นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อเสนอคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ที่เสนอโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการผลิตและการตลาด รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนชาวสวนลำไยเพื่อประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน วงเงิน 3.44 พันล้านบาท
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่าเป้าหมายโครงการจะเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี นี้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรประมาณ 2 แสน ครัวเรือน พื้นที่ปลูกรวมกว่า 1.2ล้าน ไร่ เป็นลำไยให้ผลผลิตแล้ว อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป อัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่
เงื่อนไขยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมโครงการนี้ต้องมีสัญชาติไทย บรรลุนิติภาวะ เป็นหัวหน้าครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนภายใน 15 ก.ย. 2563 กรณีเคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้ก่อนหน้านี้ก่อนมีมติคณะรัฐมนตรี 25 ส.ค. 2563 ต้องปรับปรุงข้อมูลภายใน 15 ก.ย. นี้
สำหรับเกษตรกรรายใหม่ที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรมาก่อนประสงค์จะเข้าร่วมโครงการฯ ต้องขึ้นทะเบียนให้แล้วเสร็จภายใน 15 ก.ย. 2563 เอกสารและหลักฐานขึ้นทะเบียนเกษตรกร ประกอบด้วยบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สำเนาเอกสารสิทธิ์ (ถ้ามี) ต้องมีบ้านเลขที่ กรณีย้ายเข้าทะเบียนบ้านใหม่ ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขกระทรวงมหาดไทย ก่อน 29 พ.ย. 2561
“เงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ซึ่งจะจ่ายไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ รวมงบกว่า 3,355 ล้านบาทนั้น จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ที่เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ภายในสิงหาคมไปจนถึงเดือนธันวาคม 2563”
ในขณะที่เครือข่ายชาวสวนลำไยภาคเหนือ (เชียงใหม่และลำพูน ) ระบุว่า กรณีเงินเยียวยาช่วยเหลือนั้น อยากให้หน่วยงานระดับพื้นที่ทุกหมู่บ้าน ตำบล ติดตามตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่ให้เกิดปัญหาเช่นกรณีเงินช่วยชาวนา เงินช่วยผู้ประสบภัย ซึ่งผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินกลายเป็นเจ้าของที่นา เจ้าของบ้านเช่า ทั้งที่กลุ่มที่ควรได้รับการเยียวยาต้องเป็นชาวนา ชาวบ้านที่เดือดร้อนจริง ๆ กรณีชาวสวนลำไยก็เช่นกัน มีการสอบถามความชัดเจนของโครงการนี้จากผู้นำชุมชน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยคำตอบที่ได้รับ ยังยืนยันว่า จะจ่ายตามหลักฐาน ทะเบียนเกษตรกร นั่นหมายความว่า อาจมีเกษตรกรที่เช่าสวนลำไยไม่ได้เงินเยียวยาส่วนนี้
ชาวสวนลำไย ในต.แม่แรง อ.ป่าซาง ลำพูน กล่าวว่า มีอาชีพทำสวนลำไย โดยดูแลสวนให้เจ้าของที่เป็นญาติและไปทำงานต่างถิ่น เข้าใจเงื่อนไขที่ระบุว่าหลักฐานพื้นที่ทำสวนลำไย ผู้มีชื่อในเอกสารก็ต้องมีสิทธิ์โดยตรงอยู่แล้ว จะไปอ้างว่าเจ้าของมอบให้ทำสวนคงไม่เข้าเกณฑ์ ก็มีการเจรจาตกลงกันกับเงินเยียวยาที่จะได้รับ อาจจะเป็นทุนในการซื้่อสารบำรุง ดูแลสวน หรือหักลบส่วนที่จะแบ่งปันกันในฤดูกาลต่อไป
“ที่น่าห่วงคือกลุ่มชาวสวนที่คุ้นเคยกัน ไม่ว่าจะแถวแม่อาว สันห้างเสือ หรือหลายๆแห่งแถวหนองผำ อาจเข้าไม่ถึง
สิทธิ์ เพราะรับจ้างดูแล หรือเช่าสวนทำลำไย ถ้าเจ้าของเข้าใจชีวิตเกษตรกร ก็อาจแบ่งตามเหมาะสมให้บ้าง แต่สภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เงินสูงสุด 5 หมื่นบาท ลงทุนเป็นทำอะไรได้เยอะ “
ร่วมแสดงความคิดเห็น