อธิบดีกรมอุทยานฯ นำทุกภาคส่วนเข้าร่วมปลูกต้นไม้, ทำฝาย ฟื้นฟูพื้นที่ “บ้านป่าแหว่ง”

ช่วงเช้าวันที่ 27 พ.ค.61 ที่บริเวณภายในบ้านพักข้าราชการ ตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้มีการจัดกิจ กรรมโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ตามนโยบายรัฐบาล โดยมี นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นประธาน นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานในสังกัด พร้อมด้วยกลุ่มเครือข่ายภาคประชาชน , นักเรียน นักศึกษา และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และส่งเสริมให้มีการปลูกป่า รวมถึงฟื้นฟูสภาพธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์ และเสริมสร้างความร่วมมืออันดี ระหว่างภาครัฐและประชาชนในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ

ทั้งนี้ทางด้าน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีฯ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้ามาดำเนินการร่วมกับประชาชน เครือข่าย และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยในนส่วนของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ยังไม่ได้มีการส่งมอบพื้นที่จึงสามารถดำเนินการได้เพียงบางส่วน ที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดำเนินการ โดยสภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าเต็งรัง ชนิดไม้ที่ปลูกเช่น คำมอกหลวง คูณ อินทนิน ทองกวาว พะยอม มะขามป้อม และพลวง เป็น ต้น และยังมีกิจกรรมปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์หน้าดิน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำอีก 1 ลำห้วย อธิบดีฯกล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการดำเนินการนั้น ในอนาคตหลังจากที่ทาง ผวจ.ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้ว พื้นที่ดังกล่าวจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปภายภาคหน้านั้น ขึ้นอยู่กับนโย บาย ซึ่งในส่วนของพื้นที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่ที่อยู่นอกเหนือจากเขตพื้นที่ของอุทยานฯ การดูแลต่อไปจากนี้ก็จะมีการเข้ามาดูแลฟื้นฟู ในส่วนของที่ได้ทำกิจกรรมในวันนี้ ส่วนพื้นที่บ้านพักที่เหลือนั้น ก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย หากจะให้มีการผนวกกับทางอุทยานฯ ก็ยินดีที่จะดำเนินการตาม ส่วนแผนการดำเนินการของอุทยานฯยังคงต้องรอผลจากมติ ครม. เนื่องจากต้องมีการปรับปรุงแนวเขตอุทยานใหม่ หากจะให้พื้นที่ดังกล่าวผนวกเป็นพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งทางอุทยานฯมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาและข้อสั่งการ ส่วนการจะดำเนินการในเรื่องของการที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ตามที่เครือข่ายเรียกร้องหรือไม่นั้นก็ต้องรอการหารือกันอีกครั้ง ขณะที่ทางด้าน ด้านนายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ชาวเชียงใหม่และตัวแทนทุกภาคส่วนจำนวนมาก เข้าร่วมกิจกรรมการสร้างฝายกับทางเครือข่าย เพื่อเป็นการประกาศเจตนารมณ์และยืนยันสิทธิ์ว่าพื้นที่ป่าบริเวณนี้ เป็นของชาวเชียงใหม่ ไม่ใช่พื้นที่ที่จะนำมาก่อสร้างบ้านพัก หรือที่อยู่อาศัยของคนแค่บางกลุ่ม ซึ่งเป็นปัญหาที่จะต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว ทั้งนี้ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ทางเครือข่ายไม่ได้ร่วมปลูกต้นไม้ด้วย เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการปลูกต้นไม้รอบอาคาร เพราะมองว่าการฟื้นฟูสภาพป่า จะสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์เต็มรูปแบบ ก็ต่อเมื่อมีการรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปแล้วเท่านั้น อย่างไรก็ตามยังถือว่าเป็นจุดเริ่มที่ดี และหลังมีการส่งมอบพื้นที่คืนแล้ว น่าจะมีการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้นสำหรับความคืบหน้า การแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และคณะกรรมการดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเพื่อให้พื้นที่เป็นป่าสมบูรณ์ดังเดิม ตามข้อตกลงที่มีร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พ.ค.นั้น ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายได้มีการเฝ้าติดตามและสอบถามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ปรากฏว่ายังไม่มีการแต่งตั้ง โดยล่าสุดทราบว่าอยู่ระหว่างการรอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยลงนามแต่งตั้ง ซึ่งจากนี้จะรอเวลาอีก 1 สัป ดาห์ หากยังนิ่งเฉยและไม่มีการแต่งตั้ง เชื่อว่าน่าจะสรุปได้ว่าทางรัฐบาลต้องการยื้อ และคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจรจาใดๆ กันอีก โดยทางเครือข่ายจะมีการเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้ง และจะทำอย่างเข้มข้น เพื่อแสดงให้เห็นพลังของชาวเชียงใหม่ ว่ารู้สึกเจ็บปวดต่อเรื่องนี้มากเพียงใด และจะปกป้องดอยสุเทพอย่างเต็มกำลังให้ถึงที่สุด

ร่วมแสดงความคิดเห็น