AIS ติดปีกธุรกิจชาวเหนือ ก้าวสู่ Digital Industry Evolution

AIS ติดปีกธุรกิจชาวเหนือ ก้าวสู่ Digital Industry Evolution ตอกย้ำภารกิจ Sustainable Nation เติบโตอย่างยั่งยืน อุ่นใจไปด้วยกัน

27 มีนาคม 2567: AIS BUSINESS จัดงาน DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION 2024 จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด Building Digital Business Intelligence for Sustainable Future ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ระหว่างภาคอุตสาหกรรม ตอกย้ำแนวคิดการเป็นดิจิทัลพาร์ทเนอร์ในใจองค์กรธุรกิจและผู้ประกอบการที่มุ่งสร้างการเติบโต อุ่นใจ ไปด้วยกัน

นายภูผา เอกะวิภาต, รักษาการหัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร เอไอเอส กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นกับการยกระดับบริการดิจิทัลโซลูชันและแพลตฟอร์ม เพื่อตอบโจทย์การทำงานสำหรับกลุ่มธุรกิจ ซึ่งวันนี้เรามีความพร้อมในการวิวัฒน์ภาคธุรกิจในทุกระดับ ให้สามารถนำดิจิทัลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดของการทำงานในการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นบริการด้าน Digital Infrastructure อย่าง 5G, AIS Cloud X รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มร่วมกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่อช่วยผลักดันการเติบโตของ GDP ที่เป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจในภาพรวม”

ด้านนายอาทยา หยู่เย็น หัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค – ภาคเหนือ AIS กล่าวว่า “วันนี้ AIS Business พร้อมเดินหน้าทำงานภายใต้แนวคิด Ecosystem Economy หรือ การสร้างเศรษฐกิจแบบร่วมกันในด้านของการเชื่อมต่อธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม (Cross Industry Collaboration) ผ่านการทำงานร่วมกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลก โดยในงานวันนี้ ได้รับเกียรติจากพันธมิตรชั้นนำ 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย), บริษัท ฟอร์ทิเนท ซีเคียวริตี้ เน็ทเวิร์ค (ประเทศไทย), บริษัท วีม ซอฟต์แวร์ (ประเทศไทย) และ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ที่ร่วมกันขนทัพโซลูชัน มาร่วมติดปีก เสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจในภาคเหนือ

โดยในงานวันนี้ AIS Business ได้ประกาศเดินหน้าสร้างก้าวสู่การวิวัฒน์ครั้งใหม่ของภาคธุกิจในยุคดิจิทัล DIGITAL INDUSTRY EVOLUTION ด้วยการยกระดับขีดความสามารถของโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะและ AI สู่การส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลสุดล้ำให้กับคนไทยและองค์กรธุรกิจในทุกภาคส่วน สอดรับการเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ หรือ Cognitive Tech-Co ที่มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของประเทศไทยบน ECOSYSTEM ECONOMY ทั้ง 3 ด้าน คือ

1) การวิวัฒน์ของ Intelligent Infrastructure สู่โครงข่ายเน็ตเวิร์คและนวัตกรรม

  • 5G Living Network บริการเสริมพิเศษที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถเร่งคุณภาพสัญญาณให้ดีขึ้นเฉพาะช่วงเวลา เพื่อให้คนไทยได้รับประสบการณ์ดิจิทัลที่เหนือกว่า
  • การยกระดับโครงข่าย Fibre ที่ร่วมกับ 3BB ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ครอบคลุมกว่า 13 ล้านครัวเรือน
  • Enterprise Platform – ไม่ว่าจะเป็น AIS Cloud X บริการคลาวด์ในประเทศที่ได้รับมาตรฐานด้านความปลอดภัยระดับสากล, AIS Paragon Platform ที่เชื่อมต่อเครือข่าย 5G, Fibre, Edge Computing, Cloud, และ Software Application เพิ่มศักยภาพให้การพัฒนา 5G Applications และบริการ Analytic X เครื่องมือสำหรับนักการตลาดอันทรงพลังที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

2) การวิวัฒน์ของ Cross Industry Collaboration การผสานความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรม

  • ตัวอย่างการนำแพลตฟอร์มบริหารจัดการพลังงาน (Energy Platform) มาใช้ในกระบวนการผลิตของบริษัท สยามโตโยต้าอุตสาหกรรม จำกัด ทำให้สามารถติดตาม ตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลการผลิตได้ตามความต้องการ เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการผลิต
  • ตัวอย่างการนำ 5G Private Network มาใช้ในท่าเทียบเรือชั้นนำของท่าเรือแหลมฉบัง อย่าง
    บริษัท ฮัทชิสัน พอร์ท ประเทศไทย เพื่อยกระดับสู่การเป็น Smart Seaport ที่สามารถควบคุมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • การร่วมมือกับดิจิทัลพาร์ทเนอร์ชั้นนำระดับโลกอย่าง Microsoft ในการนำบริการ Microsoft
    365 Copilot ผู้ช่วย AI ใหม่ให้คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างชาญฉลาด, บริการ Security Fabric จาก Fortinet ให้คุณเสริมศักยภาพด้านความปลอดภัยของเครือข่ายองค์กร, บริการ Veeam Data Platform แพลตฟอร์มที่ช่วยปกป้อง ดูแลระบบและข้อมูลที่มีความปลอดภัย และ Galaxy for Work จาก Samsung อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ทำงานได้อย่างอเนกประสงค์ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย

3) การวิวัฒน์ของ Sustainable เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านการขยายความร่วมมือสร้าง Green Partnership และทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยให้เข้าถึงความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันดิจิทัล ผ่านหลักสูตร อุ่นใจ Cyber และทักษะเพื่ออนาคต ผ่าน Academy for Thais

นายอาทยา กล่าวย้ำในช่วงท้ายว่า “เราตระหนักดีว่า บทบาทหลักของ AIS นอกจากสร้างมาตรฐานทั้งมิติของสินค้า บริการ นวัตกรรม และการดูแลลูกค้าอย่างเป็นเลิศแล้ว เรายังมีภารกิจในการสนับสนุนการเดินหน้าของประเทศ สู่การเป็น Sustainable Nation พร้อมนำศักยภาพเข้าสนับสนุนความแข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ เพื่อสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
ส่งเสริมเศรษกิจของประเทศ และการพัฒนาธุรกิจในภาคเหนือให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน”

ร่วมแสดงความคิดเห็น