พ่อบ้านป่าเลา อ.สองไปนอนเฝ่าสวนยาง เกิดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันกลางดึก

เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สรวิศภูมิ ประมูล รอง สว.(สอบสวน)สภ.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ปฎิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนประจำวัน สภ.สะเอียบ รับแข้งขากสายตรวจบ้านป่าเลา หมู่ที่ 3 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ ว่ามีคนตายไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้านไม่มีเลขที่ในกลางสวนยางพารา ในพื้นที่บ้านป่าเลา หมู่ที่ 3 ตำบลสะเอียบ อำเภอสองหลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พ.ต.ท.วีระชาติ บ่อคำ รองผกก(สส.)ภ.จว.แพร่ รักษาราชการแทนสวญ.สภ.สะเอียบทราบและประสานแพทย์เวรร.พ.สองเพื่อร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อม สมาคมกู้ภัยสองรวมใจและเดินทางไปจุดที่พบศพเป็นบ้านไม่มีเลขที่กลางสวนยางพารา พบผู้เสียชีวิตเป็นชายสภาพนอนหงายในสภาพนอนหลับปกติ นุ่งเสื้อสีเทาแขนสั้น(เสื้อกล้าม)นุ่งกางเกงขายาวลายพราง มีผ้าห่มสีดำคลุมร่างอยู่ ตรวจร่องรอยบริเวณโดยรอบไม่พบร่องรอยของการต่อสู้และถูกทำร้ายแต่อย่างใดต่อมาทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายสวัสดิ์ ผัดขัน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 บ้านป่าเลา หมู่ที่ 3 ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ จากการให้การของญาติ ๆ และนายนิคม ขันทะบุตร เป็นน้องชายผู้เสียชีวิตให้การว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตนเองได้เดินทางจากบ้าน เพื่อไปสวนยางที่ติดกับพี่ชาย เพื่อจะไปบอกให้พี่ชายว่าให้เอาไก่ 2 ตัวเพื่อเอาไปให้กับเพื่อนบ้าน คนบ้านเดียวกันที่สั่งไก่ไว้ ตนเองจึงได้เขียนหนังสือและแขวนไว้ที่บันได และได้เดินทางไปสวนยาง
เมื่อตนทำธุระเสร็จก็รีบกลับมาบ้านอีกรอบ และกลับไปหาพี่ชายอีกครั้งหนึ่ง ก็ยังไม่เห็นพี่ชายมาอ่านหนังสือที่ตนเองเขียนไว้ จึงได้ขึ้นไปบนบ้าน เพื่อจะได้ดูว่าพี่ชายยังนอนหลับอยู่หรือเปล่า และเข้าไปดูในห้องนอนก็เห็นพี่นอนอยู่ในสภาพเหมือนปกติ จึงได้จับมือพี่ชายดูในสภาพที่เย็นเหมือนกับคนตาย จึงได้เรียกดูพี่ชายก็ไม่ตอบว่าอย่างไร จึงคิดว่าพี่ชายตายแน่แล้ว จึงได้โทรบอกคนทางบ้านให้ทราบ จากนั้นทางเจ้าหน้าตำรวจมอบหมาย ให้ทางสมาคมกู้ภัยสองรวมใจนำร่างผู้เสียชีวิตนำกลับมาที่บ้าน แพทย์ได้ส่วนภรรยาของผู้ตายให้การว่า ปกติสามีไม่มีโรคประจำตัวอะไรและไม่เคยไปหาหมอแม้แต่ครั้งเดียวและเป็นคนที่ดื่มสุราแต่ดื่มไม่มากดื่ม เฉพาะวันละแก้วสองแก้วเท่านั้น แพทย์ได้ลงความเห็นว่าคนที่เสียชีวิต มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติจึงทำให้หัวใจวายคาดว่าเสียชีวิตในเวลา 05.00 น. ของวันที่ 13 ตุลาคม นี้เสียชีวิตมาประมาณ 8 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามญาติ ๆ และภรรยาว่ายังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ ถ้าติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตก็จะได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจหาสาเหตุการเสียชีวิต โดยละเอียดอีกรอบทางญาติ ๆ ไม่ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้กับญาติ นำไปบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น