ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ปางช้างแห่งหนึ่งใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีช้างและสุนัขคู่หนึ่ง ที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกันอย่างมากแบบเพื่อนซี้ แม้จะต่างสายพันธุ์ โดยแทบจะใช้ชีวิตกินอยู่และไปไหนมาไหนด้วยกันเกือบตลอดในปางช้าง ซึ่งสิ่งที่อาจจะคุ้นชินเป็นปกติสำหรับคนในปางช้าง แต่สร้างความประหลาดใจและตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก อยู่ตรงที่ช้างตัวนี้ยอมให้สุนัขเพื่อนซี้ขึ้นไปขี่หลังและนั่งราวกับเป็นควาญช้างแล้วพากันเดินไปมาด้วยกันอย่างสบายอารมณ์
จากการตรวจสอบพบว่าปางช้างดังกล่าว คือ ปางช้างเทียมจันทร์ ตั้งอยู่ถนนแม่ริม-สะเมิง (สายเก่า) ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการลงพื้นที่พบช้างและสุนัขคู่หนึ่งใช้ชีวิตคลุกคลีอยู่ด้วยกันในปางช้างดังกล่าว ขณะที่จากการสอบถามทราบว่า ช้างตัวดังกล่าวชื่อ “วาเลนไทน์” ตัวผู้ อายุ 9 ปี ส่วนสุนัข ชื่อ “เฮกคัพ” ตัวผู้ สีดำ อายุ 3 ปี ซึ่งผู้ดูแลปางช้างและควาญได้นำชมความน่ารักสนิทสนมของเพื่อนซี้ต่างสายพันธุ์คู่นี้ พร้อมทั้งให้ “เฮกคัพ” สาธิตการขึ้นขี่หลัง “วาเลนไทน์” แล้วพากันเดินเล่นด้วย
โดย นายชัยมงคล คะเนนอก อายุ 26 ปี ควาญช้าง บอกว่า ตัวเองเป็นควาญช้างที่ดูแลช้าง “วาเลนไทน์” มาตลอดตั้งแต่เล็กแล้ว ซึ่งชื่อนี้ได้มาเพราะเกิดวันที่ 14 ก.พ. 54 ที่อยุธยา ขณะที่ต่อมาเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตัวได้ “เฮกคัพ” ซึ่งเพื่อนชาวต่างชาติตั้งชื่อให้ มาเลี้ยงตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข ทำให้ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเกือบตลอด เพราะระหว่างที่ตัวเองดูแล และไปไหนมาไหนกับ “วาเลนไทน์” จะต้องมี “เฮกคัพ” ไปด้วยเสมอ แม้กระทั่งตอนนอนก็ไม่ห่างกัน เพราะคอกช้าง กับบ้านพักของตัวเองที่เลี้ยงสุนัขไว้ก็อยู่ติดกัน จึงทำให้ “วาเลนไทน์” และ “เฮกคัพ” สนิทสนมรักใคร่กันมาก
ทั้งนี้พฤติกรรมการแสดงออกของทั้งคู่นั้น แตกต่างจากช้างและสุนัขทั่วไปที่ปกติแล้วจะไม่สุงสิงกัน เพราะสุนัขมักจะไม่ค่อยเข้าใกล้และจะเห่าใส่หากเจอช้าง ซึ่งคู่นี้สนิทกันถึงขั้นที่ “วาเลนไทน์” ยอมให้ “เฮกคัพ” ขึ้นไปขี่บนหลัง แล้วพาเดินไปไหนมาไหนด้วยตั้งแต่ที่ยังเป็นลูกสุนัข เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นภาพที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็นเสมอ
สำหรับ “วาเลนไทน์” เป็นช้างที่ประจำอยู่ที่ปางช้างเทียมจันทร์ ทำหน้าที่พานักท่องเที่ยวเดินชมและนั่งชมวิถีชีวิตและเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งทุกครั้งที่ออกทำงาน “เฮกคัพ” จะตามไปด้วยเสมอ ทั้งเดินกระเซ้าเย้ากันไปตามทาง รวมทั้งบ้างครั้งขึ้นไปนั่งบนหลัง “วาเลนไทน์” สร้างรอยยิ้มให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการเป็นอย่างดี ซึ่งทางปางช้างเพิ่งจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อต้นเดือน ส.ค. 63 นี้ หลังต้องปิดไปนานหลายเดือนเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามและเที่ยวชมได้ทุกวัน
ร่วมแสดงความคิดเห็น