องคมนตรี เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ

องคมนตรี เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ และประชุมติดตามการปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาฝนทิ้งช่วงและเติมน้ำเขื่อนที่จังหวัดตาก

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารสำนักงานศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจังหวัดตาก เพื่อใช้เป็นศูนย์บัญชาการและปฏิบัติการฝนหลวงครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยมีนายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี ณ ท่าอากาศยานตาก อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก

กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเตรียมการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจังหวัดตาก แทนศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ โดยขอใช้พื้นที่ท่าอากาศยานตากจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก เนื่องจากท่าอากาศยานตากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ขัดขวางเส้นทางการบินพาณิชย์ มีความพร้อมในด้านอาคารสถานที่และโครงสร้างพื้นที่  ซึ่งความยาวทางวิ่งของสนามบินมีระยะทางที่เหมาะสมในการ ขึ้น-ลง ของเครื่องบิน อีกทั้งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเป็นศูนย์การบินดัดแปรสภาพอากาศระดับสากลในอนาคต โดยมีระยะเวลาในการก่อสร้างให้แล้วเสร็จในปี 2566

จากนั้นช่วงบ่าย องคมนตรีได้ร่วมประชุมติดตามการปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาฝนทิ้งช่วงและการเติมน้ำเขื่อน ณ ห้องประชุมอาคารเกษมจาติกวณิช เขื่อนภูมิพล อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยรับฟังการรายงานการบริหารจัดการน้ำและการผลิตไฟฟ้าของเขื่อนภูมิพล การรายงานข้อมูลสภาพอากาศและการพยากรณ์อากาศ สรุปผลการปฏิบัติการฝนหลวงแก้ไขปัญหาฝนทิ้งช่วงและการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้กับเขื่อน/อ่างเก็บน้ำ และรายงานการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตรในภาพรวมของประเทศและพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากนั้นเดินทางไปดูปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล ซึ่งขณะนี้มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำทั้งสิ้น 4,229.60 ล้านลูกบาศก์เมตร​ หรือคิดเป็น​ 31.42%  และปริมาณน้ำที่ใช้การได้​  429.60 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 4.45%

ที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้ปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2563 ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงรวม 112 วัน ทำให้เกิดฝนตกคิดเป็นร้อยละ 96.43 ซึ่งสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาฝนทิ้งช่วงได้ มีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับประโยชน์ จำนวน 21.44 ล้านไร่ และในช่วงระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึง 19 สิงหาคม พ.ศ. 2563 ได้เติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนเก็บกักน้ำ จำนวน 19 เขื่อน ได้ปริมาณน้ำ 471 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ยังคงปฏิบัติการฝนหลวงอย่างต่อเนื่องทุกวัน เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงและเพิ่มปริมาณน้ำให้กับเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด กิจกรรมดังกล่าวจัดไปเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา

ร่วมแสดงความคิดเห็น