เอไอเอส ประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz งวดที่ 7

เอไอเอส ชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz งวดที่ 7 ก้าวสู่องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนกว่า 30,000-35,000 ล้านบาท ในการขยายศักยภาพ 5G เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับคนไทยด้วยนวัตกรรม Metaverse

18 กรกฎาคม 2565 : นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ในฐานะผู้บริหาร บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (เอดับบลิวเอ็น) ผู้ได้รับจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในมูลค่ารวม 75,654 ล้านบาท เป็นตัวแทนชำระค่าคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz งวดที่ 7 เป็นเงินจำนวน 8,094,978,000 บาท (แปดพันเก้าสิบสี่ล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นแปดพันบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้รับมอบ เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้ของแผ่นดินต่อไป

นายสมชัย กล่าวว่า “แผนงานการก้าวสู่องค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะหรือ Cognitive Telco ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนกว่า 30,000-35,000 ล้านบาท ในการขยายศักยภาพ 5G เพื่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับคนไทยด้วยนวัตกรรม Metaverse ที่กำลังเข้ามาสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงรองรับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร และธุรกิจดิจิทัลเซอร์วิส”

โดยนายสมชัย ย้ำว่า “เริ่มต้นในไตรมาสแรกของปีนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศยังคงเจอกับสถานการณ์ความท้าทายอย่างรอบด้านทั้งภายในและภายนอก แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราก็ยังคงเดินหน้าลงทุนขยายศักยภาพโครงข่ายของ 5G ให้เกิดประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน เพราะเราเชื่อว่าดิจิทัลเทคโนโลยี คือโครงสร้างพื้นฐานที่จะสร้างการเติบโตให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยวันนี้ AIS ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราได้ก้าวข้ามจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่มาเป็นผู้ให้บริการดิจิทัล และเรากำลังทำให้เห็นถึงศักยภาพของ AIS 5G ที่จะมาเปลี่ยนประสบการณ์ของคนไทยอีกครั้งด้วยนวัตกรรม Metaverse ที่วันนี้เราได้เชื่อมต่อโลกจริงและโลกเสมือนเข้ามาไว้ด้วยกันเป็นครั้งแรกของโลก หรือแม้แต่บริการที่ไม่เพียงจะสร้างประสบการณ์ดิจิทัลให้กับคนไทย แต่ยังสร้างโอกาสการเติบโตในรูปแบบใหม่ๆ ให้กับหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งจะมีผลกับการส่งเสริมการเติบโต Digital Economy ของประเทศด้วยนั่นเอง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น