(มีคลิป) ล่าตัว 2 โจรแสบ อาละวาดตลาดเมืองใหม่ ก่อเหตุกลางวันแสก ๆ เจอของวางทิ้งไว้เป็นหยิบ ล่าสุดมีหลักฐานกล้องวงจรปิดบันทึกหน้าชัดเจน เตรียมแจ้งความ ตร.

วันที่ 10 ก.ค.63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณตลาดเมืองใหม่ ซึ่งเป็นตลาดขายขายส่งผักและอาหารสดแห่งใหญ่ของเมืองเชียงใหม่ ที่ในขณะนี้ได้เกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ก่อเหตุตระเวนขโมยสินค้าและวัตถุดิบที่บรรดา พ่อค้า-แม่ค้า ได้นำมาวางไว้หลังรถ หรือแขวนไว้กับรถเพื่อไปทำธุระ โดยโจรทั้ง 2 คน ได้ขับรถจักรยานยนต์ Honda Scoopy สีขาว หมายเลขทะเบียน จคม 895 เชียงใหม่ ทำทีเข้ามาที่ลานจอดรถภายในตลาด และเมื่อสบโอกาสเห็นข้าวของถูกวางทิ้งไว้ไม่มีคนเฝ้าก็จะหยิบโฉยขึ้นรถขับหนีไปอย่างหน้าตาเฉย และนอกจากนี้ยังพบว่าโจร 2 คน นี้ยังได้มีการก่อเหตุแอบขโมยของตามรถจักรยานยนต์ที่จอดริมทางที่มีผู้เสียหายเอาของแขวนทิ้งไว้อีกด้วย

จนทำให้ขณะนี้บรรดา พ่อค้า-แม่ค้า ที่อยู่ในตลาดรวมไปถึงประชาชนที่มาซื้อของต่างได้รับความเดือดร้อนและเกรงจะถูกโจรดังกล่าวก่อเหตุ ขณะเดียวกันจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางผู้เสียหายก็ได้มีการนำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกรูปร่างหน้าตาของคนร้ายได้อย่างชัดเจน นำมาโพสต์เตือนภัย และขณะนี้กำลังมีการรวบรวมพยานหลักฐาน และผู้เสียหายเพื่อเตรียมแจ้งความติดตามจับกุมตัวโจรที่ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดี

ทั้งนี้ในเวลาต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น และได้เข้าทำการสอบถามทางด้าน นายประมวล เดชชัยกุล อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของลานจอดรถรุ่งเรือง หลังตลาดเมืองใหม่ ที่ทางคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุและเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เล่าว่า ในวันเกิดเหตุเป็นช่วงเช้าของวันที่ 8 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 09.55 น. ขณะที่ตนกำลังให้บริการลานจอดรถและดูแลพื้นที่อยู่นั้น ได้มีชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์ มาจอดขวางบริเวณหลังรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่ในลานจอดรถ ซึ่งทีแรกตนก็ไม่ทราบว่าเป็นขโมย จากนั้น 1 ในคนร้ายก็ได้ลงจากรถทำท่าทางเดินสำรวจ และคนร้ายอีกคนก็ขับรถไปจอดรออีกจุดหนึ่ง จากนั้นคนร้ายก็ได้ทำการยกของจากหลังรถกระบะที่จอดไว้ โดยตนก็คิดว่าชายคนที่เอาไปนั้นมีเจ้าของใช้ให้มาเอา แล้วตนก็ไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักประกอบกับช่วงเวลานั้นมีรถเข้าออกจำนวนมากจึงไม่ทันได้สังเกต แต่หลังจากที่ชายคนดังกล่าวแบกกล่องที่ยกมาจากรถกระบะที่จอดไว้ แล้วเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ชายอีกคนจอดรอ ตนจึงคิดว่าน่าจะเป็นขโมย จึงได้เรียกให้ลูกชายของตนที่กำลังนอนอยู่บริเวณนั้นว่าชาย 2 คนนี้ น่าจะเป็นขโมยมาขโมยของหลบหนีไป

 

ต่อมาภายหลังเกิดเหตุ ตนก็ได้มาทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในที่เกิดเหตุและสามารถบันทึกภาพของคนร้ายและเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบก็มีหลักฐานใบหน้า และรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุทั้ง 2 คน จากนั้นต่อมาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง คนร้ายทั้ง 2 คน ก็กลับมาอีกและลูกชายของตนเห็นก็รีบบอกตนและวิ่งไปถ่ายรูปของคนร้ายไว้ได้ พร้อมกับป้ายทะเบียนรถ และนอกจากนี้ทางลูกชายก็พยายามที่จะสกัดจับรถของคนร้ายทั้ง 2 คน นี้แต่ก็ไม่ทัน จึงได้แต่ภาพถ่ายมา ส่วนในวันเกิดเหตุทราบเบื้องต้นว่าคนร้ายทั้ง 2 คนนี้ ได้ก่อเหตุขโมยไส้อั่วที่มีคนเอาแขวนไว้ที่หน้ารถจักรยานยนต์ 1 ถุง และที่กล้องวงจรจับได้นั้นคนร้ายได้ขโมยกระทิที่บรรจุกล่องใหญ่ไป 1 กล่อง ราคาประมาณ 700 กว่าบาท โดยคนร้ายทั้ง 2 คนที่ก่อเหตุครั้งนี้ตนก็ไม่เคยเห็นมาก่อน

 

 

ซึ่งหลังจากที่คนร้ายทั้ง 2 ก่อเหตุนั้นตนก็ได้รับความเสียหาย เนื่องจากลูกค้ามาจอดรถแล้วของหายที่จุดจอดรถของตน ก็ต้องหาหลักฐานมาแสดงให้ทางผู้เสียหายทราบ ขณะเดียวกันในวันต่อมา ตนก็ได้พยายามจะจับคนร้ายที่ก่อเหตุด้วยการนำกล่องใส่ของมาวางทิ้งไว้เพื่อล่อให้คนร้ายลงมือ และกะจะจับให้ได้คาหนังคาเขา แต่ก็ปรากฎว่าคนร้ายไม่มาก่อเหตุ จึงไม่สามารถจับกุมได้

ขณะที่ทางด้าน นายปัณณธร เดชชัยกุล อายุ 38 ปี ลูกชายของนายประมวล กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในลานจอดรถของตน เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครขโมยของกันแบบนี้มาก่อนเลย และคนร้ายก็ไม่เกรงกลัวกล้าลงมือกลางวันแสก ๆ โดยอาศัยช่วงที่มีการชุลมุน หรือเมื่อเห็นของวางทิ้งไว้ก็ก่อเหตุทันที โดยไม่สนว่าของนั้นจะเป็นอะไร ซึ่งตนคาดว่าเมื่อคนร้ายได้ของที่ขโมยไปนั้นก็น่าจะนำไปขายนอกจากนี้จากการสอบถามทาง พ่อค้า-แม่ค้า ในพื้นที่ตลาด ก็พบว่าถูกคนร้ายทั้ง 2 คน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งจะตระเวนขับรถไปจุดต่าง ๆ

นอกจากนี้ตลาดแห่งนี้ก็ยังมีตลาดอื่นที่ถูกคนร้ายก่อเหตุเช่นเดียวกัน ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้นตนก็ได้พยายามขับรถไล่ตามคนร้ายแต่ก็ไม่ทัน จึงได้เพียงภาพถ่ายและป้ายทะเบียนรถของคนร้ายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบและติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายทั้ง 2 คนนี้จะตระเวนก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง จนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และบรรดา พ่อค้า-แม่ค้า อย่างไรก็ตามในส่วนของตนก็กำลังรวบรวมหลักฐานและพยานรวมทั้งผู้เสียหายเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายอีกครั้ง

ร่วมแสดงความคิดเห็น