ฟ้าหลังฝน ขมุกขมัวจนแยกไม่ออก อันไหนหมอกอันไหนควัน

ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายของที่ 14 มี.ค.2566 สภาพอากาศทางภาคเหนือตอนบน อย่างในพื้นที่ จ.เชียงใหม่,ลำพูนและลำปาง ท้องฟ้าขมุกขมัวแทบไม่มีแสงแดดสอดส่องลงมา จนทำให้ชาวบ้านต่างงงแยกไม่ออกว่าเป็นหมอก หรือ ควันไฟกันแน่ ทั้งที่เพิ่งมีพายุ และมีลูกเห็บตกลงมาแทนที่ อากาศจึงสดใสกลับมาเหมือนเช่นเดิม ท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยหมอกควันไฟ

สำหรับเช้านี้ ทางสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ศูนย์ราชการ ต.ช้างเผือก วัดได้ 56 มคก./ลบ.ม. ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 114 AQI ที่ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง วัดค่า PM 2.5 ได้ 46 มคก./ลบ.ม. ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84 AQI ที่ ดอยสุเทพ วัดได้ 46 มคก./ลบ.ม. ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 84 AQI ที่ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ตอนบนของ จ.เชียงใหม่ ค่า PM2.5 วัดได้ 30 มคก./ลบ.ม. ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 35 AQI ขณะที่ ต.หางดง อ.ฮอด สูงสุดของเชียงใหม่ 70 มคก./ลบ.ม. ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 149 AQI

ขณะที่ เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่รายงานคุณภาพอากาศ และจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 8.00 น.จ.เชียงใหม่ ยังติด 10 อันดับแรกของโลกเมืองแห่งมลพิษทางอากาศ อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก ดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 157 US AQI ส่วนอันดับ 1 เป็นของเมืองเดลี ประเทศอินเดีย 229 US AQI /

ร่วมแสดงความคิดเห็น