(มีคลิป) เปิดใจ “ต๊อด” หนุ่มพิการครึ่งตัว หลังโพสต์เฟสบุ๊คประกาศหาที่ฝึกงาน โซเชียลแห่ให้กำลังใจล้นหลาม เจ้าตัวเผย “เกิดเป็นคนต้องสู้”

วันที่ 23 ก.ย.62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ขณะนี้บนโลกโซเชียล ได้มีการแชร์เรื่องราวของหนุ่มผู้ใช้เฟสบุ๊คคนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า “Chatree Konwatcharathada” กันอย่างล้นหลาม จากที่ทางเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเพื่อประกาศหาที่ฝึกงาน และหลังจากเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ของวิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ สาขาช่างยนต์ ต้องออกฝึกประสบการณ์ตามสถานที่ต่างๆ ในเชียงใหม่ แต่เนื่องจากเจ้าตัวเป็นคนพิการ จึงทำให้ต้องมีการพิจารณาเป็นพิเศษ และอยากฝึกในสถานที่ที่ทำเกี่ยวกับรถมอเตอร์ไซค์โดยตรง ตามที่ทางเจ้าตัวระบุในโพสต์ว่า “สวัสดีคับ ผมชื่อ ต๊อด ตอนนี้ผมเรียนช่างยนต์อยู่คับแล้วเดือนตุลาคมนี้ ผมต้องไปฝึกงานตามอู่หรือศูนย์บริการซ่อมละคับ แต่ผมอาจจะไม่เหมือนช่างทั่วๆตรงที่ว่า ผมมีเเค่ครึ่งท่อน ไม่ทราบว่าพอจะมีอู่หรือศูนย์บริการซ่อมที่ไหน รับผมฝึกงานบ้างคับ : ขอเป็นอู่ซ่อมเตอร์ไซค์คับ: #ตามหาที่ฝึกงาน”
เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ดังกล่าวซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นายชาตรี กรวัชรธาดา หือ “ต๊อด” อายุ 22 ปี ที่อยู่ 3/ช ม.1 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ที่ได้อาศัยอยู่กับน้องอีก 2 คน ในบ้านพักแห่งหนึ่งไม่มีเลขที่ในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ โดยจากการสอบถามทางเจ้าตัวเปิดเผยว่า จากการที่ตนได้โพสต์เฟสบุ๊คของตัวเองไปในโลกโซเชียลนั้นเนื่องจากตนเรียนอยู่ชั้นปี 2 แผนกสาขาช่างยนต์ ของวิทยาลัยสารพัดช่างเชียงใหม่ และจะต้องออกไปฝึกงานช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งทางตนก็ได้พูดคุยกับอาจารย์ปรึกษาแล้ว และก็ได้มาโพสต์เฟศบุ๊คเพื่อหวังว่าจะหาที่ฝึกงานอีกทางหนึ่ง แต่ไม่คาดคิดว่าเรื่องราวที่ตัวเองโพสต์ไปนั้นจะกลายเป็นกระแสที่ได้รับความสนใจของคนในโซเชียล และมีคนแชร์เรื่องราวไปจำนวนมาก โดยประเด็นแรกที่โพสต์นั้นตั้งใจว่าจะหาสถานที่ไหนสนใจให้ตนเข้าไปทดลองฝึกงานดูก่อนระหว่างช่วงปิดเทอม แล้วเมื่อถึงช่วงเปิดเทอมแล้วก็อาจจะให้ฝึกยาวตามหลักสูตร
โดยในส่วนของความสามารถในการซ่อมรถนั้นตนก็พอมีความรู้และทำได้ในเบื้องต้น ประกอบกับตนก็อยากที่จะเข้ามาทำงานในลักษณะนี้ก็เป็นความชอบส่วนตัวด้วย ซึ่งสถานที่ฝึกงานที่ตนอยากทำก็จะเป็นเกี่ยวกับซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ที่อาจจะไม่ต้องเป็นสถานที่ประกอบการใหญ่โต อาจจะเป็นอู่เล็กๆ ที่เปิดโอกาสให้ตนได้เข้าไปฝึกงานทดลองฝีมือ และให้ตนได้ทำในสิ่งที่อยากทำ ในส่วนของความพิการที่ตนเป็นอยู่นั้นก็อาจจะเป็นอุปสรรคในการทำงานอยู่บ้าง เช่นในเรื่องของการยกของหรือวัตถุบางอย่างที่ไม่สามารถยกคนเดียวได้ รวมไปถึงเรื่องของการเดินทาง ตนจึงอยากได้สถานที่ฝึกงานที่อาจจะอยู่รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ หรือใกล้กับที่พัก เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทาง อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ตนได้มีการโพสต์เรื่องราวออกไปแล้วนั้นก็พบว่ามีคนมาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจอย่างมากมาย รวมไปถึงก็มีพี่ ๆ ในเชียงใหม่ ที่มีร้านซ่อมรถติดต่อชักชวนให้มาลองทำงานด้วย
อย่างไรก็ตามในสิ่งที่ตนกังวลนั้นคือในเรื่องของรูปร่าง ที่หากลงไปปฏิบัติงานในสถานที่จริงอาจจะมีคนมองว่าด้วยรูปร่างและความพิการที่ตนเป็นอยู่อาจจะทำไม่ได้ แต่การที่ตนได้โพสต์ข้อความลงไปในโซเชียลนั้นก็เพียงเพื่อขอโอกาสหรืออยากลองทำ ลองฝีมือตัวเองก่อนซึ่งในเรื่องของรูปร่างหรือความพิการที่ตนเผชิญอยู่นั้น ตนมองข้ามเพราะคิดว่าไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ ทั่วไป เนื่องจากทุกวันนี้ตนก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เช่นเดียวกันกับเวลาอยู่กับเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกัน และตนมองว่าการใช้ชีวิตก็เหมือนกับการที่ตัวเองได้ผจญภัยไปเรื่อย ๆ และไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นและหากคิดว่าในวันนี้ตัวเราเองทำไม่ได้พรุ่งนี้มันก็จะไม่เกิด
ดังนั้นตนมองว่าเมื่อได้เกิดมาเป็นคนทั้งที ไม่ว่าจะพิการหรือเป็นปกติก็ควรจะสู้ไว้ก่อน และมีกำลังใจที่ดีนึกคนที่อยู่ข้างหลังและคนที่คอยอยู่ข้าง ๆ เราไม่ใช่นึกถึงแต่ตัวเอง ซึ่งความฝันของตนนั้นก็อยากที่จะมีธุรกิจส่วนตัว มีอู่ซ่อมรถเล็ก ๆ หรือร้านซ่อมรถ โดยทุกวันนี้จะทำอะไรตนจะคิดถึงพ่อแม่ไว้ก่อนเสมอ ถ้าตนยังไม่สบายยังไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง พ่อกับแม่ตนก็ยังคงเป็นห่วง และก็จะไม่สบายใจที่เห็นว่าลูกคนนี้ยังไม่ได้ดี

ร่วมแสดงความคิดเห็น