หนุ่มใหญ่ชาวกะเหรี่ยง ออกล่าสัตว์ ทำปืนลั่นใส่ตนเองดับ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พ.ค 63 รตอ.ธนภัทร เพียรสะอาด พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน
ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตกลางป่าลึก และถูกชาวบ้านนำศพมาเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 10 บ้านพะโข่โหล่ ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปชันสูตรศพ ร่วมกับแพทย์เวร รพ.ศรีสังวาลย์ จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อไปถึงพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายสมศักดิ์ สมสมัย อายุ 53 ปี เป็นชาวปกาเกอญอ นอนอยู่ในบ้านของตนเอง สภาพศพถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าบริเวณใต้คางทะลุกกหูด้านซ้ายเป็นแผลฉกรรจ์ แพทย์ระบุเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง มีญาติ ๆ และเพื่อนบ้านจำนวนมากมาเฝ้าดูศพ ในจำนวนนั้นมี นายชูชัย ไพรสัจพร อายุ 39 ปี หลานชายผู้ตาย ที่เห็นศพผู้ตายเป็นคนแรกขณะเกิดเหตุถูกยิงอยู่ในป่าลึก รวมอยู่ด้วย

โดยนายชูชัย หลานผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและนายสมศักดิ์ผู้ตายซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าชาย ได้พากันออกจากบ้านไปเฝ้าดูวัวและควายที่ปล่อยเลี้ยงไว้บริเวณห้วยน้ำหนาม ในเขตหมู่บ้านหัวน้ำแม่ฮ่องสอน ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอนซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านของพวกตนออกไปประมาณ 15 กิโลเมตร แต่เนื่องจากเป็นหนทางสลับขึ้นลงป่าเขาระยะทางดังกล่าวจึงต้องใช้เวลาเดินเท้านานถึง 4 ชั่วโมง ระหว่างพักค้างคืนในป่าลึกเพื่อเฝ้าดูสัตว์เลี้ยงอยู่นั้น ช่วงกลางดึกนายสมศักดิ์ น้าชายได้สะพายอาวุธปืนลูกซองยาวบอกว่าจะออกไปล่าสัตว์ป่า แต่เมื่อออกไปได้สักพักตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนจึงวิ่งตามเสียงปืนออกไปดู ก็ต้องตกใจที่ถูกยิงแทนที่จะเป็นสัตว์ป่า แต่กลับเป็นนายสมศักดิ์ ฯ น้าชายของตน ซึ่งถูกปืนลูกซองยาวที่สะพายบนบ่ามา ด้ามปืนเกิดกระแทกกับโขดหิน ทำให้ปืนลั่นใส่ตนเองกระสุนเจาะปลายคางทะลุกกหู ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนหายใจรวยริน ตนพยายามนำร่างน้าชายออกจากป่าแต่ผู้ตายมีรูปร่างใหญ่เคลื่อนย้ายลำบาก ผ่านมาได้ประมาณร่วม 1 ชั่วโมง ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจึงเสียชีวิตลง จากนั้นตนจึงหาจุดที่มีคลื่นสัญญาณโทรศัพท์โทรแจ้งเพื่อนบ้านให้ขึ้นมาช่วยกันหามร่างน้าชายที่เสียชีวิตออกจากป่า นำไปเก็บไว้ในบ้านเรือนของผู้ตาย ก่อนญาติโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการชันสูตรพลิคศพ

ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิต ไม่ติดใจกับสาเหตุการเสียชีวิต เชื่อว่าการเสียชีวิตคงเกิดจากปืนลั่น เพราะผู้ตายโดยส่วนตัวเป็นคนเงียบเฉย ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท หรือบาดหมางกับใคร และเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ขณะออกไปล่าสัตว์ผู้ตายก็เคยทำปืนกระบอกเดียวกันนี้ลั่นใส่ตนเองมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยถูกกระสุนถากที่บริเวณรักแร้เท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่จะได้นำศพส่งไปตรวจสอบทางสถาบันนิติเวช เพื่อขยายผลสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น