72499

ไทยรั้งอันดับ 6 อาชญากรรมออนไลน์ทางการเงินโลก ขณะที่จีนเข้มงวดกวดขันผู้ให้บริการฉ้อโกง

ประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน 6 ประเทศที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมทางการเงินออนไลน์สูงที่สุดในโลก ประจำปี 2566 โดยข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พบว่าประเทศไทยรั้งตำแหน่งที่ 6 รองจากอินเดีย ไนจีเรีย ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ขณะเดียวกันที่ประเทศจีน สำนักงานอัยการประชาชนสูงสุดได้ประกาศมาตรการปราบปรามผู้ให้บริการ “ครบวงจร” ที่ช่วยเหลือบริษัทและผู้ประกอบการในการกระทำความผิดทางการเงิน โดยจะลงโทษผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวด แนวปฏิบัติใหม่นี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบและประเมินความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการฉ้อโกง รวมถึงส่งเสริมความโปร่งใสในภาคธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า การเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือและป้องกันไม่ให้เกิดการฉ้อโกงในวงกว้าง ขณะที่ประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในการรับมือกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับประชาชน การตระหนักถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์และการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันตนเอง เช่น การไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว การระวังเว็บไซต์และอีเมลปลอม รวมถึงการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางการเงินออนไลน์ ที่มา: กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, สำนักข่าวซินหัว #อาชญากรรมออนไลน์ #ไทย #จีน #ฉ้อโกงทางการเงิน

เตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ชำระค่าสินค้า

ตำรวจไซเบอร์ ฝากเตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ขอประชาสัมพันธ์เตือนภัยกรณีการผูกบัญชีธนาคาร บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ชำระค่าสินค้ากับแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงระมัดระวังการกรอกข้อมูลทางการเงินผ่านเว็บไซต์ปลอม หรือแอปพลิเคชันปลอมจากกรณีที่สื่อสังคมออนไลน์ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับมีผู้เสียหายผูกบัญชีธนาคารไว้กับแอปพลิเคชันขายของออนไลน์ ต่อมาทราบว่าเงินในบัญชีถูกนำไปชำระค่าสินค้าหลายรายการ ความเสียหายกว่า 50,000 บาท โดยไม่ทราบสาเหตุนั้น กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) ได้ขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งให้ความสำคัญและมีความห่วงใยต่อภัยการหลอกลวงผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และการซื้อขายของออนไลน์ โดยได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในโลกออนไลน์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่องและจริงจัง พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางป้องกันให้ประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการ ที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ “โดยทุจริต […]

ครูแพร่ห่วงเตือนภัย! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ลามไปถึงนักเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แพร่ เมื่อคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565เวลา 22.04 น. ผู้ใช้เฟชบุ๊ค ชื่อ Anusorn Prom เป็นเฟซบุ๊กของ นายอนุสรณ์ พรมรังกา ผอ.รร.รัฐราษฏร์บำรุง ต.ทุ่งกวาว อ.เมือง จ.แพร่ สังกัด สพป. แพร่ เขต 1 ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า “ระวังภัย เมื่อวานนี้..มีเด็ก (ลูก) ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งได้ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรมาหลอกเอาเงินโดยอ้าง (หลอก) ว่า เขาเป็น จนท.ตำรวจได้ตรวจพบว่า บัญชีเงินฝากของน้องมีปัญหา น่าเกี่ยวข้องกับแก๊งมิจฉาชีพฟอกเงิน ขอให้รีบดำเนินการ แจ้งความและให้ความร่วมมือกับทางตำรวจ โดยในเสียงโทรศัพท์น่าเชื่อถือมาก มีเสียงคล้ายเสียงวิทยุของตำรวจแทรกมาด้วย คล้ายเป็นเสียงในโรงพัก โดยให้เด็กถ่ายบัตร ปชช.และบัญชีเงินฝากส่งมาให้ตำรวจ (ปลอม) ด้วย เพื่อประกอบการแจ้งความและอ้างว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามมิจฉาชีพกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด จึงขอให้เด็กอย่าเพิ่งแจ้งให้ใครทราบ เพราะเดี๋ยวคนร้ายจะรู้ตัว และให้เด็กโอนเงินเพื่อประกอบการแสดงความบริสุทธิ์ด้วย เด็กก็โอนเงินจากบัญชีของตนไป จากนั้นแก๊งนี้ก็สอบถามอาชีพ/ข้อมูล ผปค. แล้วบอกให้เด็กแจ้งผู้ปกครองได้โอนเงินมาที่โรงพัก เพื่อเป็นหลักประกันการแจ้งความด้วย […]

เตือนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ ตัดต่อวีดีโอ ส่งขมขู่เรียกรับเงิน

โดนแล้วนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดู่ใต้ แจ้งเตือนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ตัดต่อวีดีโอ คล้าย 0lyfan โชว์ของลับ ส่งคลิปขมขู่เรียกรับเงิน โดยเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นกับ นายทรงพล อัชวากุล นายกเทศมนตรีตำบลดู่ใต้ ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน กลุ่มแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์จะทำทีโทรมาทั้งวีดีโอคอล และโทรศัพท์เพื่อจะให้เราหลงกลเปิดกล้องวีดีโอคอลเพื่อแคปภาพ-วีดีโอ รวมถึงไปค้นหาข้อมูลส่วนตัวทาง Facebook และ Line เพื่อนำมาจัดฉากเป็นเรื่องเป็นราว เหตุการณ์นี้ นายกฯ ทรงพล โดนนำภาพตนเองไปตัดต่อใส่คลิปแสดงหนังโป๊ (Olyfan) และโชว์ของลับ ต่างๆนานา และจะถูกส่งมายังไลน์ส่วนตัว หรือเฟสบุ๊คส่วนตัว ข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินให้กับแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ จำนวน 40,000 บาท จะส่งภาพและคลิปทั้งหมด ให้กับครอบครัวและเพื่อนๆ ประจานให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หากใครหวาดกลัวหลงกลจะเข้าทางแก๊งค์พวกนี้ ขณะนี้ทางนายกฯ ทรงพล ได้ทำการรวบรวมหลักฐานพร้อมดำเนินคดีต่อไป และฝากแจ้งเตือนพ่อแม่พี่น้องชาวน่าน คนใกล้ชิดด้วยว่าอย่าไปหลงกลเป็นเหยื่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์พวกนี้ อาจจะทะเลาะกับครอบครัว ญาติพี่น้องเพื่อนและสูญเสียเงินได้ง่าย นายกฯ ทรงพล กล่าวทิ้งท้าย ข้อความจากนายกฯ ทรงพลได้โพสไว้..ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ เพื่อนในเฟสบุ๊คของผมทุกท่านครับ วันนี้ท่านจะได้รับข้อความและคลิปลักษณะทำนองนี้ โดยคลิปดังกล่าวทำเพื่อแบล็คเมล์ผมเพื่อเรียกเงิน นอกจากนั้นแล้วเขายังจะส่งคลิปไปให้เพื่อนใน facebook […]

