รวบแล้ว แก๊งมือบอน พ่นสีทับผลงาน street art ย่านช้างม่อย

รวบแล้ว แก๊งมือบอน พ่นสีทับผลงาน street art ย่านช้างม่อย อ้างว่าสีที่พ่นทับไปเป็นเพราะผลงานของตนเองมีคุณค่าและสวยงามกว่าภาพเดิม

จากกรณีสื่อโซเชียล แชร์เรื่องราวเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นมือบอน ใช้สีสเปรย์พ่นสีทับผลงาน street art ย่านช้างม่อย ซึ่งจุดดังกล่าว เป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยว ที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องดังกล่าว และต่อมา ทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 24 พ.ค.67 ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยอำนวยการของ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ , พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.ท.สถิตชัย นิตยวัน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่, พ.ต.ต.พูนศักดิ์ พักตร์ผ่องศรี สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ และพ.ต.ต.วุฒิไกร ทาหอม สว.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้สั่งการชุดสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ลงพื่นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและ บริเวณพื้นที่ใกล้เคียง พบว่าในวันที่ 21 พ.ค.67 เวลาประมาณ 03.00 น. ได้มีวัยรุ่นชาย 2 คน สวมหมวกและปิดบังใบหน้า ได้ถือกระป๋องสีสเปย์เข้ามา พ่นทับผลงานสตีทอาร์ตดังกล่าวและหลบหนีไป

และจากการสืบสวนและติดตามตัวคนร้าย จนพบว่าชาย 2 คน ผู้ก่อเหตุคือ นายวีรชน (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และ นายภาสกร (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาว ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวผู้ก่อเหตุทั้งสอง เพื่อมาทำประวัติ ชี้จุดที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

และ จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองได้รับว่า เป็นคนพ่นสีสเปรย์ลงในภาพผลงานสตรีทอาร์ตคิงคองชื่อดังในย่านช้างม่อยจริง โดยมีแรงจูงใจในการพ่นสีทับภาพดังกล่าว คือเชื่อว่าผลงานของตนเองมีคุณค่าและสวยกว่าภาพเดิม โดยภาพที่พ่นลงไปทับงานอาร์ตเดิม ในทางภาษากราฟฟิตตี้ เรียกว่า “บอมบ์งาน” หรือ คือการพ่นสีหรือทาสี ภาพงานของตนเองทับงานเก้าพริตตี้ของคนอื่น เพื่อให้เกิดผลงานใหม่ พี่คนอื่นสามารถมาพ่นสีหรือทาสีทับหรือเขียนทับได้เรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามเบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ ทำให้เสียทรัพย์” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358 ต้องมีโทษจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น