลากหลายแล้วก็ได้ไอเดียในการทานด้วยครับ”
ร่วมแสดงความคิดเห็น