กลุ่มสี่ล้อแดง ยื่นหนังสือถึงศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อดำเนินคดีกับขนส่ง ในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ดำเนินการกับรถอูเบอร์ และแกร็บคาร์

ช่วงสายเวลาประมาณ 10.30 น.วันที่ 20 เม.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าอาคารศาลปกครอง จ.เชียงใหม่ นายสมบัติ ศิริ แกนนำกลุ่มผู้ขับรถสี่ล้อแดง จำนวน 2,500 คัน ใน จ.เชียงใหม่ ได้นำกลุ่มตัวแทนผู้ขับรถสี่ล้อแดง จำนวนประมาณ 20 คน เดินทางมาชุมนุมและยื่นหนังสือที่ศาลปกครองฯ เพื่อขอให้ดำเนินการกับทางขนส่ง หลังจากที่ปล่อยปละละเลย หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในมาตรา 157 ที่ไม่ดำเนินการกับรถอูเบอร์ และแกร็บคาร์ อย่างชัดเจน

พร้อมขอให้ทางศาลดำเนินการกับบริษัท อูเบอร์ และแกร็บคาร์ โดยให้มีการหยุดใช้แอพพลิเคชั่นในประเทศไทย หลังพบว่ามีการออกมาโฆษณาเชิญชวน ชักชวนตามเว็บไซต์ แหล่งโซเชียลเฟชบุ๊ค และไลน์ จำนวนมาก จนกว่าจะมีการดำเนินการให้ชัดเจนที่ให้อูเบอร์ แกร็บคาร์ เข้ามาในประเทศได้อย่างถูกต้อง เพราะปัจจุบันทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อวิชาชีพผู้ขับรถยนต์สาธารณะ และทำให้รายได้จากค่าครองชีพของคนขับรถรับจ้างลดลง จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

โดยทาง นายสมบัติ ศิริ แกนนำกลุ่มผู้ขับรถสี่ล้อแดง กล่าวว่า การเดินทางมายื่นเรื่องกับทางศาลปกครองในวันนี้สืบเนื่องจาก ตนเป็นตัวแทนของกลุ่มรถสี่ล้อแดงเชียงใหม่ 2,500 คัน และยังอยู่ในสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ด้วย ได้นำตัวแทนจำนวน 15 คน เดินทางมาที่ศาลปกครองเชียงใหม่ เพื่อมายื่นหนังสือถึงศาลปกครอง ขอฟ้องกรมการขนส่ง หรือขนส่งจังหวัด หลังจากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในมาตรา 157 ไม่จัดการกับรถอูเบอร์ และแกร็บคาร์ อย่างเด็ดขาด

ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการรักษาสิทธิของประชาชน ที่ประกอบอาชีพอย่างถูกต้อง เพราะรถสี่ล้อแดงและรถแท็กซี่ในประเทศมีจำนวนมาก เฉพาะใน จ.เชียงใหม่ มีรถสี่ล้อแดงกว่า 2,500 คน ยังไม่นับรวมรถแท็กซี่อีก ได้รับผลกระทบจากการที่รถอูเบอร์ และแกร็บคาร์ มาวิ่งรับลูกค้า ทำให้รายได้ลดลง ทั้งที่รถสี่ล้อแดงก็ปฏิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งกฎหมายออกมาให้รถสี่ล้อแดง เก็บเงินค่าโดยสารได้คนละ 30 บาท รถบางคันก็ยังเก็บอัตราเท่าเดิมคือคนละ 20 บาท

