โรงเรียนวัดเวฬุวัน จัดงาน ปัจฉิมนิเทศ และพิธีมอบเกียรติบัตรนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รุ่น นราวิชญ์ 59 และ เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ โดยมีนายประเสริฐ สุริยโต้ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเวฬุวัน เป็นประธานพิธีมอบเกียรติบัตรจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2560 ณ อาคารหอประชุม 100 ปี เวฬุวัน
นายประเสริฐ สุริยโต้ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเวฬุวัน กล่าวว่า ภารกิจของโรงเรียนคือ การพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามจุดหมายของหลักสูตรสถานศึกษาและสามารถช่วยให้นักเรียนเรียนจบการศึกษาภาคบังคับได้ ซึ่งนักเรียนทุกคนได้ใช้สถานที่ของโรงเรียนแห่งนี้ในการศึกษาเล่าเรียนมาตลอดปีการศึกษาซึ่งครูผู้สอนทุกท่านมีความมุ่งมั่นและถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนเป็นอย่างดี
ด้านผลผลิต (Out Put) เพื่อให้นักเรียน ครู และผู้ปกครองมีความรัก เชื่อมั่นในสถานศึกษาด้านผลลัพธ์(Out Comes) เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างครูและนักเรียนกับสถาบันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้นักเรียนมีความรักความศรัทธาและเกิดความภาคภูมิใจในสถานศึกษา เป้าหมาย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ร้อยละ100เกิดความรักความภาคภูมิใจ และผูกพันใน สถานศึกษา
ดังนั้น เพื่อให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่จบการศึกษาจากสถานศึกษาแห่งนี้ และไปศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาอื่น เกิดความรักความผูกพัน และเกิดความภูมิใจที่มีต่อสถาบันของตนเอง รวมทั้งคณะครูและเพื่อน ๆในสถาบันเดียวกัน ดังนั้นทางโรงเรียนจึงจัดตั้งโครงการนี้เมื่อสิ้นปีการศึกษาให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อีกทั้งยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพอันอบอุ่นระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง
โรงเรียนจึงได้จัดงาน ปัจฉิมนิเทศ และพิธีมอบเกียรติบัตรนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 รุ่น นราวิชญ์ 59 ขึ้นมีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษา115 คนชาย 63 คน หญิง52 และ นอกจากนี้ยังมีพิธีมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ ให้นักเรียนเกียรติบัตรดีเด่นกลุ่มสาระภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ด้านดนตรี ด้านกีฬา คอมพิวเตอร์ ศิลปศึกษา ผู้มีจิตสาธารณะ ผู้มีมารยาทดี คณะกรรมการสภานักเรียนอีกด้วย
นางสาวอรรถวดี ศิริมงคล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 ตัวแทนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กล่าวแสดงความรู้สึก ในโอกาส วันปัจฉิมนิเทศ แทนเพื่อนๆชั้นมัธยมศึกษาปีที่๓ รุ่น “นราวิชญ์ “ดิฉันเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนวัดเวฬุวัน ในชั้นอนุบาลปีที่ 1 นับถึงวันนี้เป็นเวลาถึง 11 ปี จึงไม่ต้องถามว่าดิฉันมีความรักและผูกพันกับโรงเรียนวัดเวฬุวันมากเพียงใด แม้หลับตาเดินดิฉันก็รู้ ว่าดิฉันเดินไป ณ จุดใดในบริเวณโรงเรียนวัดเวฬุวัน แต่ถ้าจะถามว่าดิฉันมีความพึงพอใจ ภาคภูมิใจและประทับใจอะไรในความเป็นเวฬุวัน ก็สามารถตอบได้เลยว่าดิฉันประทับใจในความ-มุ่งมั่นพัฒนาโรงเรียนของผู้บริหาร ประทับใจในความรัก ความห่วงใจ ของคณะครูทุกๆท่าน ประทับใจในความรักใคร่ ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันของเพื่อน
ในช่วงที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนวัดเวฬุวัน ดิฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่ประธานนักเรียน เคยเป็นคณะกรรมการสภานักเรียน และได้รับเลือกให้ทำหน้าที่หัวหน้าห้อง ซึ่งดิฉันได้ทำหน้าที่เหล่านั้นด้วยความเต็มใจ ดิฉันดีใจที่ดิฉันและเพื่อนๆ มีส่วนร่วมสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียน ได้ทำประโยชน์ให้โรงเรียน และได้ร่วมกิจกรรมกับโรงเรียนอย่างเต็มที่ตามเวลาที่กำหนด แต่เมื่อถึงเวลาที่ดิฉันและเพื่อนๆ จำต้องจากโรงเรียนวัดเวฬุวันไป ก็อดเสียดาย และอดใจหายไม่ได้ ยิ่งเมื่อคิด ดูว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่พวกเราตั้งใจจะทำเพื่อโรงเรียนแต่ก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องจากโรงเรียนแห่งนี้ไป ก็ยิ่งเสียใจจึงอยากกล่าวกับคุณครูทุกๆท่านว่า แม้พวกเรา นราวิชญ์ จะก้าวออก ไปจากรั้วม่วงขาวนี้แล้ว พวกเราก็จะกลับมาอีก กลับมาเพื่อนำเอาสิ่งดีงามที่เรามีโอกาสออกไปเผชิญมาเล่าสู่ บอกกล่าวแก่น้องๆ และกลับมาช่วยพัฒนาโรงเรียนวัดเวฬุวันท้ายสุดนี้ ดิฉันขอกราบขอบพระคุณคุณพ่อ คุณแม่ที่ให้โอกาสพวกเราส่งพวกเราให้เข้ามาอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ กราบขอบพระคุณคุณครูทุกๆท่าน ที่เฝ้าอบรมสั่งสอน ให้ทั้งความรู้และคุณธรรม สร้างพวกเราให้เป็นคนดี คนแกร่ง และคนเก่ง พวกเราขอสัญญาว่า จะนำเอาวิชาความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตนอกรั้วโรงเรียนวัดเวฬุวันต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น