อัยการเปิด กม. 6 ฉบับ ระเบียบใหม่คนขับรถควรรู้

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ดร.ธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการในหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานกระบวนการยุติธรรม สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ให้ความเห็นข้อกฎหมายผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และสาระสำคัญของระเบียบการตัดคะแนนตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก โดยระบุว่า

ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 142/1 วรรคสอง และมาตรา 142/4 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

ระเบียบนี้มีสาระสำคัญที่น่าสนใจในการกำหนดหลักเกณฑ์การบันทึกคะแนน การตัดคะแนน และการคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ ดังนี้

1. ให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่แต่ละรายมีคะแนนความประพฤติในการขับรถเพื่อใช้ในการบันทึกคะแนนตามระเบียบนี้ จำนวนคนละไม่เกิน 12 คะแนน ไม่ว่าผู้นั้นจะได้รับใบอนุญาตขับขี่กี่ชนิดก็ตาม และต้องจัดให้มีช่องทางให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบคะแนนความประพฤติในการขับรถของตนได้

2. ในการตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดให้ตัดคะแนน

กับผู้ขับขี่ ดังต่อไปนี้

ก. กรณีรู้ตัวผู้ขับขี่ ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ที่กระทำความผิด ให้ตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ขับขี่นั้น

ข. กรณีไม่พบหรือไม่ทราบตัวผู้ขับขี่และเป็นใบสั่งที่ติด ผูก หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถหรือส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ ให้ตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถของบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ตามชื่อที่ปรากฏในหลักฐานทางทะเบียนเป็นผู้ครอบครองรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ หรือเป็นผู้ประกอบการขนส่งตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก

3. การตัดคะแนน

3.1 ตัดคะแนน ครั้งละ 1 คะแนน เช่น ขับรถไม่หยุดให้คนเดินข้ามทาง ณ ทางข้าม ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ขับรถในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยไม่ใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา ขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อค ขับขี่รถยนต์โดยไม่รัดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่จัดให้คนโดยสารรถยนต์รัดเข็มขัดนิรภัย ได้รับใบสั่งแล้วไม่ชำระค่าปรับโดยไม่มีเหตุอันสมควร

3.2 ตัดคะแนน ครั้งละ 2 คะแนน เช่น ขับรถโดยไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจรไฟสีแดงหรือเครื่องหมายจราจรสีแดงที่มีคำว่า “หยุด” ขับรถย้อนศร ขับรถในระหว่างที่ใบอนุญาตขับขี่ถูกสั่งยึด หรือถูกสั่งพักใช้

3.3 ตัดคะแนน ครั้งละ 3 คะแนน เช่น ขับรถในขณะหย่อนความสามารถที่จะขับ ขับชนแล้วหนี ขับรถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถหรือไม่อาจเห็นทางด้านหน้าหรือด้านหลัง ด้านใดด้านหนึ่งหรือทั้งสองด้านได้พอแก่ความปลอดภัย

3.4 ตัดคะแนนครั้งละ 4 คะแนน เช่น ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ขับรถในขณะเสพยาเสพติดให้โทษหรือเสพวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น แข่งรถโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือศูนย์คะแนนจะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทุกชนิดคราวละ 90 วัน ตามมาตรา 142/1 วรรคสาม

5. การคืนคะแนน

5.1 ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจะได้รับคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถตามจำนวนที่ถูกตัดในแต่ละครั้งในวันถัดจากวันครบกำหนด 1 ปีนับแต่วันที่ถูกตัดคะแนนครั้งนั้น

5.2 ผู้ซึ่งถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ เมื่อพ้นกำหนดการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่แล้ว ให้ได้รับคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถที่ถูกตัด ในวันถัดจากวันครบกำหนดการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ จำนวน 8 คะแนน สำหรับคะแนนที่เหลืออีก 4 คะแนนนั้น ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่จะได้รับคืนก็ต่อเมื่อไม่ได้ถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถอีกเลยในรอบระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่ครบกำหนดการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่

ระเบียบที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2565 นอกจากจะมีระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ พ.ศ. 2565 ตามที่สื่อมวลชนสำนักต่าง ๆ นำไปเผยแพร่แล้ว ยังมีระเบียบอื่น ๆ อีก 6 ฉบับ ซึ่งมีความสำคัญและความน่าสนใจที่ผู้ขับขี่รถควรต้องรู้ไว้ด้วย ดังนี้

1. ระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับระบบการบันทึกคะแนนความประพฤติในการขับรถของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/1 วรรคสอง และมาตรา 142/4 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

ระเบียบนี้ถือเป็นระเบียบสำคัญ เนื่องจากเป็นกฎหมายลำดับรองหรือกฎหมายลูกซึ่งรองรับการบังคับใช้มาตรา 142/1 ในการตัดคะแนนความประพฤติ โดยแต่เดิมมาแม้จะมีการแก้ไข พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2562 แต่ก็ยังไม่สามารถบังคับใช้มาตรา 142/1 เพื่อตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถได้ เนื่องจากยังไม่มีการออกกฎหมายลูกมารองรับ

ระเบียบนี้กำหนดหลักเกณฑ์ในการบันทึกคะแนน การตัดคะแนน และการคืนคะแนนความประพฤติในการขับรถ โดยเริ่มแรกผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่แต่ละรายมีคะแนนความประพฤติในการขับรถเพื่อใช้ในการบันทึกคะแนนตามระเบียบนี้ จำนวนคนละไม่เกิน 12 คะแนน และการตัดคะแนน มีตั้งแต่ตัดคะแนนครั้งละ 1 คะแนน ครั้งละ 2 คะแนน ครั้งละ 3 คะแนน และครั้งละ 4 คะแนน ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ซึ่งถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถจนเหลือศูนย์คะแนนจะถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทุกชนิดคราวละ 90 วัน สำหรับสาระสำคัญของระเบียบนี้ เนื่องจากมีรายละเอียดมากจึงจะได้กล่าวถึงแยกต่างหากในครั้งต่อไป

2. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/1 วรรคสาม และมาตรา 142/2 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ

(1) ในกรณีที่ผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ จนเหลือศูนย์คะแนน ให้ดำเนินการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ทุกประเภทของผู้นั้นคราวละ 90 วัน

(2) คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ให้ทำเป็นหนังสือและให้แจ้งให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทราบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

(3) ให้นับวันเริ่มต้นของคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เมื่อพ้นกำหนด 30 วัน นับจากวันที่คะแนนของผู้ขับขี่นั้นเป็นศูนย์คะแนน

3. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/5 วรรคสอง และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีอำนาจสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้กระทำความผิดที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ ครั้งละไม่เกิน 90 วัน โดยให้พิจารณาถึงความร้ายแรงตามพฤติการณ์แห่งกรณี

(1) มีเหตุหรือก่อให้เกิดหรือน่าจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสาธารณะ หรือ

(2) มีลักษณะเป็นภัยแก่ประชาชนอย่างร้ายแรง หรือ

(3) มีพฤติการณ์หลบหนีเมื่อตนเองก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น

การแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ให้ทำเป็นหนังสือ โดยมีรายละเอียดตามที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้ และให้แจ้งให้นายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทราบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์

4. ระเบียบว่าด้วยการยึดใบอนุญาตขับขี่ การบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 140/2 และใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2566)

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ

(1) ในกรณีที่เจ้าพนักงานจราจรได้ว่ากล่าวตักเตือนหรือออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ตามมาตรา 140 แล้ว หากเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่า ผู้นั้นอยู่ในสภาพที่หากให้ขับรถต่อไปอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น ให้เจ้าพนักงานจราจรเรียกดูใบอนุญาตขับขี่ หากผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัว ให้เจ้าพนักงานจราจรที่มียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไป มีอำนาจยึดใบอนุญาตขับขี่ หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อไม่ให้ผู้นั้นขับรถต่อไปอีก

แต่หากไม่สามารถยึดใบอนุญาตขับขี่หรือบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ได้ ให้เจ้าพนักงานจราจรที่มียศตั้งแต่ร้อยตำรวจตรีขึ้นไปมีอำนาจระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราวเพื่อมิให้ผู้นั้นขับรถ

(2) ให้เจ้าพนักงานจราจรคืนใบอนุญาตขับขี่ หรือยกเลิกการบันทึกการยึดใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ขับขี่อยู่ในสภาพที่สามารถขับรถต่อไปได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น

5. ระเบียบว่าด้วยการประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับประวัติและการกระทำความผิดตามกฎหมายของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบก โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 4/1 และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ

(1) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกจัดให้มีข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ประกอบด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและการกระทำความผิดตามกฎหมายของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องและจัดให้มีการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้มีการประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกัน

(2) ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก ประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รวบรวมจัดเก็บไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในฐานข้อมูลของแต่ละฝ่าย เพื่อควบคุมและบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ของตน

(3) ให้กรมการขนส่งทางบกประสานข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนของข้อมูลประวัติอาชญากรรมเท่าที่จำเป็นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ แต่ต้องได้รับความยินยอมให้เข้าถึงข้อมูลจากบุคคลเจ้าของประวัติก่อน เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตขับขี่ ผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตขับขี่ หรือผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่

6. ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการอุทธรณ์คำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ พ.ศ. 2565 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/8 และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป

สาระสำคัญของระเบียบนี้ คือ

(1) ผู้ได้รับคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบกฯ มาตรา 142/1 หรือมาตรา 142/5 มีสิทธิอุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง

(2) การอุทธรณ์ต้องทำเป็นหนังสือโดยระบุข้อโต้แย้งประกอบข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายและเหตุผลในการอุทธรณ์ และลงลายมือชื่อและที่อยู่ของผู้อุทธรณ์

(3) ให้ผู้อุทธรณ์ยื่นหนังสืออุทธรณ์ด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อผู้ที่มีอำนาจพิจารณาอุทธรณ์ โดยตรงภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่

(4) ให้พิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ หากพิจารณาไม่แล้วเสร็จในกำหนดให้ถือว่าคำอุทธรณ์มีผลและให้ถือว่าคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่สิ้นสุด

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0001.PDF

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0004.PDF

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0007.PDF

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0014.PDF

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0015.PDF

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0018.PDF

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/…/2565/E/166/T_0020.PDF

ร่วมแสดงความคิดเห็น