ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ พร้อมผลักดันหญ้าเนเปียร์และข้าวโพด เป็นพืชเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2563 นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะ ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ของโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริง จากการใช้ก๊าซชีวภาพ ที่มาจากการใช้หญ้าเนเปียร์ รวมถึงต้นข้าวโพด เป็นวัตถุดิบหลักในการสร้างพลังงาน โดยมีอัตรากำลังในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 1.5 เมกะวัตต์ เพื่อขายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในราคายูนิตละ 5.84 บาท โดยได้รับซื้อหญ้าเนเปียร์และต้นข้าวโพด จากเกษตรกรในอำเภอแม่แตง และในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้เกษตรกรมีรายได้ ในส่วนของหญ้าเนเปียร์ปลูกได้ง่าย ใช้ต้นทุนการผลิตต่ำ ลงทุนปลูกครั้งเดียวสามารถอยู่ได้ถึง 7 ปี หลังจากปลูกครั้งแรก 90 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ หลังจากนั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ในทุก 60 วัน ทำให้สามารถมีหญ้าจำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน หากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาส่งเสริมรูปแบบการผลิตในรูปแบบใหม่ ด้วยการใช้ระบบการปลูกแบบใช้น้ำใต้ดิน ก็จะช่วยลดการใช้น้ำได้ถึง ร้อยละ 90 และจะช่วยเพิ่มผลผลิตที่ดีขึ้น ซึ่งอาจได้ผลผลิตหญ้าเนเปียร์ถึง 100 ตัน/ไร่ มีราคาประกันขึ้นต่ำไม่น้อยกว่า 500 บาท/ตัน ซึ่งจะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ขั้นต่ำต่อไร่ถึง 5,000 บาท ในส่วนของต้นข้าวโพด ก็สามารถนำมาใช้เป็นพืชพลังงานได้เช่นกัน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาฝุ่นควันจากการเผาในพื้นที่ได้อีกด้วย

นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า ต้องการให้ทุกอำเภอของประเทศไทย มีโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างน้อยอำเภอละ 1 แห่ง โดยให้ประชาชนหรือเกษตรกรในพื้นที่ หันมาปลูกหญ้าเนเปียร์ เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะช่วยส่งเสริมและจัดสรรน้ำ ทั้งในและนอกเขตชลประทานให้ ขณะเดียวกัน หลังวันที่ 5 มีนาคมนี้ จะมีการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีเกษตร และนวัตกรรมในทุกจังหวัด จะเป็นการช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานของทุกหน่วย เพื่อให้นโยบายต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้และทำได้จริง เช่นเดียวกับกรณีของโรงไฟฟ้าไบโอก๊าซ ที่อำเภอแม่แตง ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น