“พระธาตุแช่แห้ง” รากเหง้าสุโขทัย สู่สถาปัตยกรรมล้านนา
พระธาตุแช่แห้ง โบราณสถานศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองน่าน ตั้งตระหง่านบนเนินดอยภูเพียงแช่แห้ง ห่างจากตัวเมืองน่านเพียงไม่กี่กิโลเมตร องค์พระธาตุมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวล้านนาในฐานะ พระธาตุประจำปีเถาะ ตามคติความเชื่อเรื่องการสักการะพระธาตุประจำปีเกิด ผู้ที่เกิดในปีนักษัตรนี้จึงนิยมเดินทางมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากจะเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธา พระธาตุแช่แห้งยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านของอิทธิพลทางศิลปกรรม ตั้งแต่ยุคที่เมืองน่านยังมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับอาณาจักรสุโขทัย จนกระทั่งถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของล้านนา ซึ่งส่งผลต่อรูปแบบขององค์พระธาตุที่เห็นในปัจจุบัน หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่า พระธาตุแช่แห้งสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1896 โดย พญาการเมือง เจ้าผู้ครองเมืองปัว (เมืองน่านในยุคแรก) พระองค์ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากพระมหาธรรมราชาที่ 1 (พระยาลิไท) กษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งทรงมอบให้เป็นพุทธบูชา หลังจากที่พญาการเมืองเดินทางไปช่วยสร้างวัดหลวงอภัยในเขตสุโขทัย ด้วยความสำคัญของพระบรมธาตุ พญาการเมืองจึงโปรดให้สร้างพระธาตุเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ ดอยภูเพียงแช่แห้ง ตามพงศาวดารกล่าวว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาพักที่บริเวณนี้ และเสวยผลสมอที่แช่น้ำจนเปียกชุ่ม จึงเป็นที่มาของชื่อ “แช่แห้ง” แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดเกี่ยวกับรูปแบบดั้งเดิมของพระธาตุแช่แห้งในช่วงแรกเริ่ม แต่จากบริบททางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมของเมืองน่านในยุคนั้น นักวิชาการเชื่อว่าพระธาตุอาจได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย ซึ่งนิยมสร้างเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์หรือเจดีย์ช้างล้อม อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่เห็นในปัจจุบันเป็นผลจากการบูรณะครั้งใหญ่ในยุคที่เมืองน่านตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรล้านนา เมืองน่านถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของล้านนาในช่วงรัชสมัยของ พญาติโลกราช (พ.ศ. 1993 – 2101) ซึ่งเป็นยุคที่ล้านนามีอำนาจรุ่งเรืองที่สุด การปกครองของล้านนานำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านการปกครอง วัฒนธรรม และศิลปกรรม พระธาตุแช่แห้งได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ โดยมีการสร้างครอบทับเจดีย์เดิมให้มีลักษณะเป็น เจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนา […]