ราชกิจจาฯ ประกาศ โอนเงินมากกว่า 3,000 ครั้ง รวมเงิน 2 ล้านบาทขึ้นไป ต้องรายงานกรมสรรพากร

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกฎกระทรวง ฉบับที่ 355 พ.ศ.2562 ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ มีผลแล้ว
หากโอนตั้งแต่ 3 พันครั้งขึ้นไป รวมเงิน 2 ล้านบาทขึ้นไป / ปี / ธนาคาร ต้องรายงานข้อมูลต่อกรมสรรพากร ภายในวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี เริ่มครั้งแรก มีนาคม 2563
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 3 สัตตรส วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 48) พ.ศ. 2562 และมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ในกฎกระทรวงนี้
“ผู้มีหน้าที่รายงาน” หมายความว่า สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วย ระบบการชําระเงิน
“ บัญชี” หมายความว่า บัญชีที่ใช้สําหรับการฝาก หรือรับโอนเงินของบุคคลใดที่อยู่ใน ความครอบครองของผู้มีหน้าที่รายงาน โดยอาจกระทําในนามของบุคคลคนเดียวหรือหลายคน
“รับโอนเงิน” หมายความว่า การที่บุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี ได้รับเงินหรือสิทธิเรียกร้อง เงินในบัญชี
ข้อ 2 ให้ผู้มีหน้าที่รายงานจัดทํารายงานข้อมูล เกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ซึ่งอยู่ในความครอบครองตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ล่วงมา โดยต้องมีรายการดังต่อไปนี้
(1) เลขประจําตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขทะเบียนนิติบุคคล เลขประจําตัว ผู้เสียภาษีอากร หรือสิ่งอื่นที่ใช้ในการระบุตัวบุคคล ของบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ
(2) ชื่อและชื่อสกุลของบุคคลธรรมดา ชื่อของห้างหุ้นส่วนสามัญ ชื่อของคณะบุคคลที่มิใช่ นิติบุคคล หรือชื่อนิติบุคคล
(3) จํานวนครั้งของการฝาก หรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน
(4) จํานวนเงินที่ฝาก หรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกัน
(5) เลขที่บัญชีทุกบัญชีที่มีการฝาก หรือรับโอนเงิน
ข้อ 3 ในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ให้ผู้มีหน้าที่รายงาน นําส่งข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่มีธุรกรรมลักษณะเฉพาะ ตามข้อ 2 ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร ตามรูปแบบการรายงานข้อมูลที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ 4 การรายงานข้อมูลเกี่ยวกับจํานวนครั้ง และจํานวนเงินของการฝากหรือรับโอนเงิน ตามข้อ 2 (3) และ (4) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) การฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชีของบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี ให้นับจํานวนครั้ง และจํานวนเงินทุกครั้งที่มีการฝากหรือรับโอนเงินเข้าไปในบัญชี ของบุคคลที่มีชื่อเป็นเจ้าของบัญชี โดยไม่ต้องคํานึงถึงข้อกําหนดวิธีการนําเงินเข้าบัญชี ที่ผู้มีหน้าที่รายงานได้กําหนดไว้แต่อย่างใด
(2) การฝากหรือรับโอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งกระทําผ่านอุปกรณ์รับชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ภาพรหัสคิวอาร์โค้ด หรือวิธีการรับชําระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ให้นับจํานวนครั้งและจํานวนเงินที่ได้ กระทําผ่านอุปกรณ์หรือวิธีการเช่นว่านั้นทุกครั้ง โดยไม่ต้องคํานึงถึงข้อกําหนดวิธีการนําเงินเข้าบัญชี ที่ผู้มีหน้าที่รายงานได้กําหนดไว้แต่อย่างใด
ในกรณีที่การฝากหรือรับโอนเงินตามวรรคหนึ่ง เป็นการฝากหรือรับโอนเงินด้วยเงินตรา ต่างประเทศ ให้คํานวณค่าหรือราคาของเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทย ตามอัตราถัวเฉลี่ย ณ วันสิ้นปีที่ธนาคารพาณิชย์รับซื้อ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย ได้คํานวณไว้ก่อนรายงานข้อมูล
ข้อ 5 การรายงานข้อมูลการฝาก หรือรับโอนเงินในครั้งแรก ซึ่งต้องรายงานภายในวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563 ให้ผู้มีหน้าที่รายงาน รายงานข้อมูลในปีที่ล่วงมาเฉพาะข้อมูลการฝาก หรือ รับโอนเงินที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันถัดจากวันที่กฎกระทรวงนี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ให้ไว้ ณ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ร่วมแสดงความคิดเห็น