ผอ.ทสจ.เชียงราย ร่วมชี้แจงแผนเชิงรุก ลดปัญหาไฟป่า ในกิจกรรม “เชียงรายไม่ทนฝุ่น”

วันที่ 11 เม.ย. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีการรวมตัวกันของประชาชนชาวเชียงราย ในนามกลุ่ม “Smoke’s gone” ที่ต้องทนทุกข์กับปัญหาหมอกควันไฟป่ามานานกว่า 2 เดือน ตลอดช่วงระยะเวลาการห้ามเผา จนต้องมารวมตัวชุมนุมโดยสันติ ที่บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช ริมถนนพหลโยธิน อ.เมืองเชียงราย เพื่อสอบถามผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ถึงมาตรการการแก้ไขปัญหาในห้วงที่ผ่านมา รวมถึงแผนการแก้ปัญหาในระยะยาว โดยมี นายสมเกียรติ ปูกา ผอ.ทสจ.เชียงราย ร่วมกับ นายวราดิศร อ่อนนุช รอง ผวจ. เชียงราย นายนิกร โรจนนานนท์ ผอ.สจป.2 นายชุติเดช กมนณชนุตย์ ผอ.สบอ.15 เข้าร่วมชี้แจงต่อผู้ชุมนุม

ในการชุมนุมดังกล่าว นายสมเกียรติ ปูกา ผู้อำนวยการ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย (ทสจ.เชียงราย) ได้พูดชี้แจงถึงการดำเนินการของกระทรวงทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ว่า ที่ผ่านมา จ.เชียงรายได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าพื้นที่เพื่อไปควบคุมไฟป่าก็ได้รับความร่วมมือจากทั้งเจ้าหน้าที่ทั้งในสังกัด ทส. เจ้าหน้าที่ทหาร กู้ภัย เครือข่ายควบ คุมไฟป่า หรือแม้แต่จิตอาสา ที่ไปช่วยกันดับไฟอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางครั้งต้องไปนอนกลางดินกินกลางทราย เพื่อไปคอยเฝ้าระวังสถานการณ์ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการไปดับไฟป่าหลายราย สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุเผาป่าได้ 18 ราย และต้องปิดป่าเพื่อฟื้นฟู จำนวน 14 แห่ง แต่ก็ยังพบว่ามีค่าความร้อนที่มากขึ้น เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งการเผาในพื้นที่เอง และการเผาในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทาง จ.เชียง ราย จึงได้หารือร่วมกันในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน

และจากการถอดบทเรียนจึงได้กำหนดมาตรการปฏิบัติงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 1.ระยะเตรียมการ เน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ทำแนวกันไฟ และการบริหารจัดการเชื้อเพลิง 2.ระยะปฏิบัติการและทำแผนเผชิญเหตุ ได้แก่ การกำหนดระยะเวลาห้ามเผา ใช้ระบบ Single command โดยในระดับจังหวัดให้ทาง ผวจ. เป็นผู้สั่งการ และในระดับอำเภอให้นายอำเภอสั่งการสนธิกำลังหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมดับไฟ ยกระดับมาตรการเชิงรุก ทั้งภาคพื้นดินและอากาศ ตั้งกองอำนวยการเพื่อควบคุมสถานการณ์ สร้างมวลชนสัมพันธ์เคาะประตูบ้านทำความเข้าใจพิษภัยของการเผาป่า เพิ่มแผนผจญเพลิง และ 3.ระยะฟื้นฟู ให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิง กิจกรรมปลูกป่า ทำฝาย และส่งเสริมเครดิตคาร์บอน

รวมไปถึงการยกระดับการบังคับใช้กฏหมายในการจับกุมผู้เผาป่า ขอความร่วมมือ อปท.เพื่อฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ และประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง จ.เชียงรายได้ทำหนังสือขอความร่วมมือไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 25 ม.ค. และ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา และมีการจัดฝึกอบรม จนท.ป่าไม้ ไทย-ลาว เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.ญดา จีระจันทร์ แกนนำกลุ่ม กล่าวว่า กลุ่ม Smoke’s gone ที่เกิดจากการกลุ่มของพี่น้องประชาชนชาวเชียงรายหลากหลายอาชีพ จากทุกภาคส่วน ทุกพื้นที่ในเชียงราย รวมพลังเป็นส่วนหนึ่งจากภาคสังคมเพื่อร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา บรรเทาผลกระทบให้กับพี่น้องชาวเชียงราย ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะยาว ในระดับท้องถิ่นและระดับนโยบายระดับประเทศต่อไป โดยมิได้มีเจตนาใดๆ ในการเรียกร้อง แสดงออกที่รุนแรง สร้างความขัดแย้ง หรือเรียกร้องความรับผิดชอบจากหน่วยงานไดๆ

“ในวันนี้ที่พวกเราชาวเชียงรายได้มารวมตัวกัน ณ ที่นี้ เพื่อแสดงพลังและบอกกับทุกท่านว่า “เชียงรายไม่ทนฝุ่น” โดยกิจกรรมในวันนี้ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญโรคปอดจากโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้มีการให้ความรู้ให้ข้อมูลแก่ประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับอันตรายจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM2.5) เพื่อสร้างความตระหนักรับรู้ (awareness) ถึงสาเหตุของปัญหาและผลกระทบต่อสุขภาพในระยาว รวมถึงวิธีการป้องกันตัวเอง” น.ส.ญดา กล่าว

ทั้งนี้ทางกลุ่ม Smoke’s gone ได้ยื่นหนังสือสอบถามถึง ผวจ.เชียงราย โดยมี นายวราดิศร อ่อนนุช รอง ผวจ.เชียงราย เป็นตัวแทนรับหนังสือพร้อมชี้แจงถึงแผนงาน และความคืบหน้าในการจัดการปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน

ทั้งนี้ทางกลุ่ม smoke’s gone จะมีการประสานงานติดตามความคืบหน้า กับหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไปตามหนังสือที่มอบกับทาง ผวจ.เชียงราย และก่อนแยกย้ายกลุ่มประชาชนชาวเชียงราย ได้รวมพลังให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่และอาสาดับไฟป่า ร่วมบริจาค น้ำดื่ม อุปกรณ์ดับไฟป่า หน้ากากอนามัย ชุดปฐมพยาบาลน้ำยาล้างจมูก น้ำยาล้างตา ให้แก่หน่วยงานดับไฟป่า ได้แก่ ส่วนควบคุมและปฏิบัติการไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย) ส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย และกลุ่มอาสาดับไฟป่ามูลนิธิกระจกเงาเชียงราย

ร่วมแสดงความคิดเห็น