หลังเป็นกระแสในโลกโซเซียล จากกรณีกล้องจับ-ตรวจ ความเร็วที่มีอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 24 กล้อง บนพื้นที่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์หมายเลข 11 เชียงใหม่-ลำปาง พื้นที่เขต จ.ลำพูน จ.ลำปาง ทางขึ้นและลงดอยขุนตาล
พ.ต.ท.เกียรติพร สวัสดิเทพ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองกำกับการ 5 ลำปาง ซึ่งเส้นทางดังกล่าวอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เปิดเผยว่า กล้องจับความเร็วและจาก App ต่างๆ ที่มีตัวเลขกำกับ ปักหมุดบอกจำกัดความเร็วตามจุดต่างๆ ช่วงขาขึ้นและขาลงดอยขุนตาล ที่ติดอยู่บริเวณถนนเส้นทาง จ.ลำพูน จ.ลำปางนั้น ซึ่งแท้จริงแล้วถนนเส้นทางดังกล่าวช่วงกิโลเมตรที่ 480-510 มีการจับความเร็ว ขาไป เพียง 3 กล้องโดยลักษณะกล้องที่มีแขนยาวยื่นมาบนถนน และขากลับออกมาอีก 3 กล้องรวมทั้งหมด 6 กล้องเท่านั้น
กล้องจับความเร็วทั้งหมดนี้ จะจับความเร็วเพียง 1 ครั้งเท่านั้นต่อวัน ซึ่งหากใครขับเกินก็จะมีการส่งใบสั่งไปเพียง 1 ใบเท่านั้น ซึ่งส่วนกล้องอีกที่เหลือ 18 ตัวก็จะเป็นกล้อง AI จับสัญญาณรถจอดรถ-เสียรถน้ำมันหมด ซึ่งหากจอดเกิน 45 วินาทีแล้วจะส่งสัญญาณเตือน ไปยังศูนย์ควบคุมความเร็วและ Alarm เข้าโทรศัพท์มือถือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรอยู่ โดยส่วนใหญ่ หากมีรถเสียและรถน้ำมันหมด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงก็จะวิ่งคอยไปบริการ ตรวจสอบจุดความเร็วต่างๆและตรวจสอบรถน้ำมันหมดในพื้นที่
ล่าสุด 22 มิถุนายน 2567 กล้องเริ่มบันทึกความเร็ว แล้วเตือนประชาชน ให้ใช้ความระมัดระวังในการขับรถ ทาง โค้ง ทางขึ้นเขา ดอยขุนตาล ระยะทางบนดอยประมาณ 30 กิโลเมตร ที่เป็นจุดเสี่ยง และจุดอันตราย
ร่วมแสดงความคิดเห็น