ยอดเก็บภาษีเหล้า เบียร์เข้าเป้า เฉพาะ ก.ย. ทะลุ 4 หมื่นล้าน เศรษฐกิจภูมิภาคเริ่มฟื้น

นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผอ.สำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค ร่วมเปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ว่าจากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดล่าสุด จากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พบว่าแนวโน้มความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ระดับ 60.3 สะท้อนถึงการคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่าน ๆ มา โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรม เนื่องจากเป็นช่วงที่พืชผลทางการเกษตรหลายชนิดออกสู่ตลาด เช่น ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ชา และกาแฟ เป็นต้น ทำให้มีวัตถุดิบป้อนโรงงานมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้เศรษฐกิจภาคเหนือดีขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชนหลายตัว เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัว นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลพวงจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ทำให้มีการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังชะลอตัว โดยจำนวนผู้เยี่ยมเยือนและรายได้จากการเยี่ยมเยือนหดตัวอยู่ที่ ร้อยละ -35.2 และ -59.3 ต่อปี

ด้านการจัดเก็บรายได้สรรพสามิตนั้น นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า ในรอบ 11 เดือน (1 ต.ค. 2562 – 24 ก.ย. 2563) จัดเก็บได้รวม 543,067.08 ล้านบาท (คาดการณ์ 546,644.65 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับประมาณการต่ำกว่า 95,955.35 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 14.93)

รายได้ภาษีที่จัดเก็บได้สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน 221,140.28 ล้านบาท ภาษีรถยนต์ 84,347.28 ล้านบาท ภาษีเบียร์ 80,012.64 ล้านบาท ภาษีสุรา 61,205.39 ล้านบาท ภาษียาสูบ 62,761.24 ล้านบาท โดยในเดือน ก.ย.นี้ (ช่วง 1-24 กันยายน 2563) จัดเก็บได้รวม 39,184.78 ล้านบาท คาดการณ์ 42,762.35 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับประมาณการ ต่ำกว่า 8,065.38 ล้านบาท หรือ 15.87 % เท่านั้น

ทีมข่าวสอบถามผู้ประกอบการค้ารถ ย่านอัษฎาธร นครเชียงใหม่ ระบุว่า อัตราการขายออกเฉลี่ยต่อเดือนปีนี้ ในกลุ่มรถใช้แล้วยังน้อยกว่าเป้าหมาย แต่ก็ขายได้เรื่อย ๆ และมีการซื้อเข้ามาต่อเนื่อง เพราะกลุ่มผู้ใช้รถส่วนหนึ่งแบกรับภาระไม่ไหว ยอมปล่อยรถแบบขายดาวน์ดีกว่า แบกรับภาระกับไฟแนนซ์

ผู้ค้ารถมือสอง ย่านสันทราย จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ถ้าไม่มีการจัดกิจกรรมลดกระหน่ำราคาจากโชว์รูมต่างๆมากเกินไปก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะตลาดคนละกลุ่มอยู่แล้ว แต่ยอมรับว่า ขายรถช่วงโควิด-19 อืดกว่าทุกช่วง อีกทั้ง กลุ่มสินเชื่อที่รับจัดรถจากเต๊นท์เงื่อนไขมากกว่าเดิม จัดไม่ได้ตามเพดานที่เคยตกลงกัน ทำให้เสียลูกค้าไปบ้าง

“เศรษฐกิจช่วงปลายฝน ขายผลผลิตได้ ก็เป็นสัญญาณที่ดี เพราะที่มาดูรถ ซื้อรถ ส่วนหนึ่งเป็นชาวไร่ ชาวสวน น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าเศรษฐกิจบ้านเราน่าจะกระเตื้องขึ้น”

ร่วมแสดงความคิดเห็น