ห่วงแรงงานไทย ถูกหลอกทำงานต่างประเทศ

นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรณี คนไทย 27 ราย ยื่นหนังสือร้องเรียน ต่อ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ประธานคณะกรรมาธิการแรงงานวุฒิสภา ขอความช่วยเหลือเนื่องจากถูกหลอกลวงจากนายหน้าจัดหางาน ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย อ้างว่าสามารถพาไปทำงานที่ญี่ปุ่น โดยใช้ วีซ่าทักษะเฉพาะทางจนทำให้แรงงานไทยหลงเชื่อสูญเงินค่าบริการจัดหางานไปแล้วรายละ 20,000-70,000 บาท สุดท้ายถูกเลื่อนกำหนดเดินทางไปเรื่อยๆ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เป็นมูลค่าความเสียหายรวม 5 ล้านบาท และอีกหลายกรณีในการกล่าวอ้าง ชักชวน แรงงานไทยไปทำงานในต่างแดน จนสร้างความเสียหายในหลายๆ พื้นที่ กรณีดังกล่าวทาง นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้มอบหมายนโยบายให้กรมฯ สั่งการสำนักจัดหางานทุกพื้นที่ ดูแลสอดส่อง การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนแรงงานไทยไปหางานต่างประเทศ ทั้งนี้กรมการจัดหางานมีศูนย์ประสานการปราบปรามผู้เป็นภัยต่อคนหางาน กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ทำหน้าที่ติดตาม เฝ้าระวัง การโฆษณาจัดหางานบนสื่อโซเชียลมีเดียอย่างเข้มงวด หากพบผู้ใดโฆษณาจัดหางาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน ถือว่ามีความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ […]

สั่งกำชับหน่วยรับผิดชอบ เดินหน้าเชิงรุก ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์

“ผบ.ตร. “สั้งปรับโฉม ศปอส.ตร. กำชับหน่วยรับผิดชอบ เดินหน้าเชิงรุก ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ ทุกรูปแบบ วันที่ 30 ต.ค.65 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ลงนามในคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 468/2565 ลงวันที่ 21 ต.ค.65 เรื่อง การรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และการมอบหมายอำนาจหน้าที่ ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบ ” ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) “ เนื่องจากปัจจุบันคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการกระทำความผิดที่หลากหลายซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้การดำเนินการรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงได้ออกคำสั่งให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.65 เป็นต้นไป คำสั่งดังกล่าว มีใจความสำคัญ อาทิ ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีผู้แจ้งมาแจ้งความร้องทุกข์ หรือกล่าวโทษ ต่อพนักงานสอบสวนในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวน (Walk in), ขั้นตอนการปฏิบัติกรณีผู้แจ้งได้แจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์, การกำหนดลักษณะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้สถานีตำรวจหรือหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนรับผิดชอบทำการสอบสวน ดังนี้ […]

(มีคลิป) PCT รวบแป้งวังสมบูรณ์สาวใหญ่แก็งคอลเซ็นเตอร์

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะแก็งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดย ชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 ร่วมกับสืบสวนนครบาล และสืบสวน ภาค 2 เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่แอบกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 15.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. สั่งการพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก สส.บช.น/หน.ชุดปฏิบัติการ ศปอส.ตร. ชุดที่ 5 พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ. 2 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก สอบสวน บก.สส.ภ.2 […]

ตร.เตือน แจกของช่วยเหลือ-รางวัล แต่ให้จ่ายค่าส่งฯ สุดท้ายเชิดเงิน

ตร.เตือน ระวังมิจฉาชีพอ้างแจกของช่วยเหลือ ให้ของรางวัล แต่ให้จ่ายค่าส่ง ค่าธรรมเนียม สุดท้ายหลอกเชิดเงิน วันที่ 28 ก.ย. 2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น ด้วยในห้วงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า มีกลุ่มกลุ่มมิจฉาชีพฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยทำการโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์อ้างว่าจะแจกสิ่งของช่วยเหลือ หรือตั้งคำถามง่ายๆ ที่ใครก็สามารถตอบได้โดยตอบถูกจะได้รับรางวัล หรืออ้างเรื่องราวแจกของรางวัลต่างๆ จากนั้นเมื่อพี่น้องประชาชนหลงเชื่อติดต่อไปหาคนร้าย คนร้ายก็จะใช้กลอุบายต่างๆ ในการหลอกเอาเงินจากเหยื่อ เช่น จะต้องจ่ายค่าส่งสิ่งของเอง จะต้องจ่ายเงินค่ามัดจำ หรือจะต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียม ค่าภาษี ในการรับสิ่งของหรือรางวัล เป็นต้น จากนั้นเมื่อชำระเงินแล้ว คนร้ายก็อ้างว่าต้องใช้เวลาในการเตรียมพัสดุเพื่อจัดส่ง ประมาณ 1 ถึง 3 วัน แต่สุดท้ายปรากฏว่าไม่มีการแจกสิ่งของหรือของรางวัลดังกล่าวแต่อย่างใด และอาจปิดสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้หลอกลวงไป ทำให้มีพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากนั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนมายังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อ้างว่าจะแจกสิ่งของช่วยเหลือหรือของรางวัล แต่ให้ผู้รับชำระค่าจัดส่ง หรือค่าธรรมเนียมต่างๆ เพราะอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงหวังเอาข้อมูลส่วนตัวหรือทรัพย์สินจากท่าน ทั้งนี้ […]

ตร.เตือน QR Code สิ่งอำนวยความสะดวกที่อาจมาพร้อมภัยอันตราย

ตร. เตือน QR Code สิ่งอำนวยความสะดวกที่อาจมาพร้อมภัยอันตราย ต้องรู้ทันถึงปลอดภัย วันที่ 23ก.ย.2565 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้มีนโยบายให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนรู้เท่าทันถึงอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดนั้น ด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบพบว่าในปัจจุบันประเทศไทย ได้มีการใช้งาน QR Code กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในโลกยุคดิจิทัล เพราะเพียงแค่สแกนก็สามารถเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องพิมพ์ ที่อยู่เว็บไซต์ (URL) ยาวๆ อีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตามความสะดวกสบายก็ต้องแลกมากับความเสี่ยง โดยกลุ่มมิจฉาชีพมักจะฉวยเอาโอกาสจากการใช้ QR Code ในการทำเว็บไซต์ปลอม หรือหลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าหากพี่น้องประชาชนไม่ระมัดระวังหรือไม่สังเกต URL ที่ขึ้นมาตอนสแกน QR Code ก็อาจทำให้หลงเชื่อว่าเป็นเว็บไซต์จริง หรือแอปพลิเคชันจริง ทำให้หลงเชื่อกรอกข้อมูลส่วนบุคคล รหัสผ่าน หรือติดตั้งไวรัสคอมพิวเตอร์ลงในอุปกรณ์ของตนเอง ทำให้เกิดความเสียหายกับพี่น้องประชาชนจำนวนมากนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน ถึงวิธีการป้องกันตนเองจาก QR […]

(มีคลิป) เชียงใหม่ แฉมิจฉาชีพก็อปใบประเมินค่ารักษาไปโพสต์เรี่ยไร

โรงพยาบาลสัตว์ในจังหวัดเชียงใหม่ แฉมิจฉาชีพก็อปใบประเมินค่ารักษาไปโพสต์เรี่ยไร เตือนทาสแมวอย่าหลงเชื่อจะทำบุญไม่ได้บุญ แนะอยากช่วยเหลือควรโทรสอบถามต้นทางก่อนถูกหลอก วันที่ 22 ก.ย.65 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณี เพจ “โรงพยาบาลสัตว์หางดง 24 ชั่วโมง Hangdong Animal Hospital 24 Hr.” โพสต์เตือนภัยคนรักแมว เผยภาพบัญชีเฟซบุ๊คของมิจฉาชีพที่มีการนำภาพใบประเมินค่ารักษาพยาบาลแมวของโรงพยาบาลไปใช้โพสต์เรี่ยไรในโลกโซเชียล อ้างระดมเงินเพื่อช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลน้องแมวที่ประสบอุบัติเหตุ โดยผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค “นา รา เลย” ได้อ้างว่าแมวของป้าถูกรถชนขาหักกระดูกแตก แต่ไม่มีเงินรักษาเพราะที่บ้านต้องเลี้ยงแมวเยอะมาก ค่าใช้จ่ายวันแรก 7,000 บาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายวันอื่น โดยผู้โพสต์คนนี้อ้างว่าได้จ่ายไปแล้ว 3,000 บาท แต่ยังค้างจ่ายให้กับโรงพยาบาลอีก 4,000 บาท จึงขอเปิดรับบริจาคช่วยชีวิตน้องแมว คนละ 5 บาท 10 บาท พร้อมติดแฮชแท็กเร้าจิตใจทาสแมวว่า #คนรักน้องแมวน่าจะเข้าใจ นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้เฟซบุ๊ค Nutta Nittiwat นำภาพใบประเมินค่ารักษาของโรงพยาบาลอีกใบหนึ่งเป็นเงินประมาณ 2,100 – 2,200 บาท ไปใช้เปิดรับบริจาคอ้างว่าเจอแมวบาดเจ็บอยู่ข้างถนนและได้พาตัวมารักษาที่โรงพยาบาล บอกว่าขาดค่ารักษาอีก […]

ผอ. PCT เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชี สมัครงานออนไลน์

ผอ. PCT เตือนภัยมิจฉาชีพหลอกให้เปิดบัญชี สมัครงานออนไลน์ งานไม่ได้ เงินไม่มี กลายเป็นผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี วันนี้ (18 ก.ย.65) เวลา 09.30 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) PCT เปิดเผยกรณีมิจฉาชีพจากเพจรับสมัครงานออนไลน์หลอกเด็กนักเรียน ม.6 ให้เปิดบัญชีม้าให้ กรณีเด็กผู้หญิงรายดังกล่าว อายุ เพียงแค่ 18 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านหมอ จ.สระบุรี อยากมีรายได้เพื่อแบ่งเบาภาระพ่อแม่ เป็นค่าใช้จ่ายในการเรียน จึงได้หางานจากสื่อออนไลน์ จนพบ เพจเฟซบุ๊ก “ประกาศรับสมัครงาน” รับสมัครแอดมินเพจ ทำหน้าที่ขายสินค้าทางออนไลน์ โดยจะได้รับค่าตอบแทนวันละ 300 บาท แต่จะต้องเปิดบัญชีธนาคารผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ส่งหลักฐาน ข้อมูลส่วนตัวให้ทางเพจ เช่น รหัสบัตรประจำตัวประชาชน ภาพถ่ายบัตรประชาชน เลข OTP จากนั้นเพจดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อได้ […]

ตม.เชียงแสน ช่วยเหลือ 3 คนไทยถูกหลอกทำงานต่างแดนกลับบ้าน

ตม.เชียงแสน ช่วยเหลือ 3 คนไทยกลับบ้านหลังถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เผยสถิติ ช่วยเหลือกลับบ้านแล้ว 112 คน วัน 17 ก.ย. 65 เวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ร่วมกันกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ได้รับตัวคนไทย จำนวน 3 คน ซึ่งถูกหลอกไปทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว จากสัมภาษณ์ ได้ลักลอบเดินทางออกจากประเทศไทยเมื่อประมาณช่วงเดือน สิงหาคม 2565 โดยลักลอบออกทางช่องทางธรรมชาติด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อข้ามไปทำงานเป็น Admin เว็บพนันออนไลน์ แต่เมื่อไปถึงกลับให้ถูกบังคับทำงานลักษณะชวนให้คนมาลงทุน ในลักษณะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบังคับให้ทำยอดเงินให้เป็นไปตามเป้าหมาย เมื่อเห็นว่าไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ จึงอยากเดินทางกลับประเทศไทย โดยได้ติดต่อประสานของความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมือง สปป.ลาว ให้พาพวกตนเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งจากสอบปากคำพบว่าไม่ได้เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จึงได้ดำเนินการดำเนินคดี คนไทยทั้ง 3 คน ในข้อหา ไม่เดินทางเข้ามาและออกนอกราชอาณาจักรไม่ […]

1 2