สาธารณสุข ชี้ไทยพ้นระบาดโควิด-19 ระลอกแรกแล้ว หลังปลอดติดเชื้อในประเทศ 44 วัน แต่เตือนประชาชนการ์ดตกไม่ได้

นายแพทย์อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศติดต่อกันเป็นวันที่ 44 แล้ว ทำให้สิ้นสุดการระบาดระลอกที่ 1 แล้ว แต่ไทยก็ยังต้องเตรียมการให้พร้อมเพื่อรองรับการระบาดระลอก 2 เนื่องจากทั่วโลกขณะนี้ยังคงมีการระบาดเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และเมื่อไทยพยายามเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กระทรวงสาธารณสุขเห็นด้วยแต่ต้องเปิดประเทศ โดยใช้หลักการเปิดอย่างมีสติ สิ่งสำคัญ คือ มาตรการป้องกันทั้งการสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ยังคงต้องทำอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง

ส่วนกรณีนักวิทยาศาสตร์จาก 32 ประเทศ ได้ส่งหนังสือถึงองค์การอนามัยโลกระบุว่าการระบาดของโรคโควิด-19 น่าจะเป็น Airborne คือ การแพร่กระจายเชื้อในอากาศ มากกว่า Droplet คือ การแพร่กระจายเชื้อด้วยละอองฝอย อย่างที่เคยระบุไว้ กรณีนี้ จากความรู้ที่ไทยมี ด้วยประสบการณ์รับมือโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา โรคโควิด-19 ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เชื้อชอบทำลายเซลล์เยื่อหุ้มของเนื้อปอดการติดต่อยังเป็นการสัมผัสจากสารคัดหลั่ง จากการไอจามฝอยละอองน้ำลายในระยะ 1-2 เมตร คือ แบบ Droplet ส่วนสิ่งที่เป็น Airborne นั้นช่วงหนึ่งกระทรวงสาธารณสุขเคยชี้แจ้งว่าเป็นการติดเชื้อในอากาศจากห้องระบบปิดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องไอซียู หรือ ห้องที่ใช้หัตถการใช้เครื่องมือเป็นห้องแอร์ มีการปิดห้องจึงมีโอกาสที่ฝอยละอองจะอยู่ในห้องเหล่านี้ได้นาน แต่ในสถานที่โล่งแจ้งไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะมีเรื่องกระแสลม อากาศสามารถถ่ายเทและมีแสงแดด

ดังนั้นข้อมูลนี้เป็นข้อค้นพบใหม่ ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการ แต่หากโควิด-19 ติดง่ายทางอากาศเหมือนโรควัณโรค ตัวเลขของผู้ป่วยทั่วโลกคงไม่ใช่ 11-12 ล้านคน น่าจะมีจำนวนมากกว่านี้แน่นนอน ซึ่งองค์การอนามัยโลกคงต้องตรวจสอบต่อไป แต่ขณะนี้ข้อมูลยังยืนยันว่าติดทางฝอยละออง หรือ Droplet ที่ป้องกันได้ด้วยวิธีที่ดำเนินการกันอยู่ จึงขอให้ประชาชนอย่ากังวล

ร่วมแสดงความคิดเห็น