หารือกรมป่าไม้เดินหน้าจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม เล็งงัดกฏหมายหลายฉบับ

เล็งงัดกฏหมายหลายฉบับดำเนินคดีผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน พบมีรีสอร์ตกว่า 116 ราย ตั้งทีมพนักงานสอบสวนฯ ลุยดำเนินคดีความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม ( ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) ตำบลโป่งแยง ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดวันนี้ ( 24 มกราคม) พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมร่วมกับนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ห้องประชุม สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม


ทั้งนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมาย เดินทางมาประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำด้านกฎหมาย เกี่ยวกับการจัดระเบียบดอยม่อนแจ่ม และแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม
ขณะที่ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้ตั้งชุดเฉพาะกิจพนักงานสอบสวน เพื่อเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของบ้านพักและรีสอร์ตที่ผิดกฎหมาย โดยได้ระดมพนักงานสอบสวนจากโรงพักต่างๆ รวมทั้งกลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่กว่า 20 นายมาดูแลการทำสำนวนคดีทั้งหมด
พล.ต.อ. ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบรีสอร์ตบนดอยม่อนแจ่มพบว่ามีการกระทำผิดกฏหมายเกิดขึ้น จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายตามที่อธิบดีกรมป่าไม้ร้องขอ ส่วนที่กลุ่มผู้ประกอบการอ้างคำสั่ง คสช. ที่ 6/2562 ยกเว้นไม่ต้องรับโทษทางอาญา แต่ไม่ได้ยกเว้นความผิด ความผิดทางแพ่ง และทางปกครองยังมีอยู่ จึงขึ้นกับแต่ละหน่วยงานจะดำเนินการตามข้อกฏหมายต่อไป

ด้าน นายอรรพล กล่าวว่า จากากรลงพื้นที่ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ยังมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย จึงต้องขยายผลไปยังกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ไม่ฌแพาะกฏหมายป่าไม้ แต่รวมถึง พรบ.โรงแรม , พรบ.ผังเมือง พรบ.ควบคุมอาคาร พรบ.บุคคลต่างด้าว พรบ.ประกอบกิจการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และ พรบ.ฟอกเงิน เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน จึงได้ร้องขอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดำเนินการ เพื่อทำให้เบ็ดเสร็จ การดำเนินการในพื้นที่ดอยม่อนแจ่มต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์เดิมของโครงการ ซึ่งต้องมาดูว่าจะต้องดำเนินการตามข้อกฎหมายอย่างไร โดยนอกจากม่อนแจ่มแล้วจะขยายผลไปยังพื้นที่ข้างเคียงด้วย สำหรับดอยม่อนแจ่มยังตอบไม่ได้ว่าจะต้องรื้อถอนทั้งหมดหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่ามีบ้านพัก รีสอร์ต และลานกางเต้นส์จำนวน 116 ราย ซึ่งทั้งหมดจะต้องอยู่ในแนวปฎิบัติตามกฎหมาย โดย ที่ผ่านมามีการแจ้งความดำเนินคดีไปกับรีสอร์ตไปแล้ว 8 ราย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ที่ประชุมยังได้หารือถึงข้อมูลการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ ทั้ง น้ำ และไฟฟ้า ซึ่งการตรวจสอบพบว่า มีการใช้น้ำมาจาก 2 ส่วน คือแหล่งน้ำบาดาล และแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยในส่วนของน้ำบาดาล เป็นของกรมทรัพยากรน้ำที่เจาะเพื่อใช้ในพื้นที่เกษตรกรรมของโครงการหลวง ไม่อนุญาตให้ใช้เพื่อกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทั้งโรงแรม และการท่องเที่ยว จึงต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วยเช่นกัน

ส่วนการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ทั้งหมด จากการตรวจสอบพบว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแม่ริมได้อนุญาตการใช้ไฟฟ้าเพียง 3 ราย คือโครงการหลวง 2 ราย ซึ่งได้กระจายไปให้พื้นที่อื่นๆรวม 15 จุด ส่วนราย ที่ 3 คือห้างหุ้นส่วนจำกัดม่อนอิงดาว เจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ประกอบการเข้ามาชี้แจงว่ามีการพ่วงต่อกระแสไฟฟ้าไปให้จุดใดบ้าง ขณะเดียวกันจะต้องสอบเพิ่มเติมกรณีการติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ของเอกชน ที่พบตั้งอยู่ในพื้นที่จำนวน 3 เสาด้วย ว่าได้ข้ออนุญาตจากกรมป่าไม้ถูกต้องหรือไม่ หากพบไม่มีการขออนุญาตก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายเช่นเดียวกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น