รพ.เชียงรายซ้อมแผนเหมือนจริง เหตุโจ๋ยกพวกตีกัน ห้องฉุกเฉิน รับมือเทศกาลปีใหม่

เวลา 13.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2562 ที่อาคารอุบัติเหตุฉุกเฉิน 14 ชั้น (ตึกหมูป่า) โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงรายได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อรับมือสถานการณ์ ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยนายทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นายบุญมี แก้วจันทร์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดเชียงราย ร่วมกับนายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายแพทย์สำเริง สีแก้ว รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ฝ่ายการแพทย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ได้จำลองเหตุผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุถูกทำร้ายร่างกาย 2-3 คน เดินทางเข้าไปรับการรักษาตัว
จากนั้นได้มีกลุ่มคู่กรณีประมาณ 7-8 คน ได้ถืออาวุธบุกรุกเข้าไปภายในห้องฉุกเฉินตะโกนเสียงดังพยายามเข้าไปทำร้ายผู้ป่วย ก่อนเจ้าหน้าที่จะแจ้งตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย เข้าไประงับเหตุและได้ควบคุมตัวคนทั้งหมดออกจากอาคารแล้วนำส่งไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองเชียงราย ทำให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติและแพทย์พยาบาลสามารถให้บริการผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก ในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้ต่อไป
ด้านนายแพทย์สำเริง กล่าวว่าในช่วงเทศกาลมักจะมีผู้ป่วยที่ประสบอุบัตเหตุต่าง ๆ เข้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ทางโรงพยาบาลจึงได้เพิ่มเติมเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ รวมทั้งด้าน รปภ.ในรองรับปัญหาดังกล่าวซึ่งว่าเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นเข้าไปทำร้ายกัน จะยังไม่เคยเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ แต่ก็จะมีการประสานงานกับทางฝ่ายต่าง ๆ อย่างบูรณาการโดยเฉพาะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย และจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

นายบุญมี กล่าวว่าการซ้อมแผนดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุการณ์รุนแรง ที่อาจจะเกิดขึ้นในอาคารอุบัตเหตุฉุกเฉินหลังจากเคยเกิดเหตุกรณีดังกล่าวมาแล้วในประเทศไทย สำหรับที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และตามปกติก็จะมี รปภ.ประจำการอยู่สามารถประสานกับทางตำรวจได้อยู่แล้ว แต่เพื่อให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะช่วงเทศกาลก็จึงได้มีการซักซ้อมแผนกันดังกล่าว ซึ่งผลการฝึกซ้อมก็จะได้นำปรับปรุงแก้ไขเพื่อปิดจุดอ่อนที่มีอยู่ โดยเฉพาะเรื่องความเร็วในการระงับเหตุที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น