นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) แถลงว่า จากกรณีที่มีหลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะภาคเหนือ ส่งผลให้ถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.) ได้รับความเสียหาย บางพื้นที่ถนนถูกตัดขาด คอสะพานขาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้นั้น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มีคำสั่งเร่งด่วนให้ ทล. ระดมทุกหน่วยงานในสังกัด รับมือสถานการณ์ ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้รับรายงานว่ามีทางเบี่ยงสะพานขาด 3 จุด ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอนดอยสะเก็ด-ป่าเมี่ยง ตอน 2 ที่บริเวณ กม.32+260, กม.32+942 และ กม.39+880 และในพื้นที่ จ.เชียงราย ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอน บ.ปางน้ำถุ-บ.โป่งป่าตอง ตอน 2 ทางเบี่ยงสะพานขาด 2 จุด ประกอบไปด้วย บริเวณ กม.58+679 และ กม.61+632 ขณะนี้ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 และเชียงรายที่ 1 ได้ส่งเครื่องจักรเข้าพื้นที่แล้ว และเตรียมวัสดุ เพื่อซ่อมแซม และวางท่อเหลี่ยมเพิ่ม เพื่อคืนสภาพในทุกจุด รวมทั้งการทอดสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) ที่สะพานขาด คาดว่าจะเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรได้เร็ว ๆ นี้ เนื่องจากสถานการณ์ฝนยังตกต่อเนื่อง มีน้ำไหลหลากทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก
ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม สถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง
ขณะนี้ ทางหลวงได้ถูกน้ำท่วม 7 จังหวัด (10 สายทาง 17 แห่ง) อาทิ จ.เชียงราย (ทล.118) จ.เชียงใหม่ (ทล.118,ทล.121) จ.น่าน (ทล.101,ทล.1091) และ จ.ลำปาง (ทล.120) โดยทางหลวงที่การจราจรไม่สามารถผ่านได้มี 8 แห่ง ดังนี้ ทล.118 ที่ กม.32+269, กม.32+942, กม.39+880, กม.58+679, กม.61+632, ทล.121 ที่ กม.4+000, ทล.2018 ที่ กม.0+194 และ ทล.2249 ที่ กม.16+250 โดยผู้ใช้ทางสามารถสอบถามสภาพการจราจรได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรี 24 ชั่วโมง)
ร่วมแสดงความคิดเห็น