6090

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย เพจที่พักปลอมระบาดหนักในฤดูกาลท่องเที่ยว

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัย เพจที่พักปลอมระบาดหนักในฤดูกาลท่องเที่ยว ก่อนโอนเงินตรวจสอบให้ดี พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัย มิจฉาชีพสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอม โดยลอกเลียนแบบเพจที่พักจริงในพื้นที่สำคัญต่างๆ แอบอ้างเป็นเจ้าของที่พัก หรือแอดมินเพจหลอกลวงประชาชนให้โอนเงินค่ามัดจำ ดังนี้ ได้รับรายงานว่าจากการตรวจสอบในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ พบมีผู้เสียหายหลายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้โอนเงินค่ามัดจำที่พักก่อนเดินทางเข้าพักจริงในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พักในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เป็นต้น ซึ่งมิจฉาชีพจะใช้แผนประทุษกรรมหลักอยู่ 2 วิธี คือ วิธีที่หนึ่ง สร้างเพจเฟซบุ๊กที่พักปลอมขึ้นมา หรือใช้เพจเฟซบุ๊กเดิมที่มีผู้ติดตามอยู่แล้ว ตั้งชื่อหรือเปลี่ยนชื่อเพจให้เหมือนกับเพจจริง คัดลอกภาพโปรไฟล์ ภาพหน้าปก เนื้อหา และโปรโมชันต่างๆ จากเพจจริงมาใช้หลอกลวงผู้เสียหาย และใช้เทคนิคในการซื้อ หรือยิงโฆษณาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเพื่อที่จะสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ง่ายขึ้น วิธีที่สอง ใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตารแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแนะนำโรงแรม หรือที่พักต่างๆ โพสต์ข้อความในลักษณะว่ามีที่พักหลุดจองราคาดี กระทั่งผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว ก็จะไม่สามารถติดต่อเพจนั้น หรือบัญชีอวตารนั้นได้ หรือกรณีที่แย่ที่สุดเมื่อผู้เสียหายเดินทางไปถึงที่พักจริงแล้ว กลับได้รับแจ้งว่าไม่ได้มีการจองที่พักมาแต่อย่างใด ทำให้นอกจากจะสูญเสียทรัพย์สิน เสียเวลาแล้ว ยังจะไม่มีที่เข้าพักอีกด้วย ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 238 ราย […]

เตือนภัย!! มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell)

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยประชาชนอย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell)ฉวยโอกาสช่วงค่าไฟฟ้าแพงพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. ขอเรียนประชาสัมพันธ์เตือนภัยประชาชน กรณีมิจฉาชีพเข้ามาแฝงตัวในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อหลอกลวงขายหลอกขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ดังนี้ได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ตอท.) พบว่าเริ่มมีมีผู้เสียหายหลายรายทยอยเข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ หลักจากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) หรืออุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ให้กับเหยื่อผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายการอุปโภค และบริโภคจากการใช้ไฟฟ้าในรูปแบบของที่พักอาศัย โดยมิจฉาชีพได้ฉวยโอกาสในช่วงที่โซลาร์เซลล์ (Solar Cell) กำลังเป็นที่นิยม และได้รับความสนใจในช่วงสถานการณ์ปัจจุบัน ใช้บัญชีเฟซบุ๊กปลอมแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มต่างๆ ที่มีการซื้อขายโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง โพสต์ประกาศขายสินค้าดังกล่าวในราคาถูกกว่าราคาท้องตลาด ใช้รูปภาพที่คัดลอกมาจากช่องทางที่มีการซื้อจริง โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณต่างๆ และมีการเร่งรัดให้รีบตัดสินใจว่าสินค้าใกล้จะหมด และนอกจากนี้แล้วมิจฉาชีพยังใช้วิธีการสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาทั้งหมดเพื่อหลอกลวงขายสินค้าประเภทดังกล่าวอีกด้วยที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 – 16 เม.ย.66 พบว่าการหลอกลวงซื้อสินค้า หรือบริการ ยังคงมีประชาชนตกเป็นเหยื่อ โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ผ่านระบบการรับแจ้งความออนไลน์สูงที่สุดเป็นลำดับที่ 1 จำนวนกว่า 85,395 เรื่อง หรือคิดเป็น 35.61% ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,255 […]

ช่วยกันแชร์ ให้ญาติสนิทมิตรสหาย รู้ทันมิจฉาชีพ

เตือนภัยมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งข้อความสั้น (SMS) พร้อมโทรศัพท์ไปยังประชาชนแจ้งว่าจะคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า แล้วหลอกลวงให้แอดไลน์ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมโทรศัพท์มือถือโอนเงินออกจากบัญชี กรณีนี้เท่าที่ทราบ มีคนถูกหลอกเยอะเลยครับตอนนี้ส่วนใหญ่แจ้งความทางออนไลน์ มาเป็นจำนวนมาก ฝากช่วยกันแชร์ต่อไปยังญาติสนิทมิตรสหายให้มากๆ จะได้รู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเยื่อของมิจฉาชีพ

(มีคลิป) หนังคนละม้วน หนุ่มขอพื้นที่แจงความจริง “แอบเปลี่ยนทอง”

หนังคนละม้วน หนุ่มไปรษณีย์ขอพื้นที่สื่อแจงความจริงหลังถูกแม่ค้าร้องศูนย์ดำรงธรรมแอบเปลี่ยนสร้อยทอง ผมต่างหากถูกหลอก เผยชวนลงทุนทองแท้แต่กลับได้ทองปลอม พร้อมเปิดคลิปแม่ค้าบุกทำร้ายถึงที่ทำงาน หลังจากเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.66) นางสาวกรรณิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี อาชีพแม่ค้าขายอาหารและผลไม้ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหลังถูกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ริมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง โดยมีการกล่าวหาว่าแม่ค้าได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท ไปจำนำไว้เป็นเงิน 75,00 บาท แต่สุดท้ายกลับพบว่าเป็นทองปลอม โดยแม่ค้ายืนยันว่าได้นำสร้อยคอทองคำของจริงไปจำนำ แต่ถูกนำไปเปลี่ยนเป็นทองอีกเส้นหนึ่งโดยพลการ ล่าสุดในช่วงสายของวันนี้ (23 มี.ค.66) นายตรีเทพ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ริม ที่ถูกอ้างถึงนำหลักฐานเข้าชี้แจงกับนายณัฐวุฒิ แก้วบัวระพา ปลัดอำเภอแม่ริม ระบุว่ารู้จักกับนางสาวกรรณิกามานาน โดยนางสาวกรรณิกาได้มาชักชวนให้ลงทุนรับจำนำทองเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 จึงได้รับจำนำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทจากนางสาวกรรณิกาพร้อมกับโอนเงินให้ 75,000 บาท หลังจากนั้นก็ได้รับดอกเบี้ยเดือนละ 2,000 บาท โดยทองเส้นนี้เมื่อได้มาก็เก็บเอาไว้ที่บ้านตลอดและยืนยันว่าไม่ได้นำไปเปลี่ยนลาย ต่อมาระหว่างจำนำได้ขอยืมทองไปใช้เป็นของหมั้นในงานแต่งงานในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งนางสาวกรรณิกาก็รับทราบและบอกว่าเอาไปสิ เมื่อเสร็จพิธีก็ถอดเก็บไว้เหมือนเดิม หลังจากนั้นตนเองต้องการใช้เงินและอยากได้เงินที่ลงทุนคืน […]

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกอ้างทดลองงาน

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยมิจฉาชีพแฝงมาในรูปแบบบริษัทจัดหางานหลอกลวงให้ทำภารกิจอ้างทดลองงาน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอฝากเตือนภัยมิจฉาชีพโทรศัพท์ไปยังผู้เสียหาย แอบอ้างเป็นบริษัทที่เคยสมัครงาน หลอกลวงเหยื่อให้ทดลองงาน โดยการทำภารกิจออนไลน์ต่างๆ ดังนี้ ที่ผ่านมา บช.สอท. ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหายหลายรายว่า ได้รับโทรศัพท์จากมิจฉาชีพซึ่งแอบอ้างเป็นพนักงานบริษัทที่ตนได้เคยกรอกข้อมูลหรือฝากประวัติส่วนตัว หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อ และตำแหน่งที่สนใจไว้ผ่านเว็บไซต์หางานต่างๆ โดยมิจฉาชีพได้นำข้อมูลดังกล่าวมาสอบถามผู้เสียหายว่าสนใจสมัครงานในตำแหน่งนี้ใช่หรือไม่ หากใช่จะให้เพิ่มเพื่อนทางไลน์ของพนักงานบริษัท เพื่อทำการพูดคุยแจ้งลักษณะของงานให้ทราบ และจะต้องทดลองงานก่อนเป็นเวลา 3 วัน หากผ่านการทดลองงานแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปแจ้งสวัสดิการต่างๆ เช่น วัดหยุด โบนัสประจำปี เป็นต้น แต่ในช่วงทดลองงานมิจฉาชีพจะให้ผู้เสียหายโอนเงินส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายรายวันก่อนที่จะให้ทำภารกิจต่างๆ เริ่มจากการให้เข้าไปกดถูกใจ หรือกดไลก์บุคคลที่มีชื่อเสียง บันทึกภาพหน้าจอสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในขั้นตอนสุดท้ายมิจฉาชีพจะส่งลิงก์ให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมเพื่อไว้ทำภารกิจ กดรับออเดอร์สินค้าในราคาตั้งแต่หลักร้อยไปถึงหลักหมื่นบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ ผู้เสียหายจะได้เงินคืนมาจริง แต่หลังจากนั้นมิจฉาชีพก็จะออกอุบายต่างๆ เพื่อให้ทำภารกิจพิเศษ หลอกให้เหยื่อเติมเงิน หรือโอนเงินเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้เหยื่อมักเสียดายเงินที่เคยโอนไปก่อนหน้านี้อยากได้เงินทั้งหมดคืน ก็หลงเชื่อโอนเงินไปเพิ่มอีกหลายครั้ง มิจฉาชีพก็จะมีข้ออ้างต่างๆ เช่น อ้างว่าทำผิดขั้นตอน หรือยอดเงินในระบบไม่เพียงพอ อ้างว่าเป็นค่าเอกสาร ค่าปิดบัญชี ค่าภาษี เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างความน่าเชื่อถือโดยให้หน้าม้าในกลุ่มไลน์แสดงหลักฐานปลอมว่าตนได้รับเงินจริง กระทั่งเมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็จะปิดการติดต่อหลบหนีไป จากสถิติศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ […]

บัญชีม้าพาซวย หนุ่มรับจ้างเปิดบัญชี สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท

“บัญชีม้าพาซวย สืบนครบาลรวบหนุ่มรับจ้างเปิดบัญชี 1,000 บาทให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ความเสียหาย กว่า 2 ล้านบาท ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี PCT ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงให้โอนเงินไปตรวจสอบ เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในการฟอกเงิน หากตรวจสอบแล้วไม่พบความผิด จะโอนเงินกลับคืนให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อ ได้โอนเงินไปให้ตรวจสอบ ที่หมายเลขบัญชีเดียวกันรวมเป็นเงินจำนวน 1,170,000 บาท สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ผู้ต้องหารับว่าบัญชีดังกล่าวที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปก่อเหตุเป็นของตนจริง ได้รับค่าจ้างในการเปิดบัญชีธนาคารครั้งละ 1,000 บาท เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 16.20 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช […]

ตั้งกลุ่มไล่คนโกงตัวแม่! ‘นภาพร หรือหวาน’ ลำปลาทิว

ล่าคนโกงตัวแม่!! สืบนครบาล IDMB ตามรวบ ‘นภาพร หรือหวาน’ ลำปลาทิว ผู้เสียหายรวมตัวกว่า 600 คน ตั้งกลุ่มไล่ล่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายว่าถูกคนร้ายชื่อ “ นภาพร หรือหวานก่อเหตุโดยสร้างเฟซบุ๊กชื่อบัญชีต่างๆ หลอกให้โอนเงินค่าสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ถึงขนาดมีการรวมตัวกันกว่าหกร้อยคน ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก ชื่อ “จับคนโกง นภาพร-แสงจันทร์-ปนัดา-ปภัสสร-สุขใจ – napaporn sangjan” เพื่อรวมตัวกันแชร์ประสบการณ์ แนะวิธีการเก็บข้อมูลพยานหลักฐานเพื่อแจ้งความดำเนินคดีเมื่อถูกก่อเหตุ ตลอดจนหาวิธีการช่องทางเพื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในการล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยผู้เสียหายที่รวมกลุ่มได้มีการประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. เพื่อให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาคนดังกล่าวซึ่งยังหลบหนีก่อเหตุต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 คนร้ายมีความคิดว่าถ้าโกงผู้เสียหายในจำนวนยอดเงินโกงไม่เกิน 2,000 บาท น่าจะไม่ค่อยมีผู้เสียหายติดตามดำเนินคดี มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท ประวัติอาชญากรรมสะอาด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 19.30 น. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ […]

เตือนภัย!! มิจฉาชีพล่าเหยื่อ 3 จว.หลอกสั่งซื้อเนื้อหมู

จากโพสต์ของผู้ใช้เฟสบุ๊กท่านหนึ่ง มีข้อความว่า🆘🆘ผู้ชายคนนี้เป็นมิจฉาชีพ เข้ามาสั่งหมูและเนื้อที่ร้านแม่เราที่ตลาดอัศวิน เป็นยอดเงินจำนวน 30,000 บาท โดยไม่ได้จ่ายมัดจำหรือให้เงินไว้แม้แต่บาทเดียว แจ้งว่าซื้อให้นักกีฬาของโรงเรียนกีฬาลำปาง และให้แม่นำไปส่งให้ที่สนามกีฬาจังหวัดลำปาง พอไปถึงไม่สามารถติดต่อเขาได้ หากท่านใดพบเห็นหรือเขาไปสั่งซื้อสินค้าใดๆ โปรดระวังด้วยนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 ทางผู้ใช้เฟซบุ๊กให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ 18 ก.พ.2566 ที่ผ่านมาได้มีชายรูปร่างอ้วนลักษณะที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ ใช้รถ จยย.เข้ามาสั่งซื้อหมูที่เขียงหมู ”เจ๊ขวัญ” แม่ของเธอในตลาดอัศวิน ในตัวเมืองลำปาง เป็นยอดเงิน 30,000 บาท โดยไม่นิดมัดจำ หรือ จ่ายเงินสดแม้แต่บาทเดียว อ้างว่าซื้อให้นักกีฬาลำปางและให้แม่ไปส่งให้ที่สนามกีฬาจังหวัดลำปาง พอหปถึงก็สามารถติดต่อเขาได้ และชายคนนั้นบอกว่าขณะนี้ไม่มีเงินสดติดตัว เงินสดอยู่ในธนาคาร และขอยืมเงินก่อน 3,000 บาทเพื่อนำไปซื้อผักแล้วจะจ่ายคืนให้ พร้อมกับค่าเนื้อหมู แต่แม่ไม่ให้บอกว่าไม่มีเงินสดเลย ต่อมาแม่ได้นำเนื้อหมูไปส่งให้ชายดังกล่าวที่สนามกีฬาจังหวัดลำปาง ไม่พบและติดต่อชายดังกล่าวไม่ได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอกเสียแล้ว จึงโพสต์เตือนภัยโปรดระวังไว้ด้วย ส่วนทาง เพจฮาลำพูน ทางสมาชิกได้แจ้งเหตุมีข้อความว่า ใครรู้จักผู้ชายคนนี้บ้าง ใส่แมสสีแดงรูปร่างอ้วน ผิวสีดำ พูดไทย เมื่อวานวันที่20 ก.พ. เข้ามาสั่งของในตลาดหนองดอก หลายเจ้า ทั้งหมู ไก่ ไข่แล้วก็สั่งล็อตเตอรี่เป็นจำนวนเงิน […]

(มีคลิป) เหิมเกริมหนักแก๊งหลอกทาสีบ้านโดน 10 กว่าหลัง

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านแฮะ ม.5 ต.แม่ลาว อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังมีชาวบ้านร้องเรียนผ่านสื่อเข้ามาว่าพบแก๊งหลอกทาสีบ้านในพื้นที่ซึ่งสร้างความเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 10 หลังคา ทั้งนี้แก๊งดังกล่าวเคยสร้างความเสียหายในพื้นที่ของ ต.ออย อ.ปง จ.พะเยา เมื่อช่วงเดือนก่อนที่ผ่านมา โดยชาวบ้านแฮะต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสีที่ใช้ทานั้นไม่ได้คุณภาพซ้ำร้ายน้ำสียังย้อยเป็นทางเหมือนบ้านผีสิง นายยูร มีสุข ชาวบ้านแฮะที่ได้รับความเสียหายในเรื่องนี้ได้เล่าว่า เมื่อตอนบ่ายของวันนี้ตนและภรรยาคือนางจันทร์ติ๊บ มีสุข ได้นั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ก็มีรถกระบะติดคอกมาจอดแล้วมีผู้หญิง 2 คนพาจาสำเนียงทางอีสานได้เข้ามาพูดคุยกับตนในเรื่องของการทาสีบ้าน ซึ่งทำทีว่าจะรับทาสีให้โดยคิดราคาอยู่ที่ 5,500 บาท ทั้งนี้ตนได้แปลกใจจึงได้โทรศัพท์เรียนลุกชายคนโตมาดูก่อนที่จะตกลงลดราคาเหลือประมาณ 3 พันบาท หลังจากนั้นผู้หญิงทั้ง 2 คนจึงได้ทำการลงมือทาสีโดยมีผู้ชายประมาณ 3 – 4 คนได้ขนถังสีลงมาจากรถ หลังจากที่ทำการทาสีเสร็จก็ได้มีการเรียกรับเงินอีกทั้งยังมีการขอข้าวสารจำนวน 1 ลิตรด้วย แล้วหลังจากที่กลุ่มนี้ได้ขับรถออกไปตนเองมาสำรวจดูบ้านก็ต้องตกใจเพราะสีที่ทานั้นเป็นสีฝุ่นผสมน้ำมันเครื่องเก่าอีกทั้งน้ำสียังย้อยเป็นทางดูไม่สวยงามด้วย ตนจึงได้โทรศัพท์อีกครั้งเรียกลุกชายคนเล็กซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมาดูก็ปรากฏว่าขณะนี้ตนเองได้ถูกหลอกอย่างแน่นอน โดยทางลูกชายที่เป็นผู้ใหญ่บ้านนั้นได้บอกกับตนว่ากลุ่มนี้เคยออกอาละวาดในพื้นที่ของ อ.ปงมาแล้วด้วย ทำให้ตนรู้สึกเสียดายเงินที่สูญเสียไปอีกทั้งบ้านก็ได้รับความเสียหายจากการทาสีครั้งนี้อย่างมาก ด้านนายเฉลิมชัย มีสุข ผู้ใหญ่บ้านแฮะ ม.5 ได้กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากที่ตนได้ทราบข่าวก็ได้รีบมาดูและต้องตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น […]

(มีคลิป) โอลีฟ เตือนภัย หลังโดนมนุษย์ป้าหลอกทอนเงินผิด

โอลีฟ แม่ค้าโตเกียว โดนจนได้ มนุษย์ป้า อาศัยโอลีฟกำลังชุลมุน กับการขายขนม เข้ามาสั่งขนม 200 บาท อ้างให้แบงก์พัน กว่าจะรู้ตัวป้า เผ่นไปแล้ว ก็ระวังเรื่องนี้มาตลอด มาเจอกับตัวเองจนได้ ฝากเตือน แม่ค้าพ่อค้าให้ระวัง เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 66 นางสาวอรัญญา อภัยโส หรือโอลีฟ แม่ค้าขนมโตเกียวเนยกรอบ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้มาเปิดบูธ ขายขนมโตเกียวเนยกรอบ งาน “ผู้หญิงทำมาหากิน” ที่เซ็ลทรัลพระราม 2 กทม. ซึ่งปรากฏว่า มีลูกค้าเข้ามาซื้อขนมตนจำนวนมาก และได้มีป้าคนหนึ่ง ใส่เสื้อสีขาวกางเกงยีนส์เดินเข้ามาสั่งซื้อขนมโตเกียวกับตน ป้าบอกว่าซื้อ 200 บาท ช่วงนั้นชุลมุนมาก และเพื่อนของตนก็ไม่มีใครอยู่ โดยมีลูกค้าก่อนหน้านั้นซื้อขนมโตเกียวเนยกรอบและให้แบงก์พันตนและตนก็ทอดให้เรียบร้อย ส่วนป้าดังกล่าวก็ได้บอกกับตนว่า เขาได้จ่ายแบงก์พันให้กับโอลีฟ ไปแล้ว โอลีฟ ด้วยความรีบ เพราะลูกค้ารุมเยอะมาก เลยได้ทอดเงินให้ป้า ดังกล่าวไป 800 บาท […]

“ปลัดจอมแฉ” เตือนคนต่างด้าวอย่าหลงเชื่อทำบัตรประชาชน

เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 ทาง “ปลัดจอมแฉ” นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโฆษณาเชิฝญชวนในกลุ่มคนต่างด้าวว่าสามารถช่วยเหลือในการทำบัตรประจำตัวผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียนให้ได้ สำหรับคนต่างด้าวที่ไม่มีบัตร แลกกับการเรียกเก็บเงินค่าใช้จ่ายรายละ 40,000-70,000 บาท และให้ไปทำบัตรที่อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยคนต่างด้าวกลุ่มหนึ่งได้นำเรื่องมาสอบถามและปรึกษาตัวเองว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริงหรือไม่อย่างไร เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการหลอกลวงและทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้นจากการที่ตัวเองตรวจสอบจากภาพถ่ายตัวอย่างบัตรดังกล่าวที่ระบุบ้านเลขที่ว่าอยู่ในอำเภอเวียงแหง พบว่าเป็นบัตรปลอมอย่างแน่นอน เพียงแค่ตกแต่งนำชื่อและภาพถ่ายของบุคคลใส่เข้าไปเท่านั้น ส่วนหมายเลขบัตรและลักษณะบัตร รวมทั้งรายละเอียดต่างๆ ของบัตรไม่ถูกต้อง นอกจากนี้จากการตรวจสอบฐานข้อมูลตามที่อยู่ในบัตรพบว่าบ้านเลขที่ดังกล่าวมีอยู่จริง แต่ไม่มีรายชื่อบุคคลตามบัตรตัวอย่างอยู่ในทะเบียนบ้าน จึงเชื่อได้ว่าการโฆษณาเชิญชวนดังกล่าวเป็นการหลอกลวงอย่างแน่นอนและแจ้งเตือนว่าอย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ทั้งนี้ ปลัดอำเภอสันทราย กล่าวด้วยว่า กรณีการหลอกลวงลักษณะดังกล่าวที่มีการแอบอ้างเจ้าหน้าที่รัฐว่าสามารถช่วยทำบัตรประจำตัวฯได้นั้น เป็นขบวนการที่ทำกันมานานแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายที่เป็นกลุ่มคนต่างด้าวที่ต้องการมีบัตรประจำตัวฯ ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่ออยู่เสมอ เนื่องจากขบวนการที่ก่อเหตุทราบจุดอ่อนและช่องโหว่ดีว่า สำหรับคนต่างด้าวแล้วการมีบัตรประจำตัวฯ มีความสำคัญจำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตในประเทศไทย เพราะทำให้มีสิทธิในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่าง จึงมักจะหลงเชื่อได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการอ้างเจ้าหน้าที่รัฐสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่แน่ชัดว่าที่จริงแล้วมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมขบวนการด้วยหรือไม่ ขณะที่เมื่อผู้เสียหายทราบว่าถูกหลอกลวงก็มักจะไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีหรือเป็นพยาน จึงทำให้ไม่สามารถเอาผิดทางกฎหมายกับขบวนการดังกล่าวได้และลอยนวลก่อเหตุซ้ำซาก ซึ่งกรณีนี้ตัวเองเตรียมนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้สืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ขณะที่หากมีผู้เสียหายก็จะแจ้งความดำเนินคดีฐานความผิดฉ้อโดงด้วย นอกจากนี้เตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อเสนอขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ช่วยตรวจสอบด้วย […]

มิจฉาชีพฉวยโอกาส แอบอ้างรับบริจาคเงินช่วย กรณีน้องดอมเสียชีวิต

ฉวยโอกาส แอบอ้างรับบริจาค เงินช่วย กรณีน้องดอมเสียชีวิต ด้าน อบจ.เชียงรายขึ้นประกาศเตือน จากกรณีที่ นายดวงเพชร พรหมเทพ หรือน้องดอม อายุ 17 ปี 1 ใน 13 คนในทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง ได้เสียชีวิตขณะเดินทางไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษตามทุนของมูลนิธิซิโก้ ได้มีประกาศจากทางมูลนิธิว่าจะไม่มีการเปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือใดๆ เพื่อป้องกันการแอบอ้างของมิจฉาชีพ ทั้งนี้ทางโค้ชซิโก้รับจะพยายามประสานงานเพื่อนำร่างของน้องดอมกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตามความประสงค์ของครอบครัวน้องดอมให้ได้ ล่าสุดทางเพจขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ได้เผยแพร่ข้อคาวมประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมอีกว่าครอบครัวของน้องดอมไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งนางอาทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ได้มอบหมาย นายฐิติวัชร ไลศิริพันธ์ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ลงพื้นที่ไปเยี่ยมครอบครัวของน้องดอมที่ อ.แม่สาย เพื่อให้กำลังใจครอบครัวของน้องดอมนำโดยนางธนพร พรหมเทพ ผู้เป็นมารดา นางธนพรได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้มีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวน้องดอมจำนวนมาก ซึ่งครอบครัวขอแจ้งว่าไม่มีการเปิดรับบริจาคแต่อย่างใด จึงได้ประชาสัมพันธ์มาเพื่อให้ประชาชนได้ทราบ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

1 2 3 4