เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 63 ช่วงนี้อาหารป่ายอดนิยมของคนภาคเหนืออย่าง “เห็ดถอบ” ที่มีเพียงปีละครั้ง เริ่มออกสู่ท้องตลาด ทำให้ผู้คนต่างพากันเลือกซื้อไปปรุงอาหารรับประทานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเมนูทั่วไปที่คุ้นเคยกันดีทั้งปรุงกินเองหรือซื้อจากร้าน ได้แก่ แกงคั่วเห็ดถอบ, เห็ดถอบต้มจิ้มน้ำพริก และแกงเห็ดถอบกับยอดมะขามอ่อนหรือหน่อไม้ เป็นต้น
ขณะเดียวกันที่ “ร้านนงพรรณไส้อั่ว” ที่ตั้งอยู่ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ขาเข้าเมืองเชียงใหม่ ก่อนถึงไฟแดงสี่แยกข่วงสิงห์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีชื่อเสียงจากเมนูเด็ด “ไส้อั่วเห็ดถอบ” ที่ทำออกขายปีละครั้ง ต่อเนื่องมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เริ่มทำไส้อั่วเห็ดถอบชุดแรกของปีนี้ออกขายแล้ว หลังจากที่ลูกค้าสอบถามกันมาต่อเนื่องและมีการสั่งจองล่วงหน้าจำนวนมาก
ทั้งนี้นางอนงพรรณ โฆษิตสกุลชัย อายุ 66 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ช่วงนี้ชาวบ้านเริ่มเก็บเห็ดถอบออกวางขายแล้ว แม้ว่าจะมีราคาค่อนข้างสูงกิโลกรัมละ 500-600 บาท แต่ทางร้านได้เริ่มหาซื้อและนำมาทำไส้อั่วเห็ดถอบเมนูเด็ดของร้าน ที่ทำเพียงปีละครั้ง ออกขายทันที เนื่องจากมีลูกค้าสอบถามและสั่งจองล่วงหน้าจำนวนมาก ซึ่งพยายามคัดเลือกเห็ดถอบที่มีคุณภาพดีที่สุด และจากแหล่งรับซื้อที่ชาวบ้านยืนยันว่าไม่ใช้วิธีการเผาป่า เพื่อจะเข้าไปเก็บเห็ดถอบ โดยจุดเด่นและเคล็ดลับความอร่อยของไส้อั่วเห็ดถอบของร้านนั้น อยู่ที่การคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพดีทุกอย่าง รวมทั้งกระบวนการขั้นตอนการผลิตที่สะอาดและใส่ใจอย่างละเอียดเหมือนทำรับประทานเองในครอบครัว
สำหรับขั้นตอนการทำ จะเริ่มจากการนำเห็ดถอบที่ล้างทำความสะอาดแล้ว ไปเข้าเครื่องบดอย่างหยาบ ๆ จากนั้นนำไปเข้าเครื่องผสมกับเนื้อหมูและมันหมูในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 พร้อมเติมน้ำพริกและน้ำปรุงรส ที่เป็นสูตรเฉพาะของตัวเอง รวมทั้งใบมะกรูดสับ, ต้นหอมสับ และผักชีสับ ให้เข้ากันดี เสร็จแล้ว จึงนำส่วนผสมที่ได้ออกมาทำการยัดไส้ทำเป็นไส้อั่ว ซึ่งก่อนที่จะนำไปย่างขายหน้าร้านหรือแพ็คแช่เย็น ต้องรวนในกระทะที่ตั้งน้ำร้อนไว้ให้พอสุก เพื่อที่เวลาย่างไฟจะสุกเร็วขึ้น และมีกลิ่นหอม
ขณะที่รสชาตินั้น มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างไส้อั่วดั้งเดิมกับเห็ดถอบที่มีความหอมและกรุบกรอบ จนได้รับความนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเป็นอย่างมาก เพราะทำออกมาได้เท่าไรก็ขายหมด จนอาจเรียกได้ว่าไม่พอขาย
ส่วนราคาขายนั้น นางอนงพรรณ บอกว่า เนื่องจากต้นทุนและราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ในปีนี้จึงมีการปรับขึ้นราคาไส้อั่วเห็ดถอบของทางร้าน เพิ่มขึ้นเป็น กิโลกรัมละ 500 บาท จากเดิมที่ขายราคากิโลกรัมละ 450 บาท มาตั้งแต่แรก ซึ่งลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิมที่เคยสั่งซื้อเป็นประจำต่างเข้าใจดี และมีการสั่งซื้อล่วงหน้า เบื้องต้นรวมแล้วหลายร้อยกิโลกรัม โดยในปีนี้ที่คาดว่าน่าจะมีเห็ดถอบออกเยอะ เนื่องจากอากาศร้อน ทางร้านน่าจะสามารถผลิตไส้อั่วเห็ดถอบออกขายได้ถึง 2,000 กิโลกรัม มากกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามถือว่ายังมีจำนวนจำกัดอยู่ดี ซึ่งหากลูกค้าที่สนใจไส้อั่วเห็ดถอบ แนะนำว่าควรสั่งจองไว้ล่วงหน้า เพราะหากพลาดแล้วต้องรออีกครั้งถึงปีหน้าเลย
ขณะเดียวกัน นางอนงพรรณ บอกว่า นอกจากไส้อั่วเห็ดถอบแล้ว ทางร้านยังมีเมนูแนะนำอื่น ๆ อีก ได้แก่ ไส้อั่วเห็ดหอมขาหมู,ไส้อั่วสูตรดั้งเดิม, ไส้อั่วปลาหมึก, ไส้อั่วสามเซียน (เห็ดสามอย่าง), ซี่โครงหมูย่าง, สันคอหมูย่าง, น้ำพริกหนุ่ม และน้ำพริกตาแดง เป็นต้น ทั้งนี้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ที่หน้าร้าน ซึ่งแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งบริเวณหน้าร้านยางรถยนต์ ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวตั้งเตาย่าง พร้อมทั้งขายแบบที่แพ็คแช่เย็นไว้ รวมทั้งมีการโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก “Nongphannorthernfood” ด้วย ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้และทางร้านพร้อมจัดส่งให้ลูกค้าทั่วประเทศ โดยคิดค่าส่งตามจริง
ขณะที่ในส่วนของจุดเริ่มต้นการทำไส้อั่วเห็ดถอบออกขายนั้น นางอนงพรรณ เล่าว่า ครอบครัวมีธุรกิจหลักคือร้านยางรถยนต์ แต่ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก และเมื่อประมาณปี 2555 ได้เริ่มทำไส้อั่วออกขายเป็นกึ่ง ๆ งานอดิเรก เนื่องจากปกติจะทำอาหารต่าง ๆ รวมทั้งไส้อั่วไปทำบุญที่วัดเป็นประจำ และแบ่งปันให้เพื่อนฝูงคนรู้จักได้กินด้วย กระทั่งเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ที่บ้านซื้อเห็ดถอบว่าปรุงอาหารกินกัน แล้วเกิดความคิดกับลูกสาวว่าน่าจะลองเอาเห็ดถอบมาทำไส้อั่วบ้าง เพราะไม่เคยเห็นใครทำมาก่อน จึงทดลองทำกินกันในครอบครัวและแบ่งปันให้เพื่อนฝูงตามปกติ ปรากฏว่ารสชาติอร่อยถูกใจทุกคนที่ได้ลองชิม ขณะที่ลูกสาวมีการถ่ายรูปนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งผลตอบรับดีมากและมีเสียงเรียกร้องให้ทำขาย ในปีต่อมาจึงตัดสินใจทำไส้อั่วเห็ดถอบขายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ร่วมแสดงความคิดเห็น