ม้วนละพันโขกราคายางยืดเย็บหน้ากากอนามัย

กลุ่มแม่บ้านเย็บผ้า อ.สันทราย -สันกำแพง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ช่วงสถานการร์โรคไวรัสโควิด 19 แพร่ระบาด ส่งผลให้ออเดอร์ สั่งเย็บผ้าตามแบบสำเร็จรูปส่งร้านค้าส่ง ทั้งเสื้อลายดอก, กระเป๋าผ้าลดโลกร้อน, กางเกง ถูกยกเลิก จนต้องหันมาเย็บหน้ากากอนามัย ส่งขายตามร้านค้าส่ง ค้าปลีก

ปรากฎว่า ราคาวัตถุดิบ ในการทำหน้ากากอนามัย ตั้งแต่มีโครงการ ให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)ส่งเสริม สนับสนุนชาวบ้าน ในพื้นที่ตัดเย็บใช้เอง ผลกระทบที่ตามมาคือ ผ้าสาลู ,ผ้าคัตตอน ผ้ามัสลิน และยางยืด ที่เป็นวัตถุดิบ ปรับราคาสูง ซึ่ง ผลพวงส่วนหนึ่งมาจาก อปท.เหล่านี้ใช้งบหลวง ขอเพียงมีใบเสร็จ ซื้อสินค้า ราคาเท่าไหร่ก็ซื้อ ไม่ต่อรองราคา ปัญหาที่ตามมาคือ ต้นทุน วัตถุดิบที่ทางกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มผู็ตัดเย็บหน้ากากอนามัยต้องแบกรับขณะนี้คือยางยืดเบอร์ 4 ช่วงปกติม้วนละ 200 บาท เบอร์ 6 ราคา 150 บาท ปัจจุบันจากช่วงต้นมีนาคม 63 ราคาเบอร์ 6 จาก ม้วนละ 380 บาท ขยับเป็น 500-600 บาทล่าสุดวันนี้(30 มีค.63 ) ราคาม้วนละ 800-1 พันบาท ความยาว 144 หลาทีมข่าวได้รับการเปิดเผยจากกลุ่มสตรีแม่บ้าน ในพื้นที่สันกำแพง เชียงใหม่ ที่รับตัดเย็บหน้ากากอนามัยว่า แม้จะมีมาตรการจากพาณิชย์ ในการเปิดรับคำสั่งซื้อยางยืด ในราคาย่อมเยาว์ แต่เป็นการรับพรีออเดอร์ รวบรวมจำนวนสินค้า ต้องใช้เวลานานมาก และบางครั้งติดต่อไปไม่แจ้งรายละเอียดความคืบหน้าใดๆ เลย“ต้องยอมตัดใจซื้อ ถ้าคิดจะตัดเย็บหน้ากากอนามัยออกมาขาย และ บางส่วนถ้าวัตถุดิบหมดก็หันไปรับเย็บผ้าโหล หรือรับงานจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่ ป่าซาง ลำพูน ที่แบ่งงานตัดเย็บหน้ากากส่งออกไปต่างประเทศมาให้ เพราะขืนซื้อยางยืดม้วนละพันมาเย็บคงแบกรับต้นทุนไม่ไหว ประกอบกับช่วงนี้สินค้า หน้ากากอนามัย ทั้งตามหน้าเพจ.ขายออนไลน์ หรือตามร้านค้าเริ่มทยอยออกมามากแล้ว “ผู้สื่อข่าว สอบถามถึงปัญหาราคาวัตถุดิบ ในการผลิตหน้ากากอนามัย ที่สูง ไปยังเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่า ต้องมีการแจ้งเรื่อง หรือร้องเรียนมา ที่พบส่วนใหญ่จะระบายผ่านเพจ. หรือในช่องทางอื่นๆ ที่อำนาจ การดำเนินการตรวจ จับกุม ดำเนินคดี จะมีองค์ประกอบที่ต้องมีผู้ร้อง มีสถานที่ค้าโดย จะเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ฐานความผิดตามมาตรา 29 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษตามกฎหมายสูงสุด คือ จำคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสนบาท ที่ผ่านๆมาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในลักษณะนี้ทุกราย เพราะถือเป็นการเอาเปรียบประชาชนในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

ร่วมแสดงความคิดเห็น