44507

รวบชายส่งคนไทยข้ามไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 เวลา 17.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ.ศปอส.ตร.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2/หัวหน้าชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พร้อมกำลังร่วมกันสืบสวน และปฏิบัติการทลายเครือข่ายส่งคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยปฏิบัติการเชิงรุก ให้เจ้าพนักงานตำรวจอำพรางตัวเป็นสายลับ สมัครทำงานประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรู้วิธีกระทำความผิดของแก๊ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอันดับหนึ่ง เพราะปัจจุบันเป็นอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนไทยมากที่สุด คดีนี้เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง และ พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี […]

ทลาย 14 รังคอลเซ็นเตอร์ พบเครื่องมือเพียบ!

หลังจากที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ และ AIS ร่วมกันทำงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึง กสทช. เข้าจับกุมมิจฉาชีพ ทลายแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ โดยตรวจค้น 8 จุด ทั่วกรุงเทพฯ ในพื้นที่ เขตบางนา ห้วยขวาง และลาดพร้าว พร้อมตรวจยึดหลักฐานเครื่องสัญญาณ IP PBX ที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้เป็นเครื่องมือในการฉ้อโกงประชาชนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม 2565) ล่าสุด เมื่อวันที่ (11 ก.ค. 2565) ในพื้นที่ ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดย พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. ได้สั่งการให้ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำโดย พล.ต.ต.รณชัย จินดามุข ผบก.สอท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.4 สอท.1 ได้นำกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ เข้าตรวจค้นขยายผลกระจายสัญญาณแก๊งค์คลอเซ็นเตอร์ IP BPX (Internet Protocol […]

ไทยลงนาม MOU ร่วมกัมพูชา ปราบ call center

วันนี้ (11 ก.ค. 65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายเจีย วันเดค (Mr. Chea Vandeth) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ร่วมหารือทวิภาคีและลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam ณ กระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคม กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีคณะทำงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศเข้าร่วม นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หลังจากการลงนาม MOU ครั้งนี้ จะมีการตั้งคณะทำงานที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันระหว่างไทยและกัมพูชา โดยมีกระบวนการทำงานจากตรวจสอบจากข้อร้องเรียนว่ามีคนร้ายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่จุดไหน จะมีการร่วมกันเข้าจับกุมปราบปรามคนร้าย ส่งกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีทราบพิกัดการกระทำผิดจะมีการปิดกั้นสัญญาณและเข้าจับกุม “การตั้งคณะทำงานร่วมจะทำให้การระบุพิกัด การดำเนินคดี การส่งผู้ร้ายข้ามแดนทำได้เร็วขึ้น เชื่อว่าถ้ากระบวนการนี้สำเร็จ แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทำงานได้ยากขึ้นและจะหมดไปในที่สุด” นายชัยวุฒิ กล่าว นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังกล่าวขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมของกัมพูชา ที่ให้ความร่วมมือและใส่ใจในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอย่างมาก ทำให้ไทยสามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ เป็นผลมาจากความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมของทั้งสองประเทศ นายชัยวุฒิ ย้ำว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่ในระดับกระทรวงระหว่างประเทศเท่านั้น แต่เป็นการประสานงานกันตั้งแต่ในระดับนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทางนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ […]

ทลาย 4 แก๊งใหญ่คอลเซ็นเตอร์ รวบส่งกลับไทย

DE ร่วมกับ ตำรวจ PCT ประสานกัมพูชาทลาย 4 แก๊งใหญ่คอลเซ็นเตอร์ รวบผู้ต้องหา 74 คน ส่งกลับไทยดำเนินคดี วันนี้ (11 ก.ค.65) เวลา 09.00 น. ที่กรุงพนมเปญ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร.( PCT) เปิดเผยว่า ​ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เดินทางมาพร้อมกับคณะของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อร่วมหารือและทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมาทางไซเบอร์ แบบทวิภาคีกับรัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งติดตามผลการปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แก๊งใหญ่ ผู้ต้องหา 74 คน เพื่อนำตัวไปดำเนินคดียังประเทศไทยต่อไป พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ส่งชุดปฏิบัติการ PCT จำนวนกว่า 20 นาย ชุดที่ 1 […]

สั่งปรับเครือข่ายมือถือ 1 ล้าน หากไม่ลงทะเบียนซิมการ์ด

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ยกระดับแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งค่าปรับผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือไม่ต่ำกว่าวันละ 1 ล้านบาท หากไม่สามารถจัดการการลงทะเบียน SIM Card ให้ถูกต้องตามประกาศ กสทช. ภายใน 30 วัน ซึ่งผู้ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ที่ลงทะเบียนซิมการ์ดมากกว่า 5 เลขหมาย จะต้องไปแสดงตนที่ศูนย์บริการของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพนำซิมไปใช้ในการหลอกลวงประชาชน มากไปกว่านั้น คณะทำงานพหุภาคีเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊งโทรศัพท์ (Call Center) และข้อความสั้น (SMS) หลอกลวง ได้มีมติเสนอแนวทางการแก้ปัญหา คือ 1)ให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 1 (ไม่มีโครงข่ายเป็นของตัวเอง) และแบบที่ 3 (มีโครงข่ายเป็นของตนเอง) หาวิธีการเพิ่มเครื่องหมาย + นำหน้าทุกสายที่มีโทรมาจากต่างประเทศ 2)ให้เพิ่มช่องทาง USSD ให้ประชาชนสามารถเลือกไม่รับสาย โทรเข้าจากต่างประเทศตามความสมัครใจ 3)พัฒนาแอปพลิเคชันในการตรวจสอบและสกรีนเบอร์ ที่มีแนวโน้มจะเป็นเบอร์มิจฉาชีพ ลักษณะเดียวกับ Whoscall เพื่อป้องกันเบอร์ที่น่าสงสัยโทรเข้ามารบกวน โดยจะพัฒนาจากแอปพลิเคชัน “กันกวน” เดิมของ กสทช. 4)ให้ กสทช. […]

ครม.เคาะร่าง MOU ไทย-กัมพูชา ปราบแก๊ง Call Center

(5 ก.ค.65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือด้านการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam เพื่อกำหนดกรอบความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ประเทศ ได้ใช้มาตรการที่เหมาะสมและมีความสอดคล้องกับกฎหมายภายในของทั้ง 2 ประเทศ แลกเปลี่ยนข้อมูลสำหรับปราบปรามผู้กระทำผิด ตลอดจนการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งไทยและกัมพูชา เพื่อผลักดันมาตรการต่างๆ ร่วมกัน เน้นย้ำนโยบายที่รัฐบาลถือว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นเร่งด่วน เนื่องจากมีประชาชนชาวไทยได้รับผลกระทบและเสียหายจากการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ในลักษณะดังกล่าวเป็นจำนวนมาก สาระสำคัญของความตกลงระหว่างไทยและกัมพูชา จะมีกิจกรรมที่ผ่านการตัดสินใจร่วมกัน ดังนี้ 1)แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิค และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการปราบปรามแก๊ง Call Center และ Hybrid Scam ภายใต้ระบบและกรอบการทำงานที่ดำเนินงานร่วมกัน อาทิ กลไกสนับสุนทีนส่งเสริมส่งผ่านข้อมูลข้ามพรมแดน 2)แต่งตั้งผู้ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการสืบหาหลักฐานในไทย และกัมพูชา และขยายการสืบสวนเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำความผิดโดยหลักฐานดังกล่าวอาจจะรวมถึงข้อมูลที่อยู่ผู้ใช้บริการการสื่อสารทางเสียงผ่านอินเตอร์เน็ต และบันทึกการใช้โทรศัพท์ของผู้กระทำความผิดที่ได้กระทำระหว่างก่ออาชญากรรมทั้ง 2 ประเทศ 3)ประสานงานและอำนวยความสะดวกในกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนตามสนธิสัญญาระหว่างไทยและกัมพูชาว่าด้วยการส่งผู้รายข้ามแดน […]

มุกใหม่! อ้าง DSI หลอกโหลดแอปป้องกันการโกง

มุกใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แนะนำให้ติดตั้งแอปพลิเคชันป้องกันการถูกโกงทุกรูปแบบ หากเหยื่อหลงเชื่อตามที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์บอก อาจถูกเข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ เช่น ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลรหัสผ่าน และข้อมูลบัญชีธนาคาร หากติดตั้งแปพลิเคชั่น ตามคำแนะนำจากเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่รู้จัก เสี่ยงที่จะถูกหลอกให้ติดตั้งโปรแกรม Remote Desktop ทำให้โทรศัพท์ของเหยื่อถูกมิจฉาชีพควบคุมเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ข้อมูลส่วนตัว รูปถ่าย และแอปพลิเคชันธุรกรรมทางการเงิน ที่จะส่ง sms มาขอ otp ตัดเงินจากบัตรเครดิต เดบิต หรือโอนเงินออกจนหมดบัญชี สอบสวนกลาง (CIB) จึงขอเตือนภัยประชาชน ขอให้ระมัดระวังในการติดตั้งแอปพลิเคชันลงในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันกลโกงของมิจฉาชีพ หากพบเห็นเบาะแส หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพในลักษณะดังกล่าว สามารถร้องเรียนผ่าน https://complaint.ocpb.go.th/ หรือช่องทาง Mobile Application แอปพลิเคชัน OCPB Connect

ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เริ่มลดลงหลังมี PDPA

“ชัยวุฒิ” รมว.ดีอีเอส แนะประชาชนรู้ทันภัยหลอกลวงทางโซเชียล อย่าเชื่อ อย่าโอน เผยยอดผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์แตะหลักหมื่นรายต่อเดือน เชื่อการบังคับใช้ PDPA ช่วยลดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ปิดช่องทางการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัวประชาชน เพราะมีข้อกฎหมายชัดเจนเอาผิดองค์กร-ร้านค้าที่ปล่อยข้อมูลให้มิจฉาชีพ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ปัจจุบันการฉ้อโกง หลอกลวง และการกระทำผิดกฎหมายออนไลน์ ถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศและประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก โดยมิจฉาชีพเข้าถึงเหยื่อได้มากขึ้น จากการที่โครงสร้างพื้นฐานด้านอินเทอร์เน็ตเข้าถึงครอบคลุมทุกหมู่บ้านทุกชุมชน และประชาชนมีการใช้มือถือสมาร์ทโฟนแตะหลัก 100 ล้านเครื่อง เข้าถึงอินเทอร์เน็ตกว่าร้อยละ 70 ทำให้มิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้หลอกลวงต้มตุ๋นข่มขู่ด้วยกระบวนการต่างๆ มากมาย ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกระทรวงดิจิทัลฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดแก้ไขปัญหา โดยในส่วนของกระทรวงฯ ได้นำเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Platform) และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้ว เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 64 โดยแพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีการทำธุรกิจออนไลน์มีการซื้อขาย มีการโอนเงิน ต้องมาจดแจ้งการประกอบธุรกิจ และจะมีมาตรการกำกับดูแลที่ต้องปฏิบัติตาม “เช่น ลูกค้าที่มาใช้บริการต้องมีการพิสูจน์ตัวตน ยืนยันตัวตนทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย ระบบการจ่ายเงิน การโอนเงินก็ต้องใช้ระบบการยืนยันตัวตน […]

1 2 3 4