แต่เหตุการณ์ที่พบเจอคือ กลุ่มลูกค้าเมื่อเรียกรถสี่ล้อแดงก็จะบอกว่าราคานี้แพง จากนั้นก็จะไปเรียกอูเบอร์ หรือแกร็บคาร์แทน เพราะเขาคิดในอัตราที่ถูกกว่า หากผู้โดยสารมา 3 คน จะเสียรวมแล้ว 90 บาท แต่ทางอูเบอร์ หรือแกร็บคาร์ เสียเงินแค่ 40 – 50 บาท ทำให้คนหันไปใช้บริการ เพราะเขาวิ่งเพื่อทำรอบ และได้เงินจากบริษัทฯ ต่างประเทศ เมื่อรถสี่ล้อแดงทำตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนำรถเข้าระบบขนส่งสาธารณะอย่างถูกต้อง นำรถเข้าสู่กระบวนการอบรมความรู้มาตรฐาน ในการรับส่งผู้โดยสาร ใบอนุญาตขับขี่ และการทำรถให้ได้มาตรฐานตามขนส่ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง แต่กลับถูกรถบ้าน หรือรถป้ายดำ ที่ใช้แอพพลิเคชั่นจากต่างประเทศมาแย่งลูกค้า

รายได้แต่ละวันนั้นก็ได้ประมาณ 700 – 800 บาท หากหักค่าน้ำมันแล้วก็เหลือเพียง 100 – 200 บาท ที่นำไปดูแลครอบครัว ดังนั้นการเดินทางมาครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการเรียกร้องสิทธิของผู้ประกอบการ หรือคนขับรถสี่ล้อแดง และรถแท็กซี่ พร้อมให้ผู้เกี่ยวข้องซึ่งก็คือกรมการขนส่งทางบก และขนส่งจังหวัด จัดการกับรถอูเบอร์ และแกร็บคาร์ อย่างเด็ดขาด เพราะถือเป็นรถที่ผิดกฎหมายของกรมการขนส่งอยู่แล้ว

แกนนำกลุ่มฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะที่บริษัทที่ใช้ชื่อว่า อูเบอร์ และแกร็บคาร์ เป็นบริษัทต่างประเทศ ได้เข้ามาทำมาหากินโดยเรียกผ่านแอพพลิเคชั่น ถึงกฎหมายจะบอกว่าแอพพลิเคชั่นไม่ผิด แต่คนที่นำมาใช้ในทางที่ผิดหรือใช้แบบผิดๆ มันก็ถือว่าผิดเหมือนกัน บริษัทฯ ต่างประเทศนี้ จงใจแย่งงานและทำลายอุตสาหกรรมแท็กซี่ไทย ซึ่งเป็น การดำเนินกิจการที่ผิดกฎหมาย และได้รับการต่อต้านในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งบางท่านเห็นว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ แต่ทำไมไม่ช่วยกันพัฒนาให้แท็กซี่ไทย พร้อมด้วยรถโดยสารขนาดเล็ก (รถโดยสารแดง) ได้รับการพัฒนาดีกว่าไป   ยอมรับและให้ธุรกิจแบบนี้เจริญรุ่งเรืองในประเทศไทย

คนไทยระดับรากหญ้าอีกเยอะ ที่จะต้องเดือดร้อนในการนำรถบ้านมาใช้รับ – ส่งผู้โดยสาร หรือที่เรียกว่ารถป้ายดำ ซึ่งทำการวิ่งร่อนอยู่บนท้องถนน ทำให้การจราจรติดขัดมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว หากรวมทั้งรถแท็กซี่สาธารณะ และผู้ขับรถรับจ้างป้ายดำ และที่สำคัญไม่ติดมิเตอร์ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ขั้นตอนวิธีการจ่ายเงินค่าโดยสาร ก็จ่ายผ่านบัตรเครดิต อูเบอร์เป็นบริษัทฯ ต่างประเทศ ซึ่งเป็นการนำเงินรายได้ที่ควรจะเป็นของคนไทยออกนอกประเทศ และจ่ายกลับมาให้คนขับแท็กซี่ป้ายดำโดยไม่เสียภาษี และไม่จดทะเบียนบริษัทฯ อย่างถูกต้องในไทยอีกด้วย ขณะที่คนขับแท็กซี่และรถโดยสารขนาดเล็ก (รถโดยสารแดง) ทั้งหลายจะไม่ยอมให้แอพพลิเคชั่นที่มีพื้นฐานการดำเนินธุรกิจที่ผิดจริยธรรมนี้ เติบโตขึ้นได้ในบ้านเมืองของเรา