(มีคลิป) ตั้งค่าตัวพี่เตี้ย 1 แสนบาท เจ้าของ “พี่เตี้ย” พร้อม “ถุงเงิน” แม่ของพี่เตี้ย ควงทนายเดชา แจ้งความกับ ผกก.ภูพิงค์ ข้อหาลักทรัพย์และทารุณกรรมสัตว์ ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 พ.ค. 63 ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะที่ปรึกษา มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ และเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วย นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ นักปั่นดารามือทอง และ ดร.สุรินทร์ เมทะนี ได้พา นายสมศักดิ์ ไชยวงค์ อายุ 72 ปี เจ้าของ “พี่เตี้ย” พร้อมด้วย สุนัข “ถุงเงิน” แม่ของ “พี่เตี้ย มช.” เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.ท.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.ต.ท.ปริญญา กรณีสาเหตุการเสียชีวิตของ “พี่เตี้ย มช.” หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้รวบรวมหลักฐาน โดยเชื่อว่า “พี่เตี้ย มช.” ถูกจงใจอุ้มฆ่าแล้วนำศพไปทิ้งป่าริมทาง

หลังจากเมื่อวันที่ 21 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ได้มีการเดินทางไปยัง สภ.ช้างเผือก เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยในวันนี้ทาง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้นำเจ้าของ “พี่เตี้ย” และ “ถุงเงิน” อายุประมาณ 11 ปี แม่ของ “พี่เตี้ย” มาร้องขอความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ ด้วยการห้อยป้ายกระดาษที่คอ ระบุข้อความว่า “ฆ่าลูกชั้นทำไม??” ก่อนที่จะมีการเข้าเจรจาพูดคุย และรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดีกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

โดยทาง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ในฐานะที่ปรึกษา มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้เปิดเผยว่า ในการเดินทางมาวันนี้ก็เพื่อที่จะเข้ามาแจ้งความกับทางผู้กระทำผิดอีกครั้ง ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ในข้อหาละกทรัพย์ในเวลากลางคืน ใช้ยานพาหนะ และอีกข้อหาคือเรื่องของการทารุณกรรมสัตว์ หลังจากที่ได้ไปพบซากสัตว์ ในท้องที่รับผิดชอบของ สภ.ช้างเผือก ซึ่งในขณะนี้ในข้อหาลักทรัพย์ยังมีผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว แต่หากพบมีการกระทำผิด 2 คน ก็จะมีการแจ้งโทษ เริ่มจากจำคุก 5 ปี และใช้ยานพาหนะก็อาจจะเพิ่มโทษไปอีกเป็น 7 ปี 6 เดือน

 

ส่วนเรื่องทารุณกรรมสัตว์ก็มีโทษอีก 2 ปี ซึ่งต้องมีการพิสูจน์อีกครั้ง โดยในวันนี้ก็จะมาพูดคุยแจ้งให้กับทางผู้กำกับและพนักงานสอบสวนทราบ ส่วนหากจะแจ้งข้อหาอะไรก็เป็นดุลพินิจของทางพนักงานสอบสวน ส่วนผู้กล่าวโทษคือเจ้าของสัตว์ที่ทาง มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ ได้ไปตามตัวมา ซึ่งเป็นคุณลุงอายุ 72 ปี และยังได้นำแม่ของ “พี่เตี้ย” มาด้วยเพื่อพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ และแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์ที่ถูกลักทรัพย์ไป

 

 

ขณะเดียวกันในส่วนของหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดที่จะนำมามอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นก็มีอยู่หลายคลิป โดยที่ปรากฎทางสื่อก็เป็นส่วนหนึ่ง และที่ให้กับทางผู้กำกับ สภ.ช้างเผือก ก็ส่วนหนึ่ง และวันนี้ก็จะนำมาแสดงให้กับทางผู้กำกับ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ดูอีกครั้ง ส่วนนอกนั้นก็กำลังติดตามขอมาซึ่งจะมีอีก รวมทั้งจะมีพยานแวดล้อม เช่น พนักงานแกร็บ ซึ่งพบเห็นผู้ต้องสงสัยในวันกระทำความผิด โดยในส่วนของแกร็บไม่ได้เห็นขณะตอนกระทำ แต่เพียงขับรถผ่านและเห็นรถจอด และเห็นผู้ต้องสงสัยตรงบริเวณที่เกิดเหตุ เพราะขับรถผ่านไปส่งอาหารและแกร็บก็มีภาพในวงจรปิดด้วย

 

โดยส่วนหนึ่งก็ได้พูดคุยกับทางผู้กำกับ สภ.ช้างเผือกแล้ว แต่วันนี้ก็มาคุยกับ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ยังมีพยานที่ระบุว่าได้ยินเสียงปืน 4 นัด ซึ่งขณะนี้ยังไม่กล้ามาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องปรึกษากับทางผู้กำกับอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

 

ขณะที่ทางด้าน นายสมศักดิ์ ไชยวงค์ อายุ 72 ปี เจ้าของ “พี่เตี้ย” เปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจมากกับการจากไปของ “เตี้ย” เพราะก่อนหน้านี้ตนก็สูญเสียหลานไปก่อน และต่อมาก็ภรรยา จนมาทราบข่าวของ “เตี้ย” ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ตนไม่ได้ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ “เตี้ย” ก็เนื่องจากตนได้พักจากการผ่าตัดใส้เลื่อน และหมอไม่ให้ออกไปไหนไกล โดยปกติตนจะปั่นจักรยานแถว ๆ ดอยสุเทพ และทราบข่าวตอน “เตี้ย” หายไป จนต่อมาก็ทราบว่าเสียชีวิตภายหลังจากข่าวที่ปรากฎตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งตนก็เลี้ยง “เตี้ย” มาเองกับมือ ซึ่งพิสูจน์ได้จากแม่ของมัน

ส่วนที่ “เตี้ย” ไปอยู่ใน มช. ก็เนื่องจากมีนักศึกษาที่เมื่อก่อนพักอาศัยอยู่หอใกล้กับบ้านของตน และมักจะนำอาหารมาให้ และต่อมา “เตี้ย” ก็มักติดตามเข้าไปใน มช. ไปตามคณะต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วงแรก ๆ ตนก็ออกมาตามหามัน และเคยบังคับพามันกลับบ้าน แต่มันก็กลับมาใน มช. ไปอยู่หลาย ๆ คณะในมหาวิทยาลัยจนทั่ว และยังเคยมีนักศึกษาพา “เตี้ย” มาส่งที่บ้านและรู้จักบ้านของ “เตี้ย” โดยที่ผ่านมา “เตี้ย” ออกจากบ้านได้ 6-7 ปี และไป ๆ มา ๆ บ้านกับ มช. และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการเข้าพบกับ พ.ต.ท.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และพนักงานสอบสวน เบื้องต้นได้มีการรับเรื่องที่ทางด้าน นายสมศักดิ์ ไชยวงค์ อายุ 72 ปี เจ้าของ “พี่เตี้ย” แจ้งข้อกล่าวหาไว้ ซึ่งจะมีการติดตามสืบสวนข้อเท็จจริง และหากพบการกระทำความผิดก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายโดย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะที่ทางด้านเจ้าของ “พี่เตี้ย” ได้ตั้งราคาทรัพย์ไว้ที่ 100,000 บาท

ร่วมแสดงความคิดเห็น