(มีคลิป) “สว.ก๊อง” ปัดเอี่ยวพยานปากเอกคดี “บอส ทายาทกระทิงแดง” เผยคนตายเป็นแค่คนงานในสโมสร ยันไม่รู้มาก่อนว่าเป็นพยานสำคัญข่าวดัง

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 1 ส.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ นายชูชัย เลิศพงษ์อดิศร หรือ “สว.ก๊อง” อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสโมสร เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับกรณีกระแสข่าว การเสียชีวิตของ นายจารุชาติ​ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากเอกคดี “บอส กระทิงแดง” ที่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เสียชีวิตเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 30 ก.ค.63 ที่ผ่านมา และต่อมาได้มีการสืบสาวจนกระทั่งทราบว่า นายจารุชาติ​ ผู้เสียชีวิตนั้นได้ทำงานอยู่ในสโมสรฟุตบอลที่ทางเจ้าตัวเป็นประธานอยู่ จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และมีการตั้งข้อสงสัยมุ่งประเด็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิต และคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส ทายาทกระทิงแดง” หรือไม่อย่างไร

โดยทาง นายชูชัย เลิศพงษ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง เปิดเผยกับทางผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รู้จักกับ นายจารุชาติ ผู้เสียชีวิต เมื่อช่วงประมาณเดือนมกราคมของปีนี้ โดยรู้จักผ่านทาง นายวัลลภ ใจชื้น ซึ่งเป็นเจ้าของร้านกุ้งเผาสุพรรณ ย่านชุมชนบ่อสร้าง ซึ่งได้พามาแนะนำให้ตนรู้จักและฝากฝังขอให้หางานให้ทำ เนื่องจากตนก็เป็นประธานสโมสร เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ตนเห็นว่าเป็นพวกพ้องเดียวกันมาขอความช่วยเหลือจึงรับฝากพา นายจารุชาติ เข้ามาทำงาน ซึ่งจากการสอบถามทาง นายวัลลภ ก็ทราบว่าก่อนหน้านี้ นายจารุชาติ เป็นคนขับรถส่งปลา หลังจากที่ได้รับ นายจารุชาติ เข้ามาทำงานตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ก็ได้ทำงานหลายอย่าง เนื่องจากทางสโมสรมีการปรับปรุงสนามที่ราชมงคลดอยสะเก็ด เพื่อเตรียมเป็นสนามแข่งขันฟุตบอล ซึ่งขณะนั้น นายจารุชาติ ก็ได้ไปเป็นคนงานในการปรับปรุงสนามและทำงานหลาย ๆ อย่างไปด้วย และในตอนนั้นตนก็ไม่ทราบมาก่อนเลยว่า นายจารุชาติ นั้นไปเป็นพยานสำคัญในคดีของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส ทายาทกระทิงแดง”

ขณะเดียวกัน ในส่วนของตนนั้นก็ก็รู้จักกับตระกูล “อยู่วิทยา” เนื่องจากสโมสร เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ได้มีการขอสปอนเซอร์กับทาง คุณเฉลิม อยู่วิทยา เพราะในขณะนั้นทางสโมสรต้องการสปอนเซอร์ เนื่องจากต้องใช้เงินในการทำทีม และการทำกิจกรรมต่าง ๆ เนื่องจากลำพังตนเองก็ไม่มีเงินเพียงพอที่จะทำทีมเพียงลำพัง และหลังจากที่ทีมมีชื่อเสียงจึงได้มีการติดต่อขอสปอนเซอร์ จึงได้รู้จักกับทาง คุณเฉลิม ในช่วงปี 2560 และที่ผ่านมาก็เคยพูดคุยกันเผิน ๆ เกี่ยวกับเรื่องคดีความที่เกิดขึ้นตามที่ปรากฎเป็นข่าว แต่ก็ไม่มีการเอ่ยถึงเรื่องของ นายจารุชาติ แต่อย่างใด และส่วนประเด็นที่ นายจารุชาติ เข้ามาทำงานกับตัวเองได้นั้นก็เพราะมาจาก นายวัลลภ ที่รู้จักเป็นพรรคพวกกันนำมาฝากฝังเท่านั้น เนื่องจากเห็นว่า นายจารุชาติ เป็นคนทำงานได้หลายอย่าง ประกอบกับตอนนั้นก็เป็นช่วงที่มีการปรับปรุงสนาม ซึ่งไม่มีคนช่วย เนื่องจากอยู่ไกลจึงได้รับ นายจารุชาติ ไว้เพื่อให้ไปทำงาน โดยมีสโมสรเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้างให้กับ นายจารุชาติ และบางครั้ง นายจารุชาติ ก็ไปช่วยงาน นายวัลลภ ด้วยอีกทาง

ส่วนที่อยู่นั้น นายจารุชาติ นั้นก็ไป ๆ มา ๆ ทั้งที่สนามที่มีการปรับปรุง และบ้านที่อยู่บ่อสร้าง รวมทั้งบ้านของตน โดยล่าสุดที่มาอยู่กับตนก็ช่วงก่อนหน้าที่ทาง นายจารุชาติ จะประสบอุบัติเหตุช่วง 2-3 วัน ส่วนข้าวของที่นำไปให้กับทางญาติ นายจารุชาติ หลังจากเสียชีวิตก็คือ นายวัลลภ เป็นคนจัดการทั้งหมด เนื่องจากก่อนหน้านี้นั้นทาง นายจารุชาติ ก็ไปดูแลสนามฟุตบอลที่มีการปรับปรุงโดยตลอดส่วนคนที่โทรไปแจ้งทางญาติหลังจาก นายจารุชาติ เสียชีวิตนั้นตนไม่ทราบ และไม่ทราบด้วยว่า นายจารุชาติ นั้นเคยทำงานให้กับครอบครัว “อยู่วิทยา” หรือไม่ และก่อนหน้าที่ทาง นายจารุชาติ จะมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตก็ไม่เคยคุยกันในเรื่องที่เจ้าตัวได้ไปเป็นพยานสำคัญในคดี “บอส ทายาทกระทิงแดง” แต่อย่างใด แต่หลังจากที่เห็นข่าวดังกล่าวขึ้นมาช่วง 2-3 วัน ที่มีชื่อของ นายจารุชาติ ปรากฎมานั้น ตนก็คิดว่าจะถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นอยู่เหมือนกันแต่ นายจารุชาติ ก็มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน

สำหรับประเด็นที่ นายวัลลภ ใจชื้น รู้จักกับ นายจารุชาติ ผู้เสียชีวิตนั้นก็เนื่องมาจาก นายจารุชาติ ก่อนหน้านั้นป็นคนขับรถส่งปลาจากพื้นที่ดอยหล่อ มาส่งในตลาดเมืองใหม่ ซึ่งตนก็ทราบข้อมูลมาเพียงเท่านี้ส่วนจะรู้จักกันมาก่อนหน้านั้นหรือไม่อย่างไรตนก็ไม่ทราบเช่นกัน แต่หลังจากที่ตนได้รับ นายจารุชาติ เข้ามาทำงานก็เห็นว่า นายจารุชาติ นั้นมีนิสัยดีเป็นคนขยันทำงาน และเอาใจใส่กับงาน ส่วนการเกิดอุบัติเหตุกับทาง นายจารุชาติ ตนก็เห็นจากข่าวและเห็นคลิปเหตุการณ์ ซึ่งในส่วนของตนนั้นก็คิดว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่หลังจากที่มีประเด็นกระแสข่าวเกิดขึ้นมาและมีตนเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนจึงต้องออกมายืนยันว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้นั้นไม่ได้มีเบื้องหน้า เบื้องหลังแต่อย่างใด และตนก็ไม่กังวลว่าตนจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับคดีดังที่เกิดขึ้น เนื่องจากตนก็เป็นบุคคลสาธารณะและพร้อมที่จะให้ข้อมูลทุกอย่างเท่าที่ทราบ

นอกจากนี้จากการที่ทาง นายจารุชาติ ไปเป็นพยานและต้องไปให้ปากคำกับกรรมาธิการกฎหมายในวันที่ 5 ส.ค. ที่จะถึงนี้ ตนก็ไม่ทราบและทาง นายจารุชาติ ก็ไม่เคยบอกกล่าวกับตนหรือทาง นายวัลลภ แต่อย่างใด เพียงแต่รู้แค่หลังจากมีข่าวออกมา 2-3 วันว่า นายจารุชาติ เป็นพยานสำคัญของคดีดังเท่านั้น ซึ่งภายหลังเหตุการณ์เสียชีวิตของ นายจารุชาติ ก็มีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสอบถามกับทางตน แต่ตนก็ยืนยันไปว่ารู้จักกับ นายจารุชาติ เพียงเป็นคนงานที่คนรู้จักนำมาฝาก และไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับคดีของ “บอส ทายาทกระทิงแดง” แต่อย่างใด

ร่วมแสดงความคิดเห็น