(มีคลิป) เห็นด้วยหรือไม่ ? เรียนผ่านระบบออนไลน์ ! กระทบหนักผู้ปกครองบางส่วนในเชียงใหม่ เผยฐานะบางครอบครัวไม่เหมือนกัน

วันที่ 18 พ.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่มีคลิปวีดีโอปรากฎบนโลกโซเชียล ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสงสารและน่าเห็นใจ ที่คุณยายพาหลานชายไปซื้อโทรศัพท์ให้กับหลาน เพื่อที่จะนำมาเป็นสื่อการเรียนผ่านระบบออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก ซึ่งต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นผู้ปกครอง หลังจากที่ในวันนี้เริ่มมีการเรียนออนไลน์วันแรก และได้สอบถามจากในบรรดาผู้ปกครองและเด็กขณะต่อแถวรับของบริจาค ที่บริเวณประตูเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่

โดยทางนางพลอยใส แสงสุวรรณ อายุ 43 ปี หนึ่งในผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบ ได้เปิดเผยว่า ตนเองมีลูกสาว 2 คน คนแรกเรียนอยู่ในระดับมหาวิทยาลัยและอีกคนเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตอนนี้เป็นห่วงการเรียนของลูกทั้ง 2 คนมาก เนื่องจากว่าโรงเรียนและมหาวิทยาลัยยังไม่เปิดเทอม และทางรัฐบาลจะให้เด็กเรียนออนไลน์ ขณะที่ตนมองว่าการเรียนออนไลน์เป็นสิ่งที่ดี แต่ผู้ปกครองและเด็กในแต่ละครอบครัว มีพื้นฐานทางชีวิตไม่เหมือนกัน ถ้าครอบครัวไหนมีความพร้อมก็สามารถช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์ลูกได้ แต่อย่างตนเองหลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตนเองซึ่งมีอาชีพเดิมคือเป็นหมอนวดแผนโบราณ ก็ต้องตกงานมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือน ลำพังหาค่าเช่าห้องยังไม่พอ ขนาดอาหารที่ใช้ประทังชีวิต ยังต้องพาลูก ๆ มาต่อแถวรับของบริจาค และถ้าทางโรงเรียนให้มีการเรียนออนไลน์ และต้องให้ผู้ปกครองซื้อทีวี ซื้อคอมพิวเตอร์ ซื้อไอแพด ติดตั้งอินเตอร์เน็ต คงจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ปกครองเป็นอย่างมาก ยิ่งการเรียนออนไลน์ถ้าลูกไม่เข้าใจบทเรียน ตนเองก็ไม่สามารถอธิบายลูกได้ เนื่องจากตนเองก็เรียนมาน้อย จึงอยากให้ทางโรงเรียนรีบเปิดเรียน เนื่องจากว่าสถานการณ์ก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ลูกจะได้กลับไปเรียน และตนเองจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงลูก หากว่าวันไหนไม่มีคนออกมาแจกของบริจาคและยังตกงาน ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป

ขณะที่ทางด้าน นางนุช ลุมหม่อง อายุ 45 ปี ผู้ปกครองอีกรายหนึ่ง ก็เปิดเผยว่า ขณะนี้ลูกชายกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังจะเข้าเรียนชั้น ม.1 ตนเองก็ตกงานไม่มีรายได้มาให้ลูกไปเรียน ยิ่งให้เรียนออนไลน์ต้องมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ตนเองก็ไม่สามารถสนับสนุนให้ลูกได้ ขนาดข้าวจะกินยังต้องมารอบริจาค ค่าเช่าห้องก็หาแทบจะไม่ทัน แต่ก็พยายามเก็บเงินให้มากที่สุดเท่าที่หาได้เพื่อให้ลูกไว้เรียนหนังสือ

 

ร่วมแสดงความคิดเห็น