หนังคนละม้วน หนุ่มไปรษณีย์ขอพื้นที่สื่อแจงความจริงหลังถูกแม่ค้าร้องศูนย์ดำรงธรรมแอบเปลี่ยนสร้อยทอง ผมต่างหากถูกหลอก เผยชวนลงทุนทองแท้แต่กลับได้ทองปลอม พร้อมเปิดคลิปแม่ค้าบุกทำร้ายถึงที่ทำงาน
หลังจากเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.66) นางสาวกรรณิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี อาชีพแม่ค้าขายอาหารและผลไม้ เข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหลังถูกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ริมแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง โดยมีการกล่าวหาว่าแม่ค้าได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาท ไปจำนำไว้เป็นเงิน 75,00 บาท แต่สุดท้ายกลับพบว่าเป็นทองปลอม โดยแม่ค้ายืนยันว่าได้นำสร้อยคอทองคำของจริงไปจำนำ แต่ถูกนำไปเปลี่ยนเป็นทองอีกเส้นหนึ่งโดยพลการ
ล่าสุดในช่วงสายของวันนี้ (23 มี.ค.66) นายตรีเทพ (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์แม่ริม ที่ถูกอ้างถึงนำหลักฐานเข้าชี้แจงกับนายณัฐวุฒิ แก้วบัวระพา ปลัดอำเภอแม่ริม ระบุว่ารู้จักกับนางสาวกรรณิกามานาน โดยนางสาวกรรณิกาได้มาชักชวนให้ลงทุนรับจำนำทองเพื่อให้ได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 จึงได้รับจำนำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทจากนางสาวกรรณิกาพร้อมกับโอนเงินให้ 75,000 บาท หลังจากนั้นก็ได้รับดอกเบี้ยเดือนละ 2,000 บาท โดยทองเส้นนี้เมื่อได้มาก็เก็บเอาไว้ที่บ้านตลอดและยืนยันว่าไม่ได้นำไปเปลี่ยนลาย
ต่อมาระหว่างจำนำได้ขอยืมทองไปใช้เป็นของหมั้นในงานแต่งงานในเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งนางสาวกรรณิกาก็รับทราบและบอกว่าเอาไปสิ เมื่อเสร็จพิธีก็ถอดเก็บไว้เหมือนเดิม
หลังจากนั้นตนเองต้องการใช้เงินและอยากได้เงินที่ลงทุนคืน นางสาวกรรณิกาได้บอกว่าลูกค้าปล่อยทองให้หลุดจำนำแล้ว ให้นำไปขายเอาทุนคืนได้เลย ต่อมาจึงนำไปขายที่ร้านทองหน้าอำเภอแม่ริมและทำให้ทราบว่าทองสร้อยทองเส้นนี้เป็นทองปลอม จึงได้สอบถามความจริง แต่นางสาวกรรณิกาไม่ยอมรับ กลับโยนความผิดมาบอกว่าตนเองแอบเอาทองไปเปลี่ยนมาก่อนหน้าซึ่งไม่เป็นความจริง เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองเสียหายเพราะต้องเสียเงินไป 75,000 บาทแลกกับทองปลอม จึงขึ้นโรงพัก สภ.แม่ริม แจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวกรรณิกา
นอกจากได้ทองปลอมแล้ว ตนเองยังต้องเสียเงินไปฟรีๆ อีก 75,000 บาท โดยระหว่างที่จำนำเส้นแรกและความยังไม่แตก นางสาวกรรณิกาได้ชักชวนลงทุนรับจำนำทองเส้นที่สองเป็นเงิน 75,000 บาท ตนเองก็โอนเงินไปให้หวังได้ดอกเบี้ย แต่จนถึงวันนี้ก็ยังก็ยังไม่ได้ดอกเบี้ยและไม่ได้จับทอง ทำให้ในตอนนี้ตนเองเสียเงินไปแล้วรวม 150,000 บาท ทำให้ต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี
นายตรีเทพ ยังบอกด้วยว่าหลังแจ้งความนางสาวกรรณิกาได้โมโหบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายตนเองถึงที่ทำงานเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ก็ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้กับปลัดอำเภอได้ดู เรื่องที่เกิดขึ้นยืนยันว่าตนเองเป็นผู้เสียหาย เสียทั้งเงินเสียทั้งชื่อเสียงหน้าที่การงานจากการที่นางสาวกรรณิกาไปกล่าวอ้างกับสื่อ แต่หลังจากนี้หากศูนย์ดำรงธรรมเรียกมาเจรจาและนางสาวกรรณิกายอมทำสัญญาใช้หนี้ก็จะยอมถอนแจ้งความ
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ แก้วบัวระพา ปลัดอำเภอแม่ริม บอกว่าได้ฟังความจากสองฝ่ายแล้ว ยังสรุปไม่ได้ว่าใครพูดจริงพูดเท็จเพราะไม่มีหลักฐานมายืนยัน หลังจากนี้จะเชิญสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยเพื่อหาทางออก อยากให้คุยกันให้จบตกลงกันให้ได้ เพราะหากยืนยันดำเนินคดีก็จะไปเป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะเมื่อความจริงปรากฏจะไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกงเท่านั้น แต่จะต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหาแจ้งความเท็จกับเจ้าพนักงาน
อ่านข่าวเพิ่มเติม : (มีคลิป) ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แม่ค้าสุดงง! เอาทองจำนำทอง กลับถูกฉ้อโกง
ร่วมแสดงความคิดเห็น