ตำนานขึดล้านนา – ว่าด้วยเรื่องถมน้ำบ่อ

ผู้ใดถมน้ำบ่อมักตกขึดได้รับผลกรรมตามหนักเบาขึ้นอยู่กับการกระทำแต่ละกรรม

ตำราขึดล้านนามีบอกไว้ว่า ” ขึดถมน้ำบ่อ(บ่อน้ำ) ” ในชีวิตประจำวันสมัยก่อนโน้น แต่ละหมู่บ้านจะช่วยกันขุดบ่อน้ำไว้เป็นสมบัติสาธารณะ ผู้คนในหมู่บ้านมีสิทธิ์ในการใช้ การตักน้ำไปใช้ในแต่ละครอบครัว ยามเย็นบรรดาสาวๆต่างพากันมานั่งอาบน้ำ ขัดสีฉวีวรรณ นุ่งกระโจมอกรอบๆบ่อน้ำหลวงของหมู่บ้าน ดังนั้นเรามักจะได้ยินคำว่า ” น้ำบ่อหลวง” หมายถึงน้ำบ่อที่มีขนาดกว้างใหญ่พอที่จะรองรับผู้คนมาใช้น้ำได้เป็นอย่างดี


นอกจากนี้ ทุกบ้านสมัยก่อนต่างขุดบ่อน้ำไว้ใกล้ริมทางเดิน เพื่อจะให้ผู้คนที่เดินทางรอนแรมจากหมู่บ้านอื่นถิ่นไกลได้มาใช้บ่อน้ำอาบ ดื่ม บรรเทาทุกข์ในการเดินทาง ดังนั้นปัจจุบันในหมู่บ้านชนบทล้านนาเราได้เห็นบ่อน้ำเก่าๆอยู่ริมถนนกันมากมาย แต่ไม่มีใครกล้าถมแม้จะเป็นบ่อน้ำเก่าแก่นานับหลายชั่วอายุคน ปล่อยให้บ่อน้ำเก่าร้างอยู่อย่างนั้นจนมีการทับถมจากดิน เศษขยะตามธรรมชาติตามที่เรียกกันว่า “น้ำบ่อมูน” แล้วเต็มบ่อเป็นพื้นที่เหมือนดั่งพื้นที่ทั่วๆไป ตามที่ได้เก็บข้อมูลรายแรกเป็นบ่อน้ำเดิมที่ขุดไว้แล้วนานจนไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ขุด แต่มีความจำเป็นต้องทำเป็นห้องอาหารของโรงเรียน ผู้รับเหมาไม่กล้าถม ครูใหญ่เป็นคนมีการศึกษาสูงไม่เชื่อเรื่องการถมบ่อน้ำหรือไม่เชื่อเรื่องขึดเพราะเป็นเรื่องงมงาย ยังไงๆก็ยังมีคนบอกว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่”



ด้วยคำๆนี้เอง ครูใหญ่จึงไม่ถมแต่ให้มีการทำฝาซีเมนต์ขนาดใหญ่ปิดปากบ่อไว้ แล้วนำท่อพลาสติกมาต่อเป็นรูออกไปทางด้านข้างของอากคารเรียกกันว่า “รูปล่องเปล๋ว” (รูปล่อยเปลวไอน้ำบ่อ) ส่งงานตรวจรับการก่อสร้างอาคารโรงอาหารเสร็จครูใหญ่ฝันเห็นแม่เฒ่าผมหงอกมาถามว่า “ทำไมมาปิดปากบ่อของแม่ แม่ไม่มีน้ำใช้ ” รุ่งขึ้นครูใหญ่นำเรื่องนี้ไปบอกกับเพื่อนๆครูในโรงเรียนฟังกัน บ้างก็บอกว่าเป็นเรื่องเหลวใหล บ้างก็ว่าน่าจะมีการขอขมา แต่ที่แน่ๆ ครูใหญ่เข้าห้องน้ำล้มในห้องน้ำเป็นอัมพาตต้องลาออกจากราชการเป็นผู้พิการนั่งบนรถเข็นจนทุกวันนนี้ นี่เป็นเรื่องเบาะๆไม่ถมเพียงแค่ปิดปากบ่อ ข้อมูลที่สองที่เก็บได้เป็นเรื่องของพ่ออุ๊ย(คุณตา)มีความจำเป็นต้องขยายบ้านออกไปเพื่อให้มีพื้นที่ใช้ในบ้านมากขึ้น



จึงต้องทำหลังคมคลุมบ่อน้ำ แล้วถมบ่อน้ำใช้พื้นที่เป็นที่วางสินค้า คนงานที่รับจ้างถมบ่อน้ำกลับไปบ้านฝันเห็นพญานาคตัวใหญ่มาพ่นน้ำใส่บ้านตนเองจนท่วมบ้าน สะดุ้งตื่นรีบเล่าเรื่องให้แม่บ้านฟัง พอวันรุ่งขึ้นจึงนำสวย(กรวย)ดอกไม้ไปขอขมาบ่ำน้ำที่ตนเองรับจ้างถม ส่วนพ่ออุ๊ย(คุณตา)ได้รับฟังคำเล่าจากคนรับจ้างว่าพญานาคพ่นน้ำจนท่วมบ้าน พ่ออุ๊ยหน้าซีด และได้ทำการนิมนต์พระมาทำพิธีถอนขึดรอบๆบ่อน้ำ เป็นที่พอใจแก่ลูกหลาน อีกสองวันต่อมาพ่ออุ๊ยเดินพลาดหกล้มก้นกระแทกกับพื้นเข้าโรงพยาบาลแล้วช้อคหมดลมหายใจ



หลังจากที่จัดการศพพ่ออุ๊ยเสร็จ มีผู้รู้ท่านหนึ่งมาเอามือมาอังปากบ่อทดสอบพลังไอจากบ่อเชื่อกันว่าทุกบ่อน้ำมีพลังธรรมชาติตามที่ผู้คนขุดเอาไว้เพราะลึกลงไปในพื้นดินมีแร่ธาตุต่างๆ พลังแร่ธาตุเหล่านี้เองที่มีอำนาจต่อการปล่อยพลังจากก้นบ่อออกมาให้ผู้คนได้สัมผัส รูช่องพลังที่ขุดบ่อน้ำไว้แม้เราจะใช้เป็นประโยชน์เรื่องของน้ำในขณะเดียวกันก็เป็นจุดปล่อยพลังธรรมชาติของโลกด้วยเช่นกันบางบ่อหากเรานำมืออังปากบ่อจะรู้สึกร้อนผ่าวๆ บางบ่อหากเราเอามืออังปากบ่อจะรู้สึกเย็นเพราะพลังแร่ธาตุที่อยู่ก้นบ่อนั่นเอง ความรู้สึกร้อน เย็น นี่เองผู้คนจึงเชื่อว่าเป็นพลังของพญานาค (เอาเรื่องให้พญานาครองรับไว้ก่อน)เพราะไม่รู้จะพึ่งใคร การถมบ่อน้ำมีข้อห้ามเป็นขนบมานานนม

โดยเฉพาะสมัยโบราณหากถมบ่อน้ำจะเกิดโกลาหลเพราะผู้คนที่เคยใช่บ่อน้ำเดี่ยวกันจะเดือดร้อนมากเพราะไม่มีบ่อน้ำที่จะให้ตักน้ำไปใช้ อย่างไรก็ตามเรื่องขึดถมบ่อน้ำของผู้คนล้านนาก็อยู่ในจิตใจมาช้านาน ไม่มีใครกล้าจะถมบ่อน้ำเก่าๆ แต่หากใครฝืนก็จะได้รับผลขึด ดังนั้นแม้ปัจจุบันเราเที่ยวไปตามหมู่บ้านเมืองล้านนา เรามักเห็นบ่อน้ำเก่าๆก็อย่าสงสัยว่าทำไม..ทำไม?เจ้าของไม่ถมบ่อ ปล่อยให้เสียที่เสียทางเปล่าๆโดยไร้ประโยชน์ หากถมบ่อน้ำก็อาจมีพื้นที่เพิ่มขึ้น ไม่มีสิ่งกีดขวางในพื้นที่ดิน….คำถามเหล่านี้มีคำตอบว่า… เจ้าของที่จะปล่อยบ่อน้ำไว้อยู่กับพื้นที่ของตนเอง ดีกว่าเสียชีวิตเพราะขึด


ที่มา ผะหญาล้านนา PHAYHA LANNA

ร่วมแสดงความคิดเห